ตลาดหุ้นไทยประจำวันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2561 ร่วงหนักแดงเถือกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตั้งแต่เปิดตลาดยันปิดตลาด

ปรับตัวลงแรงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันถ้วนหน้า

เป็นเพราะอิทธิพลของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดิ่งลงไปก่อนหน้านี้กว่า 3% หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นสูง ทำให้นักลงทุนทั่วโลกต่างพากันขวัญผวา รีบปรับพอร์ตลดความเสี่ยงหลังจากสัญญาณความเสี่ยงสูงขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield) กลับมาเร่งตัวขึ้น และทิศทางค่าเงินในเอเชียที่อ่อนค่า รวมถึงความกังวลเศรษฐกิจโลก

ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนเพิ่มเติม

ทำให้ดัชนีหุ้นไทยประจำวันที่ 11 ตุลาคม 2561 ปิดที่ 1,682.89 จุด ลดลง 38.93 จุด หรือติดลบ 2.26% มูลค่าซื้อขาย 82,888.83 ล้านบาท

โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,688.63 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,673.59 จุด

หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 8,280.00 ล้านบาท, 2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,910.76 ล้านบาท, 3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,345.20 ล้านบาท, 4.PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,938.90 ล้านบาท และ5.IVL มูลค่าการซื้อขาย 2,782.95 ล้านบาท

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าตลาดหุ้นไทยยังติดลบน้อยกว่าตลาดส่วนใหญ่ในภูมิภาค

นักลงทุนส่วนใหญ่ยังมองว่าความผันผวนที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเพียงระยะสั้น ขณะที่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันยังมีความแข็งแกร่ง

ขณะที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยยังคงเติบโตต่อเนื่องและมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม 2561 จะมีลักษณะแกว่งตัว

มีข้อแนะนำนักลงทุนให้มองหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีแนวโน้มเติบโต!!!