ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 12 ก.พ.63 ปิด 1,539.84 จุด เพิ่มขึ้น 15.91 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 54,814.18 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 670.93 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด BAM ปิด 31.25 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, SCB ปิด 101 บาท บวก 3.50 บาท, EA ปิด 49.25 บาท บวก 2 บาท, ADVANC ปิด 200 บาท บวก 3.50 บาท และ PTTEP ปิด 127.50 บาท บวก 2 บาท

ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังคลายความกังวลการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีนเริ่มชะลอตัว

ขณะที่หุ้น ADVANC บวกแรง หลังบริษัทแจ้งอนุญาโตตุลาการ ยกคำร้องที่ ทีโอทีร้องให้บริษัทจ่ายค่าโรมมิ่ง ตามข้อตกลงต่อท้ายสัญญาอนุญาตดำเนินกิจการบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ช่วง ก.ค.56 ถึง ก.ย.58 เป็นเงิน 16,252 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยผิดนัด 1.25% ต่อเดือน ด้วยเหตุที่บริษัทไม่ได้ปฏิบัติผิดสัญญาตามที่ทีโอทีกล่าวหา เช่นเดียวกับ MCOT ที่บวกดี หลังมีข่าว กสทช.จะจ่ายเงินเยียวยาค่าคลื่น 2600MHz ที่เอาไปใช้ประมูล 5G วันที่ 16 ก.พ.นี้

สำหรับทิศทางตลาด บล.โกลเบล็ก ประเมินหุ้นไทยมีโอกาสผันผวนต่อ เนื่องจากนักลงทุนกังวลผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนาซึ่งกระทบต่อการท่องเที่ยวและโรงแรมในประเทศอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งการเมืองในประเทศจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ปลายเดือนนี้ และประธานสภาฯ ยังมีประชุมนัดพิเศษวันที่ 13 ก.พ. เพื่อพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายปี 63 วาระ 2-3 เพื่อให้ทันต่อการเบิกจ่ายงบประมาณ

นอกจากนี้ ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมครั้งใหญ่โดยจะมีไกด์ไลน์ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ ส่วนการคิดวงเงินต้นในการคิดดอกเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระหนี้มีผลบังคับใช้ 1 พ.ค. กดดันผลการดำเนินงานหุ้นกลุ่มธนาคารปีนี้ ขณะที่การเปิดประมูล 5G ของ กสทช. ซึ่งจะมีการเคาะราคาประมูล 5G ในวันที่ 16 ก.พ.นี้ น่าจะสร้างสีสันให้หุ้นกลุ่ม ICT ได้พอสมควร

แนะกลยุทธ์ ให้เลือกลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเบิกจ่ายงบประมาณ เช่น CK, STEC, PYLON และ SEAFCO รวมทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า ได้แก่ TU และ CPF

ส่วนราคาทองคำ บล.โกลเบล็ก คาดสัปดาห์นี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 1,555-1,585 ดอลลาร์ หรือ 22,910–3,400 บาทต่อทองคำ!!

อินเด็กซ์ 51