Price Pattern ของ SET Index (จากกราฟ) ยังคงมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) อย่างเต็มตัวจากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Sell Signal แต่การเร่งรีบปรับตัวลงอย่างรุนแรงและรวดเร็วของ SET Index ที่ผ่านมาได้ทำให้ Price Pattern ของ SET Index ยังเหลือการเปิด Falling Gap อยู่อีก 1 จุด คือที่ 1,654.90 จุด มีขนาดความกว้างของ Gap ดังกล่าวอยู่ที่ 7.00 จุด ในกรอบการแกว่งตัวปัจจุบันที่ 1,605-1,695 จุด

ทั้งนี้แม้ว่า Price Pattern ของ SET Index จะอยู่ในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) อย่างเต็มตัวจะทำให้การเปิด Falling Gap เป็นเรื่องปกติก็ตาม แต่การที่ Price Pattern ของ SET Index ยังสามารถรักษาการปิดตลาดไว้ได้ในกรอบการแกว่งตัวที่ 1,605-1,695 จุด และการที่ Price Pattern ของ SET Index ได้เข้ามาอยู่ในภาวะ Oversold ประกอบกับการที่มีเพียงการเปิด Falling Gap เหลืออีก 1 จุดในกรอบการแกว่งตัวที่ 1,605-1,695 จุด จึงทำให้คาดหวังว่า Price Pattern ของ SET Index น่าจะเริ่มเห็นการเกิดการ Rebound ระยะสั้นได้ โดยมีเป้าหมายสำคัญของการ Rebound รอบนี้อยู่ที่การปิด Falling Gap ที่เปิดไว้ที่ 1,654.90 จุดได้เป็นอย่างน้อยนั่นเอง ดังนั้นตราบเท่าที่ Falling Gap ที่ 1,654.90 จุดยังไม่ได้รับการปิด นักลงทุนยังสามารถหาจังหวะในการเล่นเก็งกำไรระยะสั้นได้ต่อไป

เงื่อนไขสำคัญในการ Rebound ระยะสั้นของ SET Index รอบนี้นั่นก็คือ Price Pattern ของ SET Index ต้องไม่ปิดตลาดต่ำกว่าแนวรับแข็งแกร่งที่ 1,605 จุด โดยตราบเท่าที่ Price Pattern ของ SET Index อยู่ในกรอบการแกว่งตัวปัจจุบันที่ 1,605-1,695 จุด นักลงทุนสามารถหาจังหวะเล่นเก็งกำไรระยะสั้นหุ้นใน SET100 ที่ยังอยู่ในภาวะ Oversold แม้ว่าหุ้นประเภทนี้อาจจะยังไม่เกิด Daily Buy Signal ก็ตาม

ทั้งนี้หุ้นแนะนำใน SET100 ที่อยู่ในภาวะ Oversold และน่าเล่นเก็งกำไรระยะสั้นมีดังนี้คือ PTTEP, HANA, GLOBAL, KCE, MINT, PSL, GFPT, EPG, SGP, QH, ADVANC, BPP, และ KKP อย่างไรก็ตามหาก Price Pattern ของ SET Index ปิดตลาดต่ำกว่าแนวรับแข็งแกร่งที่ 1,605 จุด ต้องยุติการเล่นเก็งกำไรระยะสั้นและกลับมาถือเงินสดให้มากอีกครั้ง

วันนี้ SET Index มีแนวรับอยู่ที่ 1,629 จุด 1,612 จุด และ 1,580 จุด โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1,661 จุด 1,678 จุด และ 1,710 จุด

สำหรับหุ้นแนะนำใน SET100 ที่ยังคงเกิด Daily Buy Signal ได้เป็นอย่างน้อย ได้แก่ KTB (จากกราฟ) มีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 21.20 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 22.60 บาท (จุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 19.50 บาท) BCH มีเป้าหมายถัดไปของการทำ New High อยู่ที่ 21.80 บาท (จุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 18.70 บาท) STA มีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 21 บาท (จุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 16.10 บาท) CENTEL มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 42.25 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 45.50 บาท (จุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 38.50 บาท) BH มีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 201 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 213 บาท (จุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 187.50 บาท)