*หากสังเกตแรงซื้อที่เข้ามาตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่า ดัชนีพยายามประคองตัวเพื่อรักษาฐานแนวรับ 1,750 จุดอย่างสุดชีวิต แต่แรงซื้อที่เข้ามามีไม่มากพอจะดันดัชนีกลับขึ้นไปได้ เลยเกิดอาการเกร็งตัวขึ้นในชั่วขณะเวลาหนึ่ง ต่อจากนั้นดัชนีก็เกิดการเหวี่ยงตัวไปมาอย่างรุนแรง พร้อมกับแสดงท่าทีจะทรุดตัวให้เห็นเป็นระยะ จึงไม่มีใครกล้ามองกรอบการเล่นด้านบนอีกต่อไปไงล่ะคะ

*ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจที่เห็นดัชนีแกว่งตัวไปมา ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,754.17 จุด บวกไป 2.97 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวนเวียนมาแล้วหลายรอบ เมื่อบวกกับปัจจัยบวกใหม่ ๆ ที่จะไหลเข้ามาในตลาดหุ้น “โมนิก้า” ถึงกับเกิดอาการข้อเข่าทรุดขึ้นมาในทันทีทันใด เพราะมันมองไม่เห็นหนทางที่ดัชนีจะตีกลับขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งน่ะซี

*เมื่อรูปการไม่เอื้อให้ลุยซื้อหุ้นแบบสุดซอย การเล่นเที่ยวนี้ถึงเน้นเจาะเป็นรายตัว เพื่อความคล่องตัวในการขยับพอร์ตตามอารมณ์ตลาดหุ้น “โมนิก้า” ถึงเห็นดีเห็นงามด้วยเป็นอย่างยิ่งที่เวลานี้จะมีนักโหนกระแสเกิดขึ้นเต็มตลาดหุ้น เพราะรูปแบบการเล่นในเที่ยวนี้วัดกันที่ความไวในการตอบสนองข่าวดี ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบกันได้นะคะ

*เหมือนกับการไล่ราคาหุ้น EA ขึ้นมาปิดที่ระดับ 38 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.20 พันล้านบาท มันมาจากปัจจัยพื้นฐานซัพพอร์ตสุด ๆ บวกกับสัปดาห์นี้จะมีการติดตั้งใบพัดโครงการหนุมานจำนวน 260 เมกะวัตต์อย่างเป็นทางการ “โมนิก้า” ย่อมเกิดอาการกระดี๊กระด๊าเป็นธรรมดา เพราะมันหมายถึงตัวเลขรายได้และกำไรในครึ่งปีหลังจะโตตามเป้าน่ะซี

*ส่วนรายที่ทำผลงานดีแน่นอนอย่าง IVL ก็ไม่น้อยหน้าใครทั้งสิ้นเช่นกัน เพราะสามารถรักษาฐานแนวรับสำคัญบริเวณ 60 บาทได้อย่างเหนียวแน่นเป็นเวลานาน จึงไม่แปลกใจที่หุ้นดีดกลับขึ้นมาปิดที่ 61.25 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.14 พันล้านบาท เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว 2-3 ครั้งด้วยกันพะย่ะค่ะ

*อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าสนใจในเที่ยวนี้คือการเด้งกลับของหุ้น SAWAD พร้อมกับปรากฏข่าวกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ซื้อหุ้นในกระดานเพิ่ม หลังเห็นราคาหุ้นในกระดานลงโอเวอร์เกินไปนั้น “โมนิก้า” มองเป็นจุดเริ่มต้นของเกมหุ้นเที่ยวใหม่ค่อนข้างชัดเจน จึงอยากให้มองราคาหุ้นที่ปิดในระดับ 37 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.52 พันล้านบาท มันน่าเข้าไปเก็บขนาดไหนเจ้าคะ

*เช่นเดียวกับการดีดตัวขึ้นของหุ้น TRUE ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 7.20 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.32 พันล้านบาท ก็มาจากการประกาศไม่ประมูลคลื่น 1800 อย่างเป็นทางการ ทุกคนเลยรู้สึกโล่งอกกันอย่างถ้วนหน้า เพราะบริษัทไม่ต้องแบกภาระหนี้เพิ่มเติม จึงเชื่อกันว่า ในอนาคตจะคัมแบ็กเต็มรูปแบบ แรงซื้อถึงไหลพรั่งพรูเข้ามาเป็นจำนวนมากไงล่ะคะ

*ส่วนรายที่ออกอาการยิ้มร่าสุด ๆ ต้องยกให้หุ้น DTAC เพราะทันทีที่คู่แข่งคนสำคัญประกาศถอนตัว ทุกคนก็มองเหมือนกันว่า เจ้านี้ได้ประโยชน์มากสุด! มหกรรมการไล่ราคาเลยบังเกิดขึ้นอีกครั้ง หุ้นถึงขึ้นมาปิดที่ 47.25 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 6.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 742 ล้านบาทแบบชิว ๆ พร้อมกับเล็งผลเลิศไปถึงขั้นที่ว่า การไล่ราคาคงไม่จบเพียงเท่านี้นะจะบอกให้

*สำหรับในรายของ DDD อาจไม่เป็นเหมือนกับรายข้างต้น เพราะรายนี้ถูกเทขายแบบไม่ดูดำดูดีเป็นเวลาหลายวัน “โมนิก้า” มองได้แค่มุมเดียวคือกองทุนตัวแสบกำลังระบายของออกจากพอร์ต ก่อนจะย้อนกลับไปซื้อใหม่ที่ราคาต่ำกว่า ก็ในเมื่อเห็นกันเต็มสองลูกตาโต ๆ กำไรคงไม่โต ? ผลงานไม่ปังเหมือนมาดามแป้ง! หุ้นเลยทรุดตัวทำนิวโลว์ที่ระดับ 74.50 บาท ลบไปอีก 4.50 บาท หรือลงไป 5.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 195 ล้านบาทพะย่ะค่ะ

*ส่วนในรายของน้องแอนแอน ANAN ยังมีประเด็นที่คลุมเครือหลายเรื่องด้วยกัน จึงมีแรงเทขายไหลออกมาประปราย หุ้นเลยทรุดตัวลงมายืนอยู่ที่ 4.28 บาท ลบไป 0.12 บาท หรือลงไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 121 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่นักเล่นต้องทำตัวให้ทันกับสถานการณ์ เพราะบางครั้งเรื่องจริงที่เกิดขึ้นให้เห็นกับคำพูดที่ออกมาจากปากใครบางคน มักตรงกันข้ามกันเป็นประจำน่ะซี