ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 พ.ค.61 ปิด 1,725.14 จุด ลดลง 9.40 จุด มีมูลค่า ซื้อขาย 77,484.03 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 4,384.08 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด นำโดย PTT 51.50 บาท บวก 1.25 บาท, SCC ปิด 452 บาท ลบ 12 บาท, PTTEP ปิด 132.50 บาท บวก 1.50 บาท, IVL ปิด 57.50 บาท ลบ 2.75 บาท และ EA ปิด 38.50 บาท ลบ 2 บาท

ตลาดหุ้นไทยร่วงลงแรงกว่า 20 จุด ในระหว่างวันตามตลาดหุ้นภูมิภาค หลังวิตกสถานการณ์การเมืองในอิตาลี แต่โชคดียังมีแรงซื้อกลับหลังมีข่าวดีในประเทศ กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัย ร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ พยุงให้ตลาดปิด ลบไม่มาก ขณะที่เงินทุนต่างชาติยังคงไหลออกจากตลาดหุ้นไทยและตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาค

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่ม ปตท.เด้งกลับขึ้นมาได้หลังลงลึกจนราคาลงมาต่ำจัด จึงมีแรงซื้อคืนจากทั้งนักลงทุนสถาบันและรายย่อยในประเทศ

บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า เมื่อพิจารณาจากปัจจัยที่เข้ามา ไม่ได้มีผลกระทบทำให้ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นไทยเปลี่ยนโดยราคาน้ำมันที่ปรับลงยังอยู่ในกรอบสมมติฐานของเอเซีย พลัส ที่ให้ไว้เฉลี่ย 65 เหรียญ ต่อบาร์เรล ขณะที่เศรษฐกิจไทย ไตรมาสแรกโตได้ถึง 4.8% ซึ่งฝ่าย วิจัยเตรียมปรับเป้า GDP ปีนี้ขึ้นจาก 4.2% ด้วย ดังนั้น ดัชนีที่ลงมา จึงเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีรายตัว!!

ขณะที่ บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยผันผวนในทิศทางอ่อนตัวจากปัจจัย ต่างประเทศเป็นหลัก คาดดัชนี SET ผันผวนในกรอบ 1,715-1,750 จุด แนะซื้อเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวก ได้แก่ หุ้น NYT ได้ประโยชน์จากตัวเลข ยอดส่งออกรถยนต์โต 5.29% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และหุ้นที่ Laggard ดัชนี ได้แก่ CPF, CK, STEC, UNIQ, BJC และหุ้นในตลาด MAI ที่คาดว่า กำไรปี 61 เติบโต ได้แก่ JUBILE, ATP30, AGE, XO, SSP, TPCH

ส่วน บล.โนมูระ พัฒนสิน ให้มุมมองกรณี รฟท.เปิด TOR รถไฟ เชื่อม 3 สนามบิน วงเงินลงทุน 1.19 แสนล้านบาทออกมาแล้ว เป็นปัจจัย บวกต่อหุ้น Theme BRI ได้แก่ กลุ่มรับเหมา CK-STEC กลุ่มนิคม AMATA-WHA กลุ่มเสาเข็ม PYLON-SEAFCO

และทิศทางสินเชื่อที่มีแนวโน้มเร่งตัวจะบวกต่อ Theme BRI กลุ่มที่ 4 คือ ธนาคารขนาดใหญ่ แนะนำ BBL, KBANK เก็งกำไร SCB, KTB และหุ้นกลุ่มพาณิชย์ แนะนำ ROBINS, CPALL!!