April 20, 2024   2:15:22 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > รีบาวน์ อินเด้กส์ 51
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 23/05/2019 @ 07:29:19
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 22 พ.ค.62 ปิดที่ 1,626.91 จุด บวก 16.42 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 50,932.60 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,267.04 ล้านบาท หุ้นมูลค่าการซื้อขายสูงสุด CPALL ปิด 78.25 บาท บวก 2 บาท, TOP ปิด 60.50 บาท ลบ 2 บาท, PTT ปิด 46.50 บาท บวก 0.25 บาท, SCC ปิด 470 บาท บวก 10 บาท, SCB ปิด 127 บาท บวก 3.50 บาท

ตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นไทยรีบาวน์คลายความกังวลสงครามการค้าจีนกับสหรัฐฯ หลังสหรัฐฯยกเลิกคำสั่งชั่วคราว คือ ยังให้บริษัท สหรัฐฯดำเนินธุรกิจกับ Huawei ต่อไป 90 วัน หรือถึงวันที่ 19 ส.ค.62 ทำให้ Google จะยังดำเนินธุรกิจกับ Huawei ต่อไปได้ เพื่อลดแรงกดดันหลังจากทั้ง 2 ประเทศต่างขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าต่อกันและกัน

โดยคาดว่า ตลาดจะให้น้ำหนักการพบปะระหว่างประธานาธิบดี “ทรัมป์” กับประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ในการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่น วันที่ 28-29 มิ.ย.62

ทั้งนี้ บล.เอเซียพลัสระบุว่า ประเด็น Trade War กดดันตลาดตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. 62 ปรับตัวลดลงกว่า 63 จุด หรือ 3.77% จนเกิดสัญญาณทางเทคนิค RSI 14 วัน ทำ Oversold

ขณะที่ภาพรวม GDP Growth ปี 62 มีแนวโน้มอาจต่ำกว่าที่เอเซียพลัสคาดไว้ที่ 3.4% โดยอยู่ในช่วงทบทวนประมาณการ เนื่องจากในช่วงที่เหลือของปี ภาคส่งออกจะยังถูกกดดันจากสงครามการค้า

ทำให้ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจมาจาก 2 ตัว คือ การลงทุนเอกชน ที่ผลของสงครามการค้า ทำให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย และการบริโภค โดยรัฐบาล ที่ปัจจุบันยังเหลืองบประมาณกระตุ้นอีกราว 7.7 หมื่นล้านบาท

ดังนั้น เอเซียพลัสได้คัดหุ้น โดยแบ่งกลยุทธ์ลงทุนออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.หุ้นที่สามารถเก็งกำไรในช่วงสั้น ในหุ้นมีโอกาสฟื้นได้ดีกว่าตลาดฯ หากประเด็นกดดันต่างๆผ่อนคลายลง โดยเลือกเฉพาะหุ้นที่แนะนำ “ซื้อ” แต่ราคาลงแรงกว่าตลาดฯในเดือน พ.ค.62 จนเกิดสัญญาณ Oversold คือ หุ้นค้าปลีก BJC (FV@B61) ROBINS (FV@B70) เพราะราคาปรับลงมากกว่า

ปัจจัยพื้นฐาน และน่าจะได้แรงหนุนจากความคาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางภาครัฐ

2.หุ้นปลอดภัยจากประเด็น Trade War แนะนำลงทุนหุ้น Domestic ปันผลสูง และหุ้นนิคมฯที่น่าจะได้ประโยชน์จากประเด็นสงครามการค้า เนื่องจากกำแพงภาษีจากสหรัฐฯและจีนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีโอกาสย้ายฐานการผลิตมายังไทยมากขึ้น อีกทั้งยังมีโครงการ EEC ช่วยสนับสนุนสิทธิประโยชน์ รวมถึงมีความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานรองรับได้หลากหลายอุตสาหกรรม

โดยมีหุ้นนิคม ที่แนะนำคือ WHA-AMATA-FPT!!

อินเด็กซ์ 51

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com