มีความเห็นที่น่าสนใจถึงมุมมองตลาดหุ้นปีหน้าจาก “คมศร ประกอบผล” หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ ที่ระบุว่า แม้ TISCO ESU ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกปี 62 มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากปัจจัยต่างๆที่เข้ามากระทบ

เช่น สงครามการค้าที่จะกระทบเต็มปี แรงหนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐฯ ของรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มแผ่วลงขณะเดียวกันภาครัฐและธนาคารกลางต่างๆมีข้อจำกัดในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่มองว่าปัจจัยดังกล่าว จะส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงอย่างจำกัด เพราะปี 61 ตลาดหุ้นได้ปรับฐานรุนแรงถึง 2 ครั้ง และราคาหุ้นเริ่มกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต

ดังนั้นประเมินว่าในระยะสั้นโอกาสที่ตลาดหุ้นทั่วโลกจะปรับลดลงค่อนข้างจำกัด นอกจากนี้ TISCO ESU ยังมองว่าระยะสั้นตลาดหุ้นมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นภายหลังผู้นำสหรัฐฯ และจีนได้เจรจากันในการประชุม G20 ทำให้ปัจจัยเสี่ยงจากสงครามการค้าโลกลดลง และราคาน้ำมันที่คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นหลังการประชุม OPEC ในวันที่ 6 ธ.ค.

และประเด็นสุดท้ายคือค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่เริ่มพลิกกลับมาอ่อนค่าหลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกมาให้ความเห็นว่าดอกเบี้ยในสหรัฐฯเริ่มขยับเข้าใกล้ระดับปกติสำหรับตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกจากเม็ดเงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เริ่มเข้ามาประคองตลาด ประกอบกับการมีผลบังคับใช้ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ในช่วงต้นเดือน ธ.ค. ซึ่งจะทำให้กำหนดการเลือกตั้งมีความชัดเจนขึ้น

อย่างไรก็ตาม มองว่าปี 62 จะเป็นปีที่ตลาดผันผวนไม่น้อยไปกว่าปีนี้ และการลงทุนยังคงต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง แนะกลยุทธ์การลงทุนเน้นลงทุนหุ้นกลุ่มตั้งรับ (Defensive) ซึ่งมีการเติบโตของกำไรสม่ำเสมอไม่ว่าจะอยู่ในช่วงไหนของวัฏจักรเศรษฐกิจ

และเลือกหุ้นในกลุ่ม Global Health Care เป็นตัวเลือกหลักสำหรับธีมการลงทุนแบบ Defensive ในปี 2562 เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่สามารถทนทานต่อสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ได้ดีกว่าอุตสาหกรรมอื่น!!

อินเด็กซ์ 51