ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 ก.พ.63 ปิดที่ 1,496.06 จุด ลดลง 18.08 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 53,178.96 ล้านบาท ต่างชาติซื้อขาย 256.01 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด CPALL ปิด 68 บาท ลบ 2.75 บาท, GPSC ปิด 81.25 บาท ลบ 2.75 บาท, AOT ปิด 70.25 บาท ลบ 0.25 บาท, CPF ปิด 28 บาท ลบ 2 บาท และ BAM ปิด 25.75 บาท ลบ 0.75 บาท

หุ้นไทยทำนิวโลว์ปรับตัวลงหลุด 1,500 จุด จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ยังไม่มีสัญญาณว่าจะชะลอตัวลง

ขณะที่หุ้น CPF ปรับตัวลงแรงจากความกังวลกรณีพบไข้หวัดนกในจีน ขณะที่ บล.หยวนต้า ระบุว่า ผลกระทบจำกัด โดยผลของราคาเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าผลกระทบของรายได้ในจีน และการลดลงของกากถั่วเหลืองเป็นบวกต่อต้นทุน รวมถึงค่าเงินบาทยังเป็นทิศทางอ่อนค่า ขณะที่อีกประเด็นที่ตลาดกังวลคือประเด็นการซื้อธุรกิจของ CPALL แต่ยังคงคำแนะนำซื้อ

ส่วน บล.เอเซียพลัส ประเมินว่า ผลกระทบดังกล่าวจำกัด แต่หากโรคไข้หวัดนกระบาดมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อฟาร์มเลี้ยงไก่ของผู้เลี้ยงรายย่อยในจีนเป็นหลัก เพราะเลี้ยงไก่ในฟาร์มเปิด ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ในจีนที่เลี้ยงไก่ในฟาร์มปิด จะได้ประโยชน์จากแนวโน้มราคาไก่ในประเทศจีนที่สูงขึ้น ส่งผลบวกต่อ CPF ที่มีสัดส่วนรายได้จากฟาร์มไก่ในจีนราว 4% ของรายได้รวม

นอกจากนี้ จะส่งผลบวกทางอ้อมให้ตลาดส่งออกไก่ไทยดีขึ้นด้วย เพราะหากจีนขาดแคลนไก่ จะทำให้จีนต้องนำเข้าไก่จากต่างประเทศมากขึ้น

นอกจากนี้ ล่าสุดค่าเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าจนล่าสุดอยู่ที่ 31.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นผลบวกต่อผู้ประกอบการส่งออกอาหารที่จะมีประสิทธิภาพการทำกำไรดีขึ้นและมีความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งในประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น

คงน้ำหนักการลงทุน “เท่าตลาด” Top pick เลือก CPF (FV@B40) และ TU (FV@B20) รับธุรกิจทูน่าและกุ้งฟื้นตัว อีกทั้งยังได้รับผลบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอีกด้วย!!

อินเด็กซ์ 51