*ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าอารมณ์ของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ มักขึ้นอยู่กับข่าวสารที่ไหลเข้ามาในแต่ละวัน “โมนิก้า” ถึงต้องนั่งเฝ้าหน้ากระดานหุ้นตลอดเวลา เพราะมีข่าวสารใหม่ ๆ เข้ามากระทบกับตลาดหุ้นไทยไม่ว่างเว้น ซึ่งทำให้อารมณ์ของนักเล่นขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นประจำ เดี๊ยนถึงพยายามบาลานซ์เรื่องต่าง ๆ ให้ได้มากสุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อจะได้มองเห็นทิศทางการเคลื่อนตัวของตลาดหุ้นไทยชัดเจนขึ้นไงล่ะคะ

*ประเด็นดังกล่าวเห็นได้จากข่าวสารก่อนการเลือกตั้งมีผลต่อการเล่นหุ้นเมื่อเดือนก่อนเต็ม ๆ แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย ก็มีการหยิบยกประเด็นสถานการณ์เศรษฐกิจน่าจะกระเตื้องขึ้น เพราะพรรคการเมืองที่ได้จัดตั้งรัฐบาลจะต้องเร่งอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบให้ได้มากสุด ขณะที่การเล่นหุ้นตอนนี้มองไปยังเรื่องเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยนะจะบอกให้

*ผลดังกล่าวทำให้ดัชนีกระชากขึ้นไปถึงระดับ 1,651.14 จุด ก่อนจะย้อยตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,644.64 จุด บวกไป 5.99 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.45 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของอารมณ์ฮึกเหิมที่ปะทุขึ้นมาในจังหวะที่พอเหมาะพอเจาะ เพียงแต่อารมณ์ดังกล่าวไม่ต่อเนื่องเหมือนอย่างที่ควรจะเป็น จึงไม่สามารถยืนหยัดเหนือระดับ 1,650 จุดได้อย่างแข็งแกร่งนะซี

*ข้อมูลตรงนี้ทำให้ “โมนิก้า” ต้องลุ้นให้เม็ดเงินไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยเยอะ ๆ เพื่อทำให้โมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยอยู่ในจังหวะ follow buy แบบสุดซอย ผนวกกับปัจจัยต่าง ๆ เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เดี๊ยนถึงไม่กดดันที่เห็นดัชนียังเคลื่อนตัวในรูปแบบ W-Shape เพราะเมื่อมองดูจากไซเคิลเก่า ๆ ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันบังคับให้ดัชนีต้องเดินมาในทรงนี้เจ้าค่ะ

*ลิงโลดก่อนใครเพื่อนเมื่อมีการปรับเพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นไทยต้องยกให้ CPALL พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่เช้า ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 75.75 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 1.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.10 พันล้านบาท น่าจะเป็นการเปลี่ยนทิศอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับทำให้เชื่อว่าหุ้นจะวิ่งกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 80 บาทในไม่ช้าอย่างแน่นอน งานนี้ติดตามดูให้ดีนะคะ

*เหมือนกับในรายของ MTC ทำท่ากระชากขึ้นแรงให้เห็นอีกครั้ง ทั้งที่แพตเทิร์นของหุ้นยังอยู่ในวงรอบเดิม “โมนิก้า” ถึงไม่แน่ใจการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 45.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.17 พันล้านบาท เป็นการเปลี่ยนทิศทางอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเมื่อมองดูจากสัญญาณเทคนิคที่พาดผ่านบนหัว วันนี้คงต้องนั่งลุ้นจนน้ำลายเหนียวคอแหง ๆ พะยะค่ะ

*ผิดกับในรายของ GULF ทะยานขึ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 98 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 840 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time high แบบชิว ๆ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นหุ้นดาวเด่นที่แฟนคลับควรมีติดพอร์ตไว้เป็นประจำ แถมบรรดาเกจิอาจารย์ดังมองเหมือนกันว่า รอบนี้ขึ้นแบบสบายบื๋อสะดือโบ๋ด้วยแล้ว..ลุยโลดเจ้าค่ะ

*อีกรายที่มีโพสิชั่นคอนข้างดี คงต้องโฟกัสไปที่หุ้น KTC หลังราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ จากก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 เดือน ราคาหุ้นไหลลงจากบริเวณ 36 บาท จนมากองอยู่ที่ระดับ 30 บาทร่วมเดือน ต่อจากนั้นหุ้นถีบตัวขึ้นเรื่อย ๆ จนล่าสุดยืนปิดที่ 36.25 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 563 ล้านบาท กลายเป็นช็อตที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นจะวิ่งไปแตะระดับ 40 บาทอีกครั้งนะจะบอกให้

*ส่วนม้ามืดที่น่าจับตาดูสุด ๆ ในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น CENTEL กระชากขึ้นพรวดพราด ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 45.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 422 ล้านบาท เดี๊ยนมองเป็นสถานการณ์ที่น่ารักน่าลุ้นมากเหลือเกิน เพราะเมื่อมองดูจากแพตเทิร์นการขึ้นเที่ยวนี้ มันกลายเป็นช็อตที่ทำให้เชื่อว่าหุ้นจะวิ่งขึ้นไปถึง 47 บาท ต่อจากนั้นจะขึ้นไปทดสอบ 50 บาทเป็นขั้นต่อไปนะคะ

*สำหรับของแท้แน่นอนสุด ๆ ในเที่ยวนี้ และกลายเป็นหุ้นที่นักเล่นกลุ่มสถาบันใส่ไม่ยั้ง “โมนิก้า” คงต้องให้ความสำคัญกับ INTUCH มากกว่าหุ้นบลูชิพตัวไหนทั้งสิ้น เพราะแค่มองในแง่ของเงินปันผลในระดับ 7-8% ที่มอบให้กับคนที่กอดหุ้นตัวนี้ไว้ในพอร์ตเป็นประจำทุกปี ก็ทำให้นักเล่นกลุ่มสถาบันกระโจนใส่หุ้นตัวนี้มือเป็นระวิง วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 58 บาท บวกไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 896 ล้านบาทแบบนี้..บอกได้เลยว่า 60 บาทไม่ไกลเกินเอื้อมนะจ๊ะ