thaihoon สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 14,583 | วันที่: 17/06/2019 @ 08:21:16 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 มิ.ย.62 ปิดที่ 1,672.33 จุด ลดลง 1.81 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 42,432.02 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 349.70 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าการซื้อขายสูงสุด WHA ปิด 4.56 บาท บวก 0.16 บาท, SCC ปิด 458 บาท ลบ 4 บาท, CPALL ปิด 83 บาท บวก 0.25 บาท, BTS ปิด 11.80 บาท บวก 0.10 บาท และ BDMS ปิด 26 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
หุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งกรอบแคบ โดยดัชนีปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 1,675.90 จุด และต่ำสุดที่ 1,661.37 จุด เป็นผลจากการเข้าซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่องอีก 8,544.22 ล้านบาท และพอร์ตโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 1,384.36 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันและรายย่อยเป็นผู้ขายสุทธิหุ้นไทยออกมา
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า กระแสเงินทุนไหลกลับเข้าตลาดหุ้นในเอเชีย หลังประเมินสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ น่าจะมีความหวังว่าจะเจรจากันได้ในการประชุม จี 20 ขณะที่ในส่วนของสหรัฐฯกับเม็กซิโกคลี่คลายลง
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากประเทศเศรษฐกิจสำคัญของโลกมีแนวโน้มใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง โดยคาดว่าจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในการประชุมเฟดสัปดาห์หน้า
ส่วนการเมืองในประเทศก็มีความคืบหน้า หลังได้นายกรัฐมนตรีและภาพของรัฐบาลใหม่ และ ครม.เศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น
สิ่งที่นักลงทุนคาดหวังคือ การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ประเมินตลาดสัปดาห์หน้า ดัชนีมีโอกาสไปได้ต่อ โดยแรงหนุนของกระแสเงินทุนต่างชาติที่คาดว่าจะยังเข้ามาต่อเนื่อง แต่โอกาสในการปรับขึ้นแรงๆหรือปรับลงหนักๆมีจำกัด เพราะดัชนีปรับตัวขึ้นมาพอสมควรแล้ว ต้องหาปัจจัยใหม่ๆเข้ามากระตุ้นให้ดัชนีปรับขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง
แนะกลยุทธ์การลงทุน แนะเก็งกำไรแบบขึ้นขาย-ลงซื้อ ด้านเทคนิคประเมินแนวรับไว้ที่ 1,655 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,690 จุด!!
ขณะที่ บล.เออีซี มองสัปดาห์หน้าดัชนีมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,685 จุด ได้แรงหนุนจากสภาพคล่องทางการเงินในตลาดที่เพิ่มขึ้น หลังเฟดหันมาพิจารณาใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ขณะที่ปัจจัยการเมืองไทยชัดเจนขึ้น หวังรัฐบาลใหม่เร่งเข้ามาดำเนินนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ต่อเนื่อง.
อินเด็กซ์ 51
|