ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 24 ต.ค.61 ปิด 1,623.37 จุด ลบ 35.19 จุด มูลค่าซื้อขาย 65,323.01 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,975.92 ล้านบาท

“ประกิต สิริวัฒนเกตุ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย คาดหุ้นไทยปลายปีจะมีแรงซื้อของกองทุน LTF กว่า 30,000 ล้านบาท โดยยอดซื้อตั้งแต่ ม.ค.-ก.ค.มีเข้ามาแล้ว 2.6 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ยังคงเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปีนี้ไว้ที่ 1,805 จุด แม้จะมีแรงขายจากต่างชาติ ส่งผลให้ P/E ลงมาอยู่ที่ระดับ 14.5 เท่า โดยสัดส่วนการถือครองของต่างชาติลดลงมาเหลืออยู่ที่ 30.7% หรือถือครองหุ้นไทยอยู่ 5 ล้านล้านบาท

มองว่าหลังจากนี้ต่างชาติคงมีแรงขายอีก แต่คงไม่แรงมาก ซึ่งคงลดลงไม่ต่ำกว่า 30.6% โดยระดับดังกล่าวจะต้องขายอีกราว 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 14 ปี หุ้นที่แนะนำลงทุนช่วงที่เหลือของปีคือ STEC, GFPT, MEGA, TISCO หลังมองผลประกอบการครึ่งปีหลังจะออกมาดี

มองการยกเลิกลดหย่อนภาษีกองทุน LTF จะเกิดขึ้นเมื่อมีกองทุนใหม่มาชดเชย โดยกองทุนใหม่น่าจะมีเงื่อนไขการถือครองเพื่อลดหย่อนภาษีลดลง ลงทุนขั้นต่ำลดลง เพื่อเข้าถึงได้ทุกระดับลดการเหลื่อมล้ำทางสังคม

แต่หากไม่มีกองทุนใหม่มาทดแทนจะส่งผลให้เงินลงทุนจาก LTF แต่ละปีหายไป 6 หมื่นล้านบาท โดยมูลค่า LTF ปัจจุบันอยู่ที่ 3.8 แสนล้านบาท เป็นเงินที่สามารถขายได้ปี 62 มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท โดยผู้ที่ลงทุนปี 58-59 จะขายออกได้ปี 63-64 วงเงิน 1.2 แสนล้านบาท และผู้ที่เข้าลงทุนปี 60-61 จะขายออกได้ปี 65-66 ราว 9 หมื่นล้านบาท

ปิดท้าย บลจ. แอสเซท พลัส ชวนลงทุนหุ้นอินเดีย หลังมองมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่แข็งแกร่งและโตรวดเร็วมีแนวโน้มว่าปี 2030 GDP อินเดียจะขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ของโลก ขณะที่ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทจดทะเบียนมีกำไรโตเฉลี่ย 20% ต่อปี ถือว่ามีอัตราการโตสูงสุดในประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย จึงส่งกองทุนเปิด แอสเซทพลัส อินเดีย ไดนามิกส์ อิควิตี้ (ASP-INDIA) เป็นทางเลือกให้ผู้สนใจกระจายการลงทุนไปตลาดหุ้นอินเดีย

โดยเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ คือ กองทุน UTI India Dynamic Equity Fund ซึ่งผู้จัดการกองทุนมีประสบการณ์มา 18 ปี มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเกือบทั้งหมดกำหนดเสนอขายครั้งแรก (IPO) วันนี้–2 พ.ย.61 ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท!!

อินเด็กซ์ 51