*ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาด 1,552.96 จุด ลดลง 6.03 จุด มูลค่าซื้อขาย 40,704 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเป็นวันที่ 9 เหตุไร้ปัจจัยกระตุ้นและกังวลเศรษฐกิจ-การเมืองในประเทศ แนวโน้มทิศทางตลาดฯ วันนี้ มีโอกาสแกว่งตัวแบบไซด์เวย์ มีกรอบแนวรับ 1,550-1,540 จุด แนวต้าน 1,560-1,570 จุด

*เพื่อรอดูปัจจัยเชิงบวกจากภายนอก เริ่มการเลือกตั้งอังกฤษวันที่ 12 ธ.ค. มีผลต่อเรื่องการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่สหรัฐฯ จะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวันที่ 15 ธ.ค. ต้องรอดูว่าผลจะเป็นอย่างไร, การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 10-11 ธ.ค. และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ส่วนปัจจัยในประเทศ ต้องติดตามปัจจัยการเมือง โดยเฉพาะเรื่องเสถียรภาพรัฐบาลต่อไป

*SVI จัดหนักจัดเต็ม! ปันผลระหว่างกาล 1.928 บาท หลังจาก “พงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ” ซีอีโอและผู้ถือหุ้นใหญ่ ทำเทนเดอร์ฯ หุ้น SVI เสร็จสิ้น..จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 72.54% (จากเดิม 45.71%) ทำให้เม็ดเงินปันผลกว่า 4,000 ล้านบาทครั้งนี้ “พงษ์ศักดิ์” คนเดียวรับปันผลไปกว่า 3,000 ล้านบาท เอาเป็นว่าเสร็จเรียบร้อยโรงเรียนพงษ์ศักดิ์ไป..ส่วนชนกลุ่มน้อยรายย่อยได้เฮกันไปด้วย

*HUMAN มีการทำบิ๊กล็อต 12.51% ราคาเฉลี่ย 7.70 บาท งานนี้ “สุนทร เด่นธรรม” ซีอีโอและผู้ถือหุ้นใหญ่ ระบุว่าเป็นการทำดีลของกองทุนแห่งหนึ่งที่ขายกับบริษัทแห่งหนึ่ง ที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตรของ HUMAN พันธมิตรรายนี้ต้องการที่จะร่วมถือหุ้นและร่วมบริหารงานบริษัท ด้วยการส่งคนเข้ามาเป็นกรรมการ 1 คนจากคณะกรรมการทั้งหมด 7 คน พันธมิตรรายใหม่จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 โดยจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้

*JAS ทำทฤษฎีขึ้น XD วันนี้ ราคามีโอกาสปรับลง 0.30 บาท (ตามเงินปันผล 0.30 บาท) แต่เชื่อว่าจะย่อตัวสั้น ๆ เพียงเท่านั้น เพราะอย่าลืมนะว่าปันผล 0.30 บาท บริษัทระบุไว้ชัดว่าเป็นปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสม ณ วันที่ 30 ก.ย. 2562 เท่านั้น..นั่นหมายถึงปันผลพิเศษจากกำไรพิเศษที่ได้จากการขายสิทรัพย์เข้า JASIF ที่เพิ่งเสร็จสิ้นหลังจาก 30 ก.ย. 2562 กำลังจะประกาศอีกรอบหรือไม่.!? ถ้าเป็นจริงดังว่าดูจากประมาณการกำไรพิเศษมีโอกาสเห็นเกิน 1.50 บาทแน่นอน..เฝ้าติดตามดูอย่าได้กะพริบตาเลยทีเดียว

*เอาอีกแล้ว “แบงก์ชาติ” พ่นพิษ กดหุ้น AEONTS-KTC รูดระนาว.! เมื่อแบงก์ชาติมีแผนเข้าช่วยเหลือ “ลูกหนี้ดี” กลุ่มสินเชื่อบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด เพื่อลดภาระหนี้ให้ลูกหนี้กลุ่มดังกล่าว ผ่านโครงการ “รีไฟแนนซ์” ลูกหนี้ที่เข้าโครงการนี้จะได้รับการคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 7-12% จากปกติอัตราดอกเบี้ยระดับ 18-28% โครงการดังกล่าวจะมีความชัดเจนต้นปี 2563 เฮ้อ.! เมื่อ “เรกกูเลเตอร์” หันมาเล่นบทบาทเป็น “โปรโมเตอร์” ซะเองแบบนี้..ซวยละสิ..!!