ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 ก.พ.62 ปิดที่ 1,635.71 จุด ลดลง 1.23 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 34,318.41 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 662.44 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 48.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท, EA ปิด 46.50 บาท ลบ 0.75 บาท, PTTEP ปิด 123.50 บาท บวก 1.00 บาท, AOT ปิด 67 บาท ลบ 0.25 บาท และ PTTGC ปิด 69.25 บาท บวก 0.50 บาท

“วิน อุดมรัชตวนิชย์” ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศ ไทย) มองดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีแนวโน้มย่อตัว ถูกกดดันจากการเมืองในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่อง

จากปัจจัยสำคัญคือการประเมินผลเลือกตั้งหลังมีการลุยหาเสียงอย่างเต็มตัว โดยโพลสำรวจล่าสุดที่ออกมาพบว่าพรรคพลังประชารัฐ อาจไม่ได้ชัยชนะครั้งนี้ มีผลต่อการซื้อขายของต่างชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่ขายทำกำไรกดดันตลาดมาตั้งแต่ 8 ก.พ. ทำให้ทิศทางหุ้นไทยช่วงนี้ขึ้นอยู่กับแรงซื้อขายของต่างชาติเป็นหลัก

ส่วนปัจจัยต่างประเทศตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ปรับตัวลงหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ (เงินเฟ้อ+ยอดค้าปลีก) ออกมาไม่ดีนัก แม้การเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯดูจะมีความคืบหน้าในทางบวกและความกังวลต่องบประมาณสร้างกำแพงของสหรัฐฯที่อาจลดลงหลังรัฐสภาสหรัฐฯผ่านร่างงบประมาณและ “โดนัล ทรัมป์” ใช้อำนาจประกาศภาวะฉุกเฉิน

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบกลับมาเป็นบวกได้แต่การเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มน้ำมัน-ปิโตรเคมีของไทยยังต้องดูทิศทางของตลาดหุ้นไทยประกอบ

สัปดาห์นี้มีปัจจัยที่ต้องติดตามคือ การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนและการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่สำคัญ 3 ตัว คือตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ปี 61 และยอดขายรถยนต์และตัวเลขส่งออก

สำหรับกลยุทธ์ลงทุนสัปดาห์นี้แนะนำให้ “ชะลอการลงทุน” หากดัชนีปรับตัวลงไปต่ำกว่า 1,620 จุด โดยลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นใหญ่ลงและไปรอซื้อเมื่ออ่อนตัว และให้นักลงทุนถือเงินสดเพิ่มในพอร์ต 20% เพื่อรอดูสถานการณ์

หุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์คือ PTTEP, EA, OSP, CBG และ RS!!