ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 1 ต.ค.62 ปิดที่ 1,624.09 จุด ลบ 13.13 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 40,854.85 ล้านบาท

กองทุนในประเทศขายสุทธินำตลาด 2,390.95 ล้านบาท ตามด้วยต่างชาติขายสุทธิ 1,486.56 ล้านบาท ขณะที่รายย่อยและพอร์ตโบรกเกอร์ผนึกกำลังร่วมกันซื้อสุทธิ 2,746.79 ล้านบาท และ 1,130.72 ล้านบาท ตามลำดับ

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด CPALL ปิด 80 บาท ลบ 1.25 บาท, PTT ปิด 45.75 บาท ลบ 0.50 บาท, ADVANC ปิด 219 บาท ลบ 1 บาท, JASIF ปิด 10.30 บาท ลบ 0.70 บาท และ GULF ปิด 158 บาท ลบ 2 บาท

ตลาดปรับตัวลงจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่กดดันภาพรวมการลงทุน ด้วยมูลค่าซื้อขายเบาบางขณะที่ Fund Flow กระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกต่อ นักลงทุนรอติดตามผลการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน 10-11 ต.ค. รวมทั้งเหตุความรุนแรงในการประท้วงที่ฮ่องกงในช่วงวันชาติจีน ที่สร้างความกังวลให้นักลงทุน

บล.ทิสโก้ แนะกลยุทธ์ลงทุนเดือน ต.ค.ระบุว่า หลังจากตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง 3 เดือนติดต่อกัน มอง SET Index ในระยะสั้นเริ่มมีความเสี่ยงขาลงจำกัด ถึงแม้ยังมีความไม่แน่นอนของปัจจัยในต่างประเทศ แต่คาดหวังว่าจะออกมาเป็นผลบวกแก่ตลาดในเดือนนี้ ประกอบกับสภาพคล่องจะเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4 เป็นต้นไป

หุ้นที่ทิสโก้แนะนำเดือน ต.ค. ได้แก่ BJC, ERW, SEAFCO, SPALI, TRUE, TU และ WHA!!

ปิดท้ายมีข่าว “รื่นวดี สุวรรณมงคล” เลขาธิการ ก.ล.ต.ออกข่าว พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ก.ล.ต. ประชุมประจำไตรมาสร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ที่มี “ไพบูลย์ นลินทรางกูร” ประธานกรรมการ และกรรมการของ FETCO เข้าร่วมหารือนโยบายสำคัญและแนวทางในการขับเคลื่อนตลาดทุนไทย

โดยได้มีการติดตามความคืบหน้าประเด็นต่างๆที่สำคัญ เช่น การทบทวนแผนพัฒนาตลาดทุนไทยในด้านการสนับสนุน SMEs ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุน การจัดทำ Digital Infrastructure Roadmap ของตลาดทุนเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

แนวทางส่งเสริมการออมและการลงทุนระยะยาวเพื่อรองรับการเกษียณอายุ และการทบทวนประเด็นภาษีของตลาดทุนเพื่อส่งเสริม SMEs และ ESG เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน!!

อินเด็กซ์ 51