*เดิมที “โมนิก้า” ตั้งใจพูดถึงบรรยากาศการลงทุนเพื่อเพิ่มสีสันให้กับตลาดหุ้นไทย แต่เผอิญมิตรรักแฟนเพลงหลายรายกริ๊งกร๊างสายตรงมาหา พร้อมกับขอร้องให้ช่วยขยายแผลเรื่องฉาว ๆ ที่เกิดขึ้นกับแวดวง “เงินดิจิทัล” หลังเห็นว่า เดี๊ยนเป็นคนเปิดหน้า เดินหน้าชนเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่แรก จึงเชื่อกันว่า เรื่องลับ ๆ ล่อ ๆ คงไม่รอดพ้นสายตาเหยี่ยวสาวเจ้าเสน่ห์อย่างอีฉันหรอกค่ะ

*เมื่อร้องขอกันมาขนาดนี้ “โมนิก้า” ก็ไม่อยากทำให้ทุกคนผิดหวัง จึงขอสนองความ need ของชาวเผือกทุกสารทิศด้วยการเม้าท์แบบสุดซอย เพื่อให้เห็นภาพของเงินดิจิทัลในอนาคตจะ เละเทะ..อุ๊ย..เหลวเป๋ว กันขนาดไหน? หลังผู้เกี่ยวข้องมัวแต่เน้นกลยุทธ์ตั้งรับสถานเดียว หรือพูดให้ง่ายขึ้นมานิดหนึ่งคือ รับแต่ชอบเพียงอย่างเดียว ไม่มีเคยรับผิดนั่นเอง!

*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ประเด็นฉาวของคริปโตเคอเรนซี่จะผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด เพราะยังมีอีกหลายรายที่ไม่ได้เป็นข่าวดังเกรียวกราว และยังไม่มีคนออกมาร้องแรกแหกกระเชอเหมือนกรณีของดาราหนุ่ม “บูม บิตคอยน์” ซึ่งคนในวงการต่างรู้ดีว่า คนนี้เป็นเพียงทางผ่านเงินธรรมดา ๆ เพราะตัวการหลักที่เป็นคนบิดพลิ้วเงินจำนวน 800 ล้านบาทได้หนีไป “อเมริกา” แล้วนะซี

*ว่ากันว่า “เจ้าทุกข์” กับ “ปริญญา” รู้จักกันมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และมีการพูดคุยถึงเรื่องการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ มาเป็นเวลานาน ก่อนจะมีการแนะนำให้รู้จักกับ “ไข่มุกดำ” อย่างเป็นทางการ ซึ่งทุกอย่างดูราบรื่นไม่มีปัญหาอะไรน่ากังวล พร้อมกับมีการตกผลึกแนวทางการลงขันด้วยการนำเงินไปลงทุนใน Dragon Coin ซึ่งมีการวาดฝันจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าสุด ๆ หากสามารถนำเหรียญดังกล่าวไปขายในกระดานได้นะคะ

*ที่น่าสนใจคือ วันที่ 22 กันยายน 2560 เป็นจังหวะที่ DNA ได้ประกาศร่วมลงนามในสัญญา IT Service Agreement กับ Dragon Corporation (HK) Limited หรือ “Dragon” เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยี (IT Service Provider) ซึ่งทำให้บรรดาแมงเม้าท์ร่ำลือกันไปในทำนองว่า นี่เป็นการทำเหรียญให้กับบ่อนกาสิโนแห่งหนึ่งกันอย่างครึกโครมนะจะบอกให้

*โดยทุกอย่างก็ดำเนินต่อไปได้เรื่อย ๆ ท่ามกลางเสียงนินทาของคนในวงการตลาดหุ้น แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยสักอย่าง เพราะมันไม่ผิดกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ความฝันที่จะรวยไปด้วยกันกลับต้องพังทลายลงไม่เป็นท่า เมื่อตัวต้นเหตุเริ่มออกลายซิกแซ็กด้วยการกีดกันคนร่วมลงขันอย่าง “เจ้าทุกข์” กับคนกลาง “ไข่มุกดำ” ออกจากการบริหารจัดการเงินก้อนดังกล่าวนะซี

*เมื่อไม่มีใครมาขัดขวางการรวยทางลัด ปฏิบัติการผ่องถ่ายเงินถึงเป็นไปอย่างสะดวกโยธิน พร้อมกับประวิงเวลาเรื่องการจ่ายเงินคืนพร้อมผลตอบแทนไปเรื่อย ๆ ก่อนจะโบยบินหายเข้าไปในกลีบเมฆ โดยที่ทุกคนได้แต่นั่งอึ้งกิมกี่ พร้อมกับทำตาปริบ ๆ “โมนิก้า” ในฐานะคนที่เคยเห็นปฏิบัติการสร้างภาพมาเยอะแยะ เลยไม่แปลกใจที่ทุกคนหันมาสนใจเรื่อง “โกงเงิน ฟอกเงิน” เพราะมันเป็นภัยใกล้ตัวที่ทุกคนมีสิทธิ์โดนหลอกโดยไม่รู้ตัวนะจ๊ะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ ก.ล.ต. กำลังเตรียมงัดดาบอาญาสิทธิ์มาเล่นงานพวกเงินดิจิทัลเถื่อน ซึ่งประจวบเหมาะกับวันที่ 14 ส.ค. 2561 เป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้คนที่ทำเหรียญก่อนหน้านี้ ต้องมาขึ้นทะเบียนเพื่อตีตราให้ถูกต้อง เพราะหากผ่านพ้นจากวันดังกล่าวจะโดนเล่นข้อหาหนัก “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับอดทนรอดูการเชือดไก่ให้ลิงดูเป็นรายแรกนั้น..หวยจะไปออกที่ใคร? อิอิอิ

*เม้าท์ถึงเรื่องเงินเถื่อนมาเยอะพอสมควร “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดูบรรยากาศการลงทุนสักหน่อย หลังกองทุนตัวแสบสาดหุ้นทิ้งมากถึง 5 พันล้านบาท พร้อมกับฉุดให้ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,705.96 จุด ลบไป 16.52 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.50 หมื่นล้านบาท มันเป็นหนังม้วนเดิมที่แฟนคลับเห็นกันมาแล้วหลายรอบ จึงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความนะคะ

*โดยประเด็นหลักที่ “โมนิก้า” อยากจะฝากไว้เป็นข้อคิดสำหรับนักเล่นคือ หุ้นที่ทำผลงานได้ย่ำแย่จะถูกเทขายต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ส่วนหุ้นที่ทำผลงานได้ต่ำกว่าคาดจะถูกถล่มแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น หรือแม้กระทั่งหุ้นที่ทำผลงานดีก็จะเจอกับเหตุการณ์ขายเมื่อความจริงปรากฏ ซึ่งทำให้บทสรุปของเรื่องนี้จบตรงที่เรื่อง “ขาย” มากกว่าเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้นเจ้าค่ะ