*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยมีประเด็นให้คิดไม่กี่เรื่องด้วยกัน และแต่ละเรื่องก็ส่งผลโดยตรงกับการเคาะขวา “โมนิก้า” ถึงมองการเคลื่อนไหวของดัชนีในเที่ยวนี้ไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่! หลังดัชนีทรุดตัวลงแรงต่อเนื่องหลายครั้ง (รีบาวด์แรงได้บางครั้ง แต่ยอดของการเด้งก็ต่ำกว่าครั้งก่อน) จึงไม่มีความจำเป็นที่แมงเม่าต้องทุ่มทุนสร้างมหาศาล และกระโจนเข้าไป แสดงจริง..เจ็บจริง อิอิอิ

*เนื่องจากของมันเห็นกันทนโท่ว่า ฝรั่งดองกำลังลดพอร์ตหุ้น พร้อมกับโยกเงินออกเพื่อไปลงทุนในภูมิภาคอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ดัชนีถึงทิ้งดิ่งหลุดแนวรับสำคัญทางจิตวิทยา 1,700 จุดอย่างง่ายดาย จนสุดท้ายลงมาปิดที่ระดับ 1,679.68 จุด ลบไป 25.14 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.18 หมื่นล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่แย่กว่าเดิมหลายเท่าตัวนะจะบอกให้

*เมื่อทุกอย่างไม่มีอะไรดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา การรีบาวด์ในระหว่างทางถึงเป็นเพียงการยื้อเวลา เพื่อหาทางลงที่นิ่มนวลสุดเท่าที่จะทำได้ แต่ในความเป็นจริง..มันไม่มีสิ่งดังกล่าวเกิดขึ้นแม้แต่นิดเดียว “โมนิก้า” ถึงมองการอ่อนตัวลงเที่ยวนี้ น่าจะเป็นการไหลลงยาวอีกครั้งหนึ่ง บรรดาผู้เล่นต้องทำใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เพราะมันไม่มีอะไรมาต้านทานเลยสักอย่างนะซี

*ยิ่งเห็นหุ้นกลุ่มบลูชิพโดนถล่มจนไม่เหลือเค้าโครงความยิ่งใหญ่ ยิ่งทำให้เดี๊ยนมีความรู้สึกรันทดใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน (ดราม่าดีเหลือเกิน) จึงพยายามแนะนำแฟนคลับให้ทำตัวยืดหยุ่นตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะการทิ้งหุ้นเที่ยวนี้เป็นลักษณะเทกระจาดเหมือนงานศาลเจ้าประจำปี จึงไม่มีเวลาพิรี้พิไรอะไรทั้งสิ้นอีกต่อไป ขืนชักช้าอืดอาดมีหวังกระเป๋าฉีกอย่างแน่นอนจ้า!

*ขนาดพี่เบิ้มของตลาดหุ้น PTT มีแรงซื้อเข้ามาประคองหุ้นไว้เป็นระยะ แต่สุดท้ายก็ต้านไม่ไหวอีกตามเคย วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 49 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.73 พันล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยืนแถว 55 บาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ง่าย ๆ เพราะพวกฝรั่งดองตั้งใจทิ้งหุ้นแบบไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อยเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ IVL ถูกเทขายอย่างหนักราวกับบริษัทมีปัญหาเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไร ทั้งที่ความเป็นจริงยังไม่มีอะไรในกอไผ่ “โมนิก้า” มองเป็นประเด็นที่ทำให้นักเล่นเกาหัวกันแกรก..แกรก เพราะถึงบทที่พี่ท่านจะเลิกเล่นกันดื้อ ๆ ก็สาดทิ้งไม่เลี้ยงกันเลยทีเดียว วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมานอนกองอยู่ที่ 55.25 บาท ลบไป 3.25 บาท หรือลงไป 5.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.80 พันล้านบาทอย่างง่ายดายไงล่ะจ๊ะ

*ส่วนในรายของหุ้นร้อน GLOW ยังคงเป็นหุ้น “เว่อร์วัง..อลังการ” ในสายตาของนักเล่นสายแวลู เพราะเมื่อดูจากดีลในอดีตที่เทกโอเวอร์บริษัทไหนสักแห่ง เขาก็ให้ราคาซื้อในระดับ 1.50 เท่าของบุ๊กกันทั้งนั้น เดี๊ยนเลยนำบุ๊กแวลูของหุ้นที่ระดับ 35 บาท มาดีดลูกคิดตามสมการดังกล่าว พร้อมปรับระดับขึ้นไปซื้อกันที่ 2 เท่าของบุ๊ก ก็ได้ราคาเหมาะสมอยู่แถว 70 บาท ขณะที่ราคาปิดวานนี้อยู่ที่ 89.25 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 3% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.65 พันล้านบาท มันสูงกว่าสิ่งที่เดี๊ยนคิดจริงไหม?..ต้องถามใจเธอดูนะคะ

*เหมือนกับในรายของ SUPER อะไรหลายอย่างยังเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ก็จริง แต่ที่น่ากลัวสุด ๆ ดันเป็นเรื่องของเกมหุ้นขาโหด ซึ่งพร้อมจะทำเรื่องเหนือความคาดหมายตลอดเวลา บรรดานักเล่นเลยรู้สึกเซ็งในอารมณ์ไปตามกัน หุ้นถึงไหลลงมาเรื่อย ๆ แบบไม่มีกำหนด แถมทุกคนกลัวช้อนหักแบบไม่ทันตั้งตัว วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมายืนที่ 0.96 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 4.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 245 ล้านบาทอย่างง่ายดายไงล่ะคะ

*ส่วนรายที่สร้างเซอร์ไพรส์สุด ๆ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่หุ้นแบงก์สีฟ้า KTB วิ่งสวนภาวะตลาดหุ้นด้วยการขึ้นมาปิดที่ 17.80 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 584 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่เดี๊ยนไม่สามารถหาเหตุผลมาอธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าวได้ จึงเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องติดตามดูกันเอาเอง หลังหุ้นขึ้นแรงแบบไม่มีที่มาที่ไป มันยืนระยะยาวได้ไม่นานหรอกค่ะ

*คล้ายกับกรณีของน้องแอน ANAN ทะยานขึ้นมาปิดที่บริเวณ 4.92 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 4.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 498 ล้านบาท เขาว่ากันว่า นี่เป็นการเด้งรับข่าวโครงการ “แอชตัน อโศก” เริ่มทยอยโอนห้องกันเรื่อย ๆ เดี๊ยนมองเป็นคำอธิบายที่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือพอสมควร แต่สิ่งที่ต้องคิดต่อมาคือ ในภายภาคหน้าจะไม่มีปัญหาจริงหรือเปล่า? หลังมีข้อกฎหมายบางอย่างที่ต้องอธิบายกับสังคมให้รับรู้นะซี