April 16, 2024   3:56:22 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ตลาดเกิดใหม่อ่วม อินเด้กส์51
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 12/09/2018 @ 08:44:29
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 11 ก.ย.61 ปิดที่ 1,672.42 จุด ลดลง 19.09 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 50,027.72 ล้านบาท ต่างชาติกลับมาขายสุทธิหนักหน่วง 3,395.46 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 48.75 บาท ลบ 1.50 บาท, AOT ปิด 62 บาท ลบ 2.25 บาท, CPALL ปิด 65.25 บาท ลบ 1.25 บาท, EA ปิด 41.50 บาท บวก 0.50 บาท และ PTTGC ปิด 77 บาท ลบ 2 บาท

ตลาดกลับมากังวลกับปัจจัยเดิมๆเรื่องสงครามการค้าสหรัฐฯ และวิกฤติค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ที่ลากเอาตลาดหุ้นในภูมิภาครวมทั้งไทยร่วงระเนนระนาดตามไปด้วย!!

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า Nomura Holdings เตือนว่า 7 ประเทศในตลาดเกิดใหม่มีความเสี่ยงมากที่สุดที่จะเกิดวิกฤติค่าเงินประกอบด้วย ศรีลังกา แอฟริกาใต้ อาร์เจนตินา ปากีสถาน อียิปต์ ตุรกี และยูเครน

โดยขณะนี้มี 5 ประเทศจากทั้งหมด 7 ประเทศดังกล่าวที่เผชิญวิกฤติค่าเงินแล้ว โดยบางประเทศต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟแล้ว มีเพียงแอฟริกาใต้ และปากีสถานเท่านั้นที่ยังไม่เกิดวิกฤติค่าเงิน และยังไม่ขอรับความช่วยเหลือทางการเงินใดๆ

ขณะเดียวกัน Nomura ระบุว่า มี 8 ประเทศในตลาดเกิดใหม่ที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดที่จะเกิดวิกฤติค่าเงิน ประกอบด้วย บราซิล บัลแกเรีย อินโดนีเซีย คาซัคสถาน เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย และไทย

“นักลงทุนกำลังให้ความสำคัญกับความเสี่ยงของตลาดเกิดใหม่มากขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องไม่มองเป็นภาพเดียวกันหมด เพราะยังมีหลายประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำมากที่จะเผชิญวิกฤติค่าเงิน”

โดยปัจจัยในระบบประเมินและเตือนภัยล่วงหน้าที่ Nomura ใช้ในการประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติค่าเงินประกอบด้วย ทุนสำรองระหว่างประเทศ ระดับหนี้ในระบบเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย และดุลบัญชีเดินสะพัด

บล.ฟินันเซียไซรัส ชี้นักลงทุนขายลดความเสี่ยงทั้งสงครามการค้าสหรัฐฯกับคู่ค้าทั้งจีนและญี่ปุ่น รวมถึงตลาดยังคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบในเดือน ก.ย.นี้ ด้านเทคนิคแนะจับตาจุดต่ำสุด รอบก่อนหน้าที่ระดับ 1,670–1,665 จุด หากยืนไม่อยู่มีแนวรับ ถัดไปที่ 1,640–1,620 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,690 จุด!!

อินเด็กซ์ 51

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1374254

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com