สรุปภาพรวม SET สัปดาห์นี้รีบาวน์ แต่ยังผันผวนจากหุ้นรายกลุ่มรายตัวมีปัจจัยลบเฉพาะตัว สัปดาห์หน้าได้ลุ้นบวกต่อ อิงปัจจัยในประเทศมากขึ้น แนะเก็งกำไรในกรอบแนวรับ 1,580 จุด แนวต้าน 1,610 จุด

  - ดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (7-11 ม.ค. 2562) เปิดที่ 1,584.74 สูงสุดที่ 1,609.39 และต่ำสุดที่ 1,579.20 ก่อนปิดการซื้อขายที่ 1,597.04 จุด
  - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,457.30 ล้านบาท / สถาบันซื้อสุทธิ 4,590.43 ล้านบาท / บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 289.83 ล้านบาท / นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 2,843.30 ล้านบาท

  นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ในทิศทางแกว่งตัวขึ้น แต่ยังเห็นจังหวะผันผวน และมีหุ้นรายกลุ่มรายตัวที่มีปัจจัยกระทบเฉพาะตัว
  - ดัชนีฯ รีบาวน์จากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากได้รับ Sentiment ที่ดีจากปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนคาดหวังต่อการเจรจาการค้ารอบใหม่ ที่เห็นสัญญาณที่ดี ราคาน้ำมันดีดฟื้นตัว และประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และพร้อมจะปรับลดงบดุลหากจำเป็น
  - หุ้นรายกลุ่มรายตัวได้รับผลกระทบจากปัจจัยเฉพาะอย่าง กลุ่มโรงพยายาล ที่โดยแรงกดดันจากข่าวการควบคุมราคายาและค่ารักษาพยาบาล และ DTAC ที่ยอมชำระเงิน 9.5 พันล้านบาท เพื่อยุติข้อพิพาทกับ CAT

*แนวโน้มดัชนีฯ สัปดาห์หน้า
  - มีโอกาสขึ้นต่อ โดยตลาดฯ จะอิงกับปัจจัยในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะความคืบหน้าการลงทุนภาครัฐ ที่ภายใน 1-2 สัปดาห์ ครม. จะพิจารณาโครงการรถไฟทางคู่เฟส 2
  - ความชัดเจนวันเลือกตั้ง คาดว่า 1-2 สัปดาห์ หรือภายในกลางเดือนนี้ จะมีประกาศพระราชกฤษฎีกาออกมา
  - งบกลุ่มแบงก์ ที่คาดว่าจะดีขึ้น 22% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากฐานที่ต่ำของ KTB-KBANK แต่จะลดลง 8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยคาดกำไรสุทธิรวมที่ 4.8 หมื่นล้านบาท

*ปัจจัยที่ต้องติดตาม
  - BREXIT รัฐสภาอังกฤษจะลงมติวันที่ 15 ม.ค. คาดว่าไม่น่าจะผ่าน จึงเป็นปัจจัยที่ต้องระวัง
  - การประกาศงบกลุ่มแบงก์
  - วันเลือกตั้ง

  *กลยุทธ์
  - สามารถเก็งกำไรในกรอบแนวรับ 1,580 จุด แนวต้าน 1,610 จุด