thaihoon สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 14,583 | วันที่: 15/11/2019 @ 08:14:06 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด STEC ปิด 14.40 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, PTT ปิด 44.75 บาท ลบ 0.50 บาท, KBANK ปิด 149 บาท ลบ 0.50 บาท, ADVANC ปิด 232 บาท ลบ 1 บาท และ AOT ปิด 79 บาท บวก 0.75 บาท
ไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ มองข้ามช็อตไป ปี 63 ว่า หุ้นไทยยังน่าสนใจลงทุน มีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน ทั้งการดำเนินนโยบายการเงิน (คิวอี) การอัดฉีดเงินเข้ามาในระบบของธนาคารกลางหลายประเทศ รวมถึงเป็นช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ
ทำให้ประเมินว่าปีหน้านักลงทุนต่างชาติจะโยกเงินลงทุนที่อยู่ใน ตลาดตราสารหนี้ เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากถึง 100,000 ล้านบาท
ปีหน้าจะเห็นการโยกเงินจากนักลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก ที่ให้ผลตอบแทนดีในปีนี้มายังตลาดหุ้นไทย และโยกจากตลาดตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนต่ำมายังตลาดหุ้นไทยด้วย ส่งผลให้กระแสเงินทุนต่างชาติมีโอกาสจะไหลเข้าประมาณแสนล้านบาท ส่วนแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทย คาดจะดีขึ้นกว่าปีนี้ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะระบุถึงเป้าหมาย
ขณะที่ยังมีปัจจัยบวกจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่มีทิศทางดีขึ้น ทั้งความชัดเจนจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่มีแนวโน้มคลี่คลาย เนื่องจากปีหน้าสหรัฐฯจะเลือกตั้งประธานาธิบดี ทำให้มีการประเมินว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ลงสมัครอีกครั้ง น่าจะไม่ออกนโยบายที่เป็นความเสี่ยงอีก รวมถึงปัญหาเบร็กซิตของอังกฤษเชื่อว่าจะได้ข้อสรุปที่ลงตัว
ส่วนเศรษฐกิจไทยคาดว่าปี 63 จะขยายตัวมากกว่า 3% จากผลการใช้มาตรการการเงิน-การคลังกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มเห็นผล ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่า และกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) น่าจะฟื้นตัวดีขึ้น
สำหรับทิศทางหุ้นไทยช่วงที่เหลือของปีนี้จะปรับขึ้นได้ไม่มาก ดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีคาดจะปรับขึ้นไม่เกิน 1,700 จุด สาเหตุที่หุ้นไทยปีนี้น่าผิดหวัง เพราะนักลงทุนมองปัจจัยสั้นมากกว่ามองปัจจัยพื้นฐาน รวมทั้งนักลงทุนต่างชาติที่มักลงทุนระยะยาว แต่ปัจจุบันกลับเน้นลงทุนระยะสั้นขึ้น
ขณะที่หุ้นไทยยังสวนทางกับตลาดหุ้นทั่วโลก ที่มีปัจจัยลบแต่ดัชนีกลับปรับขึ้นได้ดีกว่า ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับขึ้น 25% ตลาดหุ้นจีนขึ้น 26% เยอรมนีและฝรั่งเศสขึ้น 25% อังกฤษขึ้น 10%.
อินเด็กซ์ 51
|