**หุ้นไทยเด้งขึ้นมาหน่อยวานนี้ หลังจากแพนิกเกินเหตุ ทั้งจากวิกฤติค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งอาร์เจนตินา และอินโดนีเซีย รวมทั้งสงครามการค้ายังคงหลอนน้องแมงเม่าไม่เลิก ล่าสุดประธานาธิบดี ทรัมป์ ประกาศกร้าวจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การเจรจากับแคนาดาล่าสุดยังไม่คืบ ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทถูกกระทบน้อยกว่าตลาดอื่นในภูมิภาค จากพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทุนสำรองระหว่างประเทศล้น นักลงทุนจึงไม่น่ากังวลมากนัก นักวิเคราะห์แนะเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี ราคาไม่แพงไว้ในพอร์ต วันนี้แนวต้าน 1,700 จุด

**TRUE ของเฮียศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะกรรมการบริหาร ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วงหนักจนน่าซื้อ หลังอนุญาโตฯ ตัดสินให้จ่ายค่าผิดสัญญาให้แก่ทีโอที เป็นเงินต้นรวมกว่า 76,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย งานนี้แพนิกกันเกินไป เพราะยังเหลือศาลปกครองให้พิจารณาอีก 2 ศาล กว่าจะรู้เรื่องก็อีกนาน ถ้าจำได้คดีค่าโง่ทางด่วนยังพลิกได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับเรื่องนี้ ถ้าซื้อ TRUE ตอนนี้ถือว่าถูกมาก ไม่ซื้อตอนนี้จะซื้อตอนไหน

**เทศกาลเครื่องหมาย XD สัปดาห์นี้ต่อเนื่องไปจนถึงสัปดาห์หน้า กดดันราคาหุ้นขนาดใหญ่ร่วง BCP IRPC ส่วน BBL ของเสี่ยโทนี่ KBANK ของเสี่ยปั้น ขึ้นเครื่องหมายวันที่ 12 ก.ย.นี้ ประกอบกับภาวะตลาดหุ้นที่ไม่ค่อยดี ทำให้ถูกแรงเทขายออกมาหลังรับปันผลเข้ากระเป๋าไปแล้ว ดังนั้นจังหวะนี้จึงถือเป็นโอกาสที่จะเข้าซื้อสะสมก่อนหุ้นรีบาวด์

**หุ้นหลบภัยยามวิกฤติ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ของเฮียพิชญ์ โพธารามิก เป็นอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจ ราคาตอนนี้ก็ถือว่าปลอดภัย ต่ำกว่าเอ็นเอวี ที่ 10.8 บาท ปันผลก็สูง แม้ตลาดหุ้นผันผวน แต่หุ้นพวกนี้ไม่มีผลกระทบอะไรมากนัก เพราะส่วนใหญ่แล้วเป็นการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่หุ้นเล่นเก็งกำไร ดังนั้นใครที่มีเงินเย็นก็น่าจะลองเก็บสะสมไว้บ้าง เป้าหมาย 12 บาท

**TTCL หลังจากได้คู่ขาใหม่ โซจิทสึยักษ์ใหญ่จากแดนปลาดิบ ราศีก็เริ่มจับขึ้นมา จากหุ้นราคาอยู่แถว 40 บาท ตอนนี้เหลือแค่ 9 บาท จะกลับไปยืนที่เดิมได้อีกครั้งหรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับฝีมือการบริการของฮิโรโนบุ อิริยา ประธานกรรมการบริษัท ทีทีซีแอล ที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับนักลงทุนจากญี่ปุ่น พูดง่าย ๆ ก็คนบ้านเดียวกัน งานนี้มีลุ้นอีกหลายโครงการที่จะเข้าร่วมประมูลกับพันธมิตรใหม่ ดันแบ็กล็อกกลับมาอยู่แถว ๆ 3-4 หมื่นล้านบาท ราคาก็จะเด้งกลับมาเอง แต่จะไปถึง 40 บาทเร็วหรือช้า ต้องรอลุ้นกันดู

** KTC ของ ระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บัตรกรุงไทย ยังรักษาแนวรับ 30 บาทไว้อย่างเหนียวแน่น แม้ตลาดไม่เป็นใจ ระยะยาวถ้าไม่หลุดแนวรับสำคัญ โอกาสเด้งแรงมีมาก ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 และ 4 รองรับ ส่วนปีหน้ามีของเล่นใหม่นาโนฯ และพิโกไฟแนนซ์รอโกยเงินเข้ากระเป๋าอีกเยอะ

** กลุ่มแบงก์พาณิชย์รอวันฟื้นตัวอย่างชัดเจน ตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่ดีวันดีคืน จีดีพีปีนี้มีลุ้นถึง 4.8% หลายอุตสาหกรรมเริ่มขยับ เตรียมขอสินเชื่อใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิตรองรับการเติบโต แบงก์ใหญ่น่าจะได้รับอานิสงส์ก่อน ทั้ง BBL KBANK KTB SCB และ BAY งานนี้เลือกไม่ถูก เพราะดีทุกตัว และหากปรับขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้ กำไรคงจะโตกันมโหฬาร

**กลุ่มนอนแบงก์ ที่เน้นหากินกับการบริโภคภายในประเทศ MTC SAWAD AEONTS ยังน่าสนใจ แม้จะมีสงครามการค้า และวิกฤติค่าเงิน แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มนี้ ขณะที่กำลังซื้อมีแนวโน้มดี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงเป็นประวัติการณ์ เฮียชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร เมืองไทย แคปปิตอล และ ธิดา แก้วบุตตา เจ้าของศรีสวัสดิ์ ก็ยังเดินหน้าโกยกำไรเป็นกอบเป็นกำ กันต่อไป

**GLOW เจอวิบากกรรม หลัง กรณ์ จาติกวณิช อดีตขุนคลัง ยื่นคัดค้านโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) บริษัทลูกของปตท. ซื้อหุ้น GLOW ต่อนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน พร้อมกับยื่นร้องเรียนกับผู้ตรวจการแผ่นดิน ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ กลายเป็นก้างชิ้นใหญ่ที่อาจทำให้ดีลนี้ล่มได้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เจ้าหน้าที่รัฐคงไม่อยากเสี่ยง ถ้ามีคนเปิดหน้าค้านแบบนี้ ราคาหุ้น GLOW ที่ขึ้นไปรับดีลนี้จึงต้องร่วงกลับลงมา รอทุกอย่างชัดเจนก่อนจะเข้าลงทุนดีกว่าเดี๋ยวจะกลายเป็นเด็กดอยไม่รู้ตัว*