April 23, 2024   11:46:44 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สังคมข่าวหุ้น
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 27/04/2018 @ 08:46:38
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*****เรื่องของหุ้น ปตท. หรือ PTT หลังการแตกพาร์จาก 10 บาท เหลือ 1 บาท ยังคงถูกกล่าวถึงจากนักลงทุนจำนวนมากว่าจะ “ซื้อ” ดีหรือไม่ เพราะหลายคนคาดหวัง (ด้านจิตวิทยา) ว่า ราคาจะวิ่งขึ้นไปแตะ 100 บาทอีกแน่ๆ แต่อย่าลืมว่า การที่ราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นไปต้องมีพื้นฐานหรือสตอรี่เชิงบวกเข้ามารองรับ และการแตกพาร์เป็นเพียงการเพิ่มสภาพคล่อง แต่ไม่ได้มีผลต่อปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งการซื้อหุ้นต้องดูพื้นฐาน (+สัญญาณเทคนิคเป็นหลัก)

*****หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะแบงก์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง ราคาขึ้นๆ ลงๆ สลับกันไปแต่ละวัน แต่ส่วนใหญ่จะลงมากกว่า เพราะนักลงทุนยังคงกังวลกับรายได้ค่าธรรมเนียมที่จะหายไป โดยเริ่มจากไตรมาส 2/2561 รวมถึงมาตรการทางบัญชีแบบใหม่ IFRS9 ที่กำลังถูกจับตาว่า ธนาคารหลายๆ แห่ง อาจจะต้องตั้งสำรองหนี้ฯ เพิ่ม กระทั่งจะไปกดดันกับกำไรสุทธิหรือไม่ ส่วนสถานการณ์หนี้เสีย หรือ NPL ของธนาคารบางแห่งตัวเลขเริ่มดีขึ้นบ้าง ยกเว้นของ กรุงไทย หรือ KTB ที่ยังต้องจับตาจากหนี้เสียในกลุ่มโรงสีคอยกดดันอยู่

*****ทุนธนชาต หรือ TCAP ที่มี ศุภเดช พูนพิพัฒน์ เป็นประธานกรรมการบริหาร และเอ็มดีใหญ่ หลังแจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/2561 กำไรเติบโตกว่า 18-19% ล่าสุดที่ประชุมผู้ถือหุ้นยกมือโหวตเคาะจ่ายปันผลเพิ่มอีก 1.30 บาทต่อหุ้น และเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายไปแล้ว 0.90 บาท เท่ากับว่า ผู้ถือหุ้นจะได้เงินปันผลรวม 2.20 บาทต่อหุ้น (คิดเป็น Dividend yield ราวๆ 4.5–5.00%) เป็นตัวเลขที่มากกว่าปี 2559 ที่มีการจ่ายเงินปันผล 2.00 บาท ส่วนสถานการณ์ของสินเชื่อ ทางผู้บริหารยืนยันว่า จะดีขึ้นในปี 2561 และเงินกองทุนยังอยู่ในระดับสูง มีความเข้มแข็ง

*****หุ้น SCC หรือกลุ่มปูนใหญ่ ภายใต้การบริหารของแม่ทัพใหญ่ รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส โชว์กำไรไตรมาส 1/2561 ออกมา 1.24 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่า Bloomberg consensus ราว 5% เพราะรายได้จากธุรกิจปิโตรเคมีสร้างความผิดหวัง แต่ก็ยังดีที่ธุรกิจปูนซีเมนต์ช่วยพยุงรายได้และกำไรไว้ได้ ทำให้ตัวเลขไม่ได้ตกต่ำไปมากนัก แต่ในมุมมองของนักวิเคราะห์ล่าสุดวานนี้ ต่างยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น SCC เพราะราคาหุ้นมีอัพไซด์เหลือเยอะจากราคาเป้าหมายที่ส่วนใหญ่ให้กันไว้เกินกว่า 600 บาท

*****หุ้น SAWAD ของกลุ่มแก้วบุตตา ปรับลงอย่างหนัก หลังถูกมองว่า การปรับโครงสร้างธุรกิจ ทำให้ผลประกอบการออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ แม้กำไรที่ผ่านการดีดลูกคิดจะออกมาเกือบ 700 ล้านบาท เติบโตเกือบ 20% ทำให้มีการแนะนำรอดูผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรกก่อนว่าจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ล่าสุดราคาหุ้นที่ปรับลงทำให้การระดับพี/อี ลงมาเหลือ 19-20 เท่า ซึ่งดูๆ ไปแล้วก็น่าซื้ออยู่นะ ขณะที่หุ้นจะขึ้น XD วันที่ 3 พ.ค.นี้ เพื่อจ่ายปันผลเป็นหุ้น 18:1 และเป็นเงินสดอีก 0.007 บาทต่อหุ้น

*****ปัญหาตั๋วบี/อี พ่นพิษ ล่าสุด บล.ซีมิโก้ (ZMICO) ได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บลจ.โซลาริส ซึ่งเป็นบริษัทย่อย กว่า 82,800,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 8,000,000 หุ้น ราคาจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนหุ้นละ 10.35 บาท มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท โดยบริษัทย่อยจะทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 125,400,000 บาท เป็น 205,400,000 บาท และภายหลังทำรายการแล้ว ZMICO ก็ยังคงถือหุ้นใน บลจ.โซลาริส ในสัดส่วน 100% ส่วนผลประโยชน์ที่จะได้รับเพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องแก่บริษัทย่อย

*****หุ้น GULF ราคากลับมาปิดที่ 67.50 บาท อีกครั้ง และหากดูสัญญาณทางเทคนิคมีโอกาสที่จะขึ้นไปแตะ 70.00 บาทได้เร็วๆ นี้ ส่วนวันที่ 2 พ.ค.นี้ จะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผล 0.40 บาทต่อหุ้น และกำหนดจ่ายเงินวันที่ 14 พ.ค.นี้ ส่วนผู้บริหาร “สารัชถ์ รัตนาวะดี” ยังยืนเกี่ยวกับงานต่างๆ ยังคงเป็นไปตามแผน รวมถึงการขยายลงทุนไปยังต่างประเทศทั้งเวียดนาม และโอมาน

*****ใครที่ชอบสินทรัพย์เอ็นพีเอ มาอ่านตรงนี้ เพราะบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เตรียมจัดประมูลต่อเนื่อง เป็นครั้งที่ 4 ของปี โดยคัดทรัพย์สินเพื่อการลงทุนเกือบ 100 รายการ มูลค่ารวมกว่า 500 ล้านบาท ทั้งที่ดินเปล่า ที่ดินพร้อมทรัพย์สิน อาคารพาณิชย์ ฯลฯ ออกประมูล ในวันศุกร์ที่ 4 พ.ค.นี้ต่เวลา 9.00-12.00 น. ณ ห้องกรุงเทพ 1-4 ชั้น M โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.sam.or.th และแอปพลิเคชัน Sam Smile App รวมทั้งช่องทาง Line โดยแอด ID Line “@Samline”

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com