*การที่ดัชนีขยับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 วันติด ย่อมเป็นช็อตที่ทำให้นักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ เฮโลตามกันไปแบบไม่ยั้ง เพราะเป็นช็อตที่ทำให้นักเล่นมองภาพการลงทุนในเชิงบวกกันเป็นแถว จึงไล่เคาะขวากันตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ดัชนีขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,651.48 จุด บวกไป 6.84 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.19 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพที่สื่อสารให้นักเล่นได้รู้ว่า มือใครยาวสาวได้สาวเอานะจะบอกให้

*ประเด็นข้างต้นเป็นข้อมูลที่ทำให้ “โมนิก้า” มองการเข้าเล่นเที่ยวนี้ยังทำได้สบาย ๆ เพราะเมื่อมองเหตุการณ์ที่มีผลกระทบกับตลาดหุ้นไทยไปข้างหน้า 3-6 เดือน ไม่น่าจะมีอะไรที่สร้างความวิตกกังวลอีกต่อไป ผนวกกับหุ้นกลุ่มบลูชิพเริ่มกลับมามีบทบาทมากขึ้นในตลาดหุ้น เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่ากองทุนในประเทศและต่างประเทศกำลังทยอยเข้ามาเก็บหุ้นไงล่ะคะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้หุ้นบลูชิพบางตัวทะยานขึ้นต่อเนื่อง พร้อมกับแสดงการยกฐานแนวรับใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิมให้เห็นอีกด้วย “โมนิก้า” ถึงพยายามให้นักเล่นเข้าใจอารมณ์ของตลาดหุ้นไทยที่เกิดขึ้นขณะนี้ และพยายามชี้ให้เห็นข้อดีของการมีหุ้นบลูชิพติดพอร์ตไว้เป็นประจำ เพราะจะได้รับรู้เรื่องราวของตลาดหุ้นไทยกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางไหน ? เพื่อจะได้กำหนดจุดลงทุนได้แม่นยำขึ้นกว่าเดิมพะยะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ MTC กระชากขึ้นมาปิดที่ 47.75 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 4.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 860 ล้านบาท มันทำให้อาการที่ต้องลุ้นจนน้ำลายเหนียวคอหายไปหมดเกลี้ยง พร้อมกับวาดฝันโอกาสของการไต่เพดานขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 50 บาทเปิดกว้างขึ้นในทันที ! เดี๊ยนย่อมมองเป็นจังหวะของการ follow buy โดยไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เพราะฟิลลิ่งมันมาเต็มเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับกรณีของ STEC ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ในทิศทางไซด์เวย์อัพให้เห็นถี่ขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่พรรคภูมิใจไทยกลายเป็นพรรคเนื้อหอมนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า ท้ายที่สุดหุ้นตัวนี้จะโดดเด่นขนาดไหน ? จึงไม่มีความจำเป็นต้องสาธยายอะไรให้ฟังมากมาย เพราะสิ่งที่อยากเม้าท์มากสุดเวลานี้เป็นเรื่องราคาหุ้นที่จะวิ่งฝ่ายอดเก่าบริเวณ 25.50 บาทไปได้หรือเปล่า ? หลังราคาหุ้นยืนปิดที่ 24.30 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.04 พันล้านบาทแล้วนะซี

*ส่วนม้านอกสายตาที่แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่อย่าง RATCH กลายเป็นหุ้นดาวรุ่งพุ่งแรงที่โผล่มาให้เห็นแบบไม่ทันตั้งตัว เดี๊ยนมาเห็นอีกทีตอนขึ้นมาติดในกระดาน most active เสียแล้ว แถมเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ขึ้นมาแบบเฉิดฉาย หลังหุ้นบวกต่อเนื่อง 7 วันติด “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับดูกันเอาเองว่า การขึ้นมาปิดที่ 60.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 648 ล้านบาท ยังมีแก๊ปเหลือให้เล่นต่ออีกไหมจ๊ะ

*สำหรับรายที่เล่นกันยาวอย่างหุ้น PLANB ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่นักเล่นทุกคนกระโจนเข้าใส่แบบไม่ยั้งมือ เพราะมันเห็นกันแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า การเปิดทางให้เจ้าพ่อสื่อโฆษณายักษ์ใหญ่เข้ามาถือหุ้นเป็นอันดับ 2 มันทำให้แวลูของหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งมีความเป็นไปได้ที่ VGI อาจทำการเทกโอเวอร์กิจการไปเลยก็ได้ หุ้นเลยพุ่งขึ้นมาปิดที่ 607. บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 647 ล้านบาท เพราะมันมีแต่เรื่องดี ๆ เยอะไปหมดนะซี

*เม้าท์ถึงตรงนี้ “โมนิก้า” อยากให้นักเล่นลองหันมามองหุ้นขนาดกลาง ๆ ไว้เป็นทางเลือกสำหรับการเคาะขวาเบา ๆ กันบ้าง โดยตัวเด่น ๆ ที่เริ่มไล่ราคารอบใหม่ในเที่ยวนี้ต้องยกให้กับ JWD หลังหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.75 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 72 ล้านบาท ล้วนมาจากข่าวจับมือพันธมิตรลุยตลาดอาเซียนแบบสุดซอย ทุกคนเลยวาดฝันตัวเลขในปี 2562 จะออกมาสวยเช้งกระเด๊ะไงล่ะคะ

*ส่วนในรายของ COTTO พุ่งกระฉูดขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.16 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 33 ล้านบาท อาจไม่เป็นเหมือนกับรายอื่นก่อนหน้านี้ที่ขึ้นต่อเนื่อง เพราะประวัติเก่า ๆ ยืนยันตรงกันว่า มักออกไปในทางสงครามวันเดียว “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับพิจารณาให้ดีก่อนเข้าเล่น หลังแพตเทิร์นของหุ้นยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมสักอย่างเจ้าค่ะ

*ป.ล.การที่ฝรั่งหัวทองกลับมาซื้อสุทธิกว่า 1.20 พันล้านบาท ทำให้บรรยากาศการลงทุนดูดีขึ้นเยอะ พร้อมกับมีความหวังที่จะได้เห็นดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,700 จุดในอีกไม่ช้า (ขอโลกสวยสักครั้ง) ..อิอิอิ