April 20, 2024   2:11:29 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > มองอย่างเซียน
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 26/04/2019 @ 08:25:01
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน แนวโน้ม SET ถือว่ายังแข็งแกร่งโดยปรับขึ้นต่อหลังจากหยุดเทศกาลสงกรานต์ และหากดู ย้อนหลังไปอีก เป็นการปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายมี.ค. หรือจำง่ายๆ คือ หลังเลือกตั้งตลาดตกใจระยะสั้นเล็กน้อยจากความคลุมเครือเรื่องการเมือง อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องด้วยปัจจัยหนุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ของจีน และสหรัฐ ที่ล้วนออกมาดีกว่าคาดรวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องจากแรงหนุนด้านฝั่งอุปทานที่ลดลงเป็นปัจจัยหนุนต่อ SET ผ่านกลุ่มพลังงาน โดยนับแต่วันที่ 25 มี.ค. ถึงปัจจุบันที่ดัชนีขึ้นมาเคลื่อนไหวบริเวณ 1680 จุด คิดเป็นการปรับตัวขึ้นมาแล้วประมาณ 3.8% จากจุดต่ำที่ทำไว้ในวันที่ 25 มี.ค. บริเวณ 1618 จุด

ทั้งนี้หากจำกันได้ในคอลัมน์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วของผม ซึ่งมองว่าดัชนีน่าจะมี upside ในระยะสั้นจำกัดก่อนบริเวณ 1680-1690 จุด และกลับมาพักตัวก่อน รวมถึงให้ระวังปัจจัยกดดันจากภายในประเทศ อันได้แก่ ผลการดำเนินงานกลุ่มแบงก์ ซึ่งการเติบโตไม่โดดเด่น และจะสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวต่อเนื่อง และอีกปัจจัยกดดันที่เกิดจากภายในประเทศ ผมให้ระวังเรื่องปัจจัยการเมือง เนื่องจากยิ่งใกล้วันที่ 9 พ.ค. ซึ่งกกต.จะประกาศจำนวนส.ส.ที่แต่ละพรรคได้อย่างเป็นทางการ คาดประเด็นการเมืองจะกลับมามีน้ำหนักต่อทิศทาง SET อีกครั้ง ซึ่งผมมองว่าจะสะท้อนเป็นปัจจัยลบมากกว่าปัจจัยบวก โดยเฉพาะความไม่มั่นใจซึ่งจะกระทบต่อความเชื่อมั่น และเป็นปัจจัยลบต่อทิศทาง fund flow ของนักลงทุนต่างชาติให้มีสัญญาณไหลออกอีกครั้ง

นอกจากนี้ผมมองถึงปัจจัยกดดันที่อาจเข้ามาเพิ่มเติม นั่นคือให้ระวังการกลับมาปรับตัวลงของราคาน้ำมันและกระทบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ราคาน้ำมันปรับขึ้นมาแล้วกว่า 40% ทำให้ผมมองว่าจะมีความเสี่ยงมากขึ้น โดยกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะยกเลิกมาตรการลดกำลังการผลิต ซึ่งจะหมดอายุในช่วงเดือนมิถุนายน (ในเดือนมิ.ย. จะมีการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน) และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นมามากแล้วทำให้มาตรการลดการผลิตอาจไม่จำเป็นอีกต่อไป (รัสเซียเริ่มส่งสัญญาณยกเลิกการลดการผลิตเช่นเดียวกัน)

มาถึงหัวข้อในฉบับนี้กันบ้างครับ ซึ่งตั้งคำถามไว้ว่า “จะเกิด Sell in May ในปีนี้หรือไม่..?” ก่อนพบคำตอบมาทำความเข้าใจถึงการเกิด Sell in May ซึ่งการปรับลงของตลาดหุ้นมักเกิดขึ้นในช่วงเดือนพ.ค.ของทุกปี นั่นเป็นเพราะว่าเกิดจากแรงขายทำกำไร ซึ่งดัชนีปรับขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี รวมถึงการขึ้นเครื่องหมาย XD ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงปลายเม.ย.ถึงต้นพ.ค. ทำให้เม็ดเงินที่จะเข้ามาใหม่ขาดแรงจูงใจด้านเงินปันผล (ซื้อแล้วไม่ได้รับเงินปันผล) ขณะที่ผู้ที่ถือหุ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว จะเกิดแรงขายปรับพอร์ตเพื่อทำกำไร เนื่องจากได้รับเงินปันผลแล้วตลอดจนในช่วง Q2-Q3 ส่วนใหญ่จะเป็นช่วง Low season ของธุรกิจเป็นส่วนใหญ่ ทำให้กำไรบริษัทจดทะเบียนชะลอตัว จากสาเหตุต่างๆที่ผมหยิบยกขึ้นมาเหล่านี้จะทำให้เกิดปรากฎการณ์ที่เรียกกันว่า “ Sell in May and Go Away” (ขายหุ้นในเดือนพ.ค. และออกจากตลาดได้แล้ว)

เรากลับมาที่คำตอบกันบ้างนะครับ ซึ่งมุมมองผมจากปัจจัยต่างๆที่กล่าวมา ซึ่งมีโอกาสเข้ามากดดันตลาดและหากย้อนดูการเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ในช่วง 20 ปีย้อนหลัง (ดูรูปประกอบ) SET จะปรับตัวลงในช่วงพ.ค. ของทุกปี 13 ครั้ง จาก 20 ครั้ง หรือคิดเป็นความน่าจะเป็นในระดับ 65% ยิ่งไปกว่านั้นการเกิด Sell in May ชัดขึ้นในช่วง 10 ปีหลัง ซึ่งคิดเป็นความน่าจะเป็นถึง 80% หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ดัชนีในช่วงพ.ค.ของทุกปีในช่วง 10 ปีหลัง (2009-2018) ปรับลงถึง 8 ครั้ง จาก 10 ครั้ง (มีเพียงปี 2009 และ 2016 ที่ดัชนีปรับขึ้นได้ในเดือนพ.ค.) ส่วนอัตราการปรับตัวลงเฉลี่ยในเดือนพ.ค. อยู่ที่ประมาณ -2.7%

ดังนั้น คำตอบของผมคือในเดือนพ.ค.ปีนี้ ดัชนีก็ยังมีโอกาสเกิด Sell in May ได้ครับสอดคล้องกับมุมมองซึ่งคาดว่า ช่วงนี้ SET จะมี Upside จำกัดบริเวณ 1680-1690 จุด และพักตัวลงก่อน โดยมีเป้าหมายที่บริเวณกรอบล่าง 1630 จุด ซึ่งหากคิดเป็นอัตราการปรับตัวลง จะใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีตช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (จาก 1680 ลงมาที่แนวรับเป้าหมาย 1630 จุด คิดเป็นการปรับลงประมาณ 3.0% เทียบกับค่าเฉลี่ยในการปรับลงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่ระดับ 2.7%) ซึ่งสรุปได้ว่า SET ในเดือนพ.ค.ปีนี้มีโอกาสเกิด Sell in May อย่างไรก็ตามจะเป็นการพักตัวลงเพื่อกลับมาปรับขึ้นต่อหาเป้าหมายในปีนี้ ซึ่งมองไว้ที่ระดับ 1740 จุด ดังนั้นด้านกลยุทธ์ลงทุน คือการปรับลงของดัชนียังเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมอยู่นะครับ ทำให้ผมขอเปลี่ยนประโยคที่ว่า “Sell in May and Go Away เป็น Sell in May and Come Back Again” น่าจะดีกว่า…และพบกันใหม่ในฉบับหน้าครับ…ด้วยรักและหวังดี

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com