thaihoon สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 14,583 | วันที่: 23/05/2019 @ 07:29:19 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 22 พ.ค.62 ปิดที่ 1,626.91 จุด บวก 16.42 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 50,932.60 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,267.04 ล้านบาท หุ้นมูลค่าการซื้อขายสูงสุด CPALL ปิด 78.25 บาท บวก 2 บาท, TOP ปิด 60.50 บาท ลบ 2 บาท, PTT ปิด 46.50 บาท บวก 0.25 บาท, SCC ปิด 470 บาท บวก 10 บาท, SCB ปิด 127 บาท บวก 3.50 บาท
ตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นไทยรีบาวน์คลายความกังวลสงครามการค้าจีนกับสหรัฐฯ หลังสหรัฐฯยกเลิกคำสั่งชั่วคราว คือ ยังให้บริษัท สหรัฐฯดำเนินธุรกิจกับ Huawei ต่อไป 90 วัน หรือถึงวันที่ 19 ส.ค.62 ทำให้ Google จะยังดำเนินธุรกิจกับ Huawei ต่อไปได้ เพื่อลดแรงกดดันหลังจากทั้ง 2 ประเทศต่างขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าต่อกันและกัน
โดยคาดว่า ตลาดจะให้น้ำหนักการพบปะระหว่างประธานาธิบดี ทรัมป์ กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่น วันที่ 28-29 มิ.ย.62
ทั้งนี้ บล.เอเซียพลัสระบุว่า ประเด็น Trade War กดดันตลาดตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. 62 ปรับตัวลดลงกว่า 63 จุด หรือ 3.77% จนเกิดสัญญาณทางเทคนิค RSI 14 วัน ทำ Oversold
ขณะที่ภาพรวม GDP Growth ปี 62 มีแนวโน้มอาจต่ำกว่าที่เอเซียพลัสคาดไว้ที่ 3.4% โดยอยู่ในช่วงทบทวนประมาณการ เนื่องจากในช่วงที่เหลือของปี ภาคส่งออกจะยังถูกกดดันจากสงครามการค้า
ทำให้ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจมาจาก 2 ตัว คือ การลงทุนเอกชน ที่ผลของสงครามการค้า ทำให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย และการบริโภค โดยรัฐบาล ที่ปัจจุบันยังเหลืองบประมาณกระตุ้นอีกราว 7.7 หมื่นล้านบาท
ดังนั้น เอเซียพลัสได้คัดหุ้น โดยแบ่งกลยุทธ์ลงทุนออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.หุ้นที่สามารถเก็งกำไรในช่วงสั้น ในหุ้นมีโอกาสฟื้นได้ดีกว่าตลาดฯ หากประเด็นกดดันต่างๆผ่อนคลายลง โดยเลือกเฉพาะหุ้นที่แนะนำ ซื้อ แต่ราคาลงแรงกว่าตลาดฯในเดือน พ.ค.62 จนเกิดสัญญาณ Oversold คือ หุ้นค้าปลีก BJC (FV@B61) ROBINS (FV@B70) เพราะราคาปรับลงมากกว่า
ปัจจัยพื้นฐาน และน่าจะได้แรงหนุนจากความคาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางภาครัฐ
2.หุ้นปลอดภัยจากประเด็น Trade War แนะนำลงทุนหุ้น Domestic ปันผลสูง และหุ้นนิคมฯที่น่าจะได้ประโยชน์จากประเด็นสงครามการค้า เนื่องจากกำแพงภาษีจากสหรัฐฯและจีนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีโอกาสย้ายฐานการผลิตมายังไทยมากขึ้น อีกทั้งยังมีโครงการ EEC ช่วยสนับสนุนสิทธิประโยชน์ รวมถึงมีความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานรองรับได้หลากหลายอุตสาหกรรม
โดยมีหุ้นนิคม ที่แนะนำคือ WHA-AMATA-FPT!!
อินเด็กซ์ 51
|