*หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยแบบ เข้าถึง..เข้าใจ น่าจะไม่มีประเด็นที่ทำให้ผู้เล่นเกิดความลำบากใจ เพราะไซเคิลของตลาดหุ้นยังเป็นลักษณะเดิมๆ ไม่มีอะไรแตกต่างจากรอบก่อนๆ บวกกับบรรดาผู้เล่นยังยึดติดกับพฤติกรรมเก่าๆ “โมนิก้า” จึงไม่ขอกล่าวถึงรายละเอียดปลีกย่อยที่เกิดขึ้นมากนัก เพราะไม่เห็นประโยชน์ของการอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าไงล่ะคะ

*วันนี้ถ้าให้ “โมนิก้า” บอกเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เดี๊ยนคงยืนยันกลับไปคำเดิมว่า แนวรับ 1,760 จุดทำงาน สถานการณ์ทุกอย่างเลยอยู่ในการคอนโทรล แถมหุ้นกลุ่มบลูชิพกลับมาผงาดเต็มกระดานหุ้น ดัชนีถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ 1,800.32 จุด บวกไป 24.95 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.41 หมื่นล้านบาทอย่างร้อนแรง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิมมิคที่เดี๊ยนอยากให้แฟนคลับศึกษาไว้ให้ดีนะคะ

*เนื่องจากเหตุการณ์ทำนองนี้คงเวียนมาบรรจบอีกรอบ และผู้เล่นต้องอ่านเกมดังกล่าวให้ออกตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้เข้าทำให้ถูกจังหวะจะโคน “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับย้อนกลับไปดูเรื่องที่เม้าท์ไว้ก่อนหน้านี้ เคยให้ความเห็นเกี่ยวกับดัชนีพยายามเกาะแนว 1,800 จุดไว้อย่างไร? วันนี้ยังคงยืนยันคำเดิมไม่เปลี่ยนแปลง (พูดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เดี๋ยวหาว่า หนูหลายใจ) นะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ PTT ถือเป็นหุ้นที่มีข่าวดีเต็มประตูหน้าต่าง บวกกับแวลูของหุ้นเพิ่มขึ้นทุกปี “โมนิก้า” มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็คุ้มค่ากับการลงทุน ด้วยเหตุนี้ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 558 บาท บวกไป 24 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.19 พันล้านบาท มันเป็นช็อตของการซื้อกลับธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะดันเปิดแก๊ปไว้กว้างเกินไป จึงจำเป็นต้องปิดแก๊ป ก่อนจะไปต่อพะย่ะค่ะ

*อีกหนึ่งช็อตที่ “โมนิก้า” ให้ความสนใจมากเหมือนกันในเที่ยวนี้อยู่ที่หุ้นปูนใหญ่ SCC ทะยานขึ้นมายืนเหนือ 500 บาท ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 504 บาท บวกไป 12 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.23 พันล้านบาท มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด 4 ครั้งในรอบ 6 เดือนครึ่ง และไม่มีครั้งไหนเลยที่หุ้นยืนปิดได้อย่างแข็งแกร่ง วันนี้ถึงต้องลุ้นอีกยกหนึ่งว่า ทำได้สำเร็จไหม?

*เช่นเดียวกับในรายของ TRUE เริ่มทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงอีกครั้ง ด้วยวอลุ่มที่อัดแน่นเข้ามาตลอดทั้งวัน ก่อนจะจบลงตรงบริเวณราคา 6.70 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.01 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นภาพเดิมๆ ที่เคยเกิดขึ้นให้เห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นขึ้นไปแตะระดับ 7 บาท ต่อจากนั้นก็ไหลลงมาเรื่อยๆ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับดูกันเอาเองว่า เที่ยวนี้จะเป็นเหมือนเดิมไหม?

*ส่วนกรณีของ GULF อาจมีช็อตติดพันเยอะแยะก็จริง แต่อย่างน้อยก็เปิดโอกาสให้แฟนพันธุ์แท้หุ้นไฟฟ้าเข้ามาใส่กันไม่ยั้งอีกรอบ วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 71.25 บาท บวกไป 3.75 บาท หรือขึ้นไป 5.55% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.30 พันล้านบาทแบบชิวๆ เพราะมองในมุมของแวลูที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี จังหวะนี้เป็นช็อตที่ต้องเคาะขวายาวๆ กันไปเลย เพื่อไม่ให้เสียของไงล่ะคะ

*อีกหนึ่งช็อตเด็ดที่ต้องใส่สุดซอย “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังหุ้น UV ทะยานขึ้นมาปิดที่ 9.85 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่า 217 ล้านบาท ก็เป็นช็อตที่น่าตามไปดูอย่างใกล้ชิด เพราะทุกครั้งที่เริ่มมีการเข้ามาไล่ราคา มักเห็นหุ้นขึ้นไปยืนวนเวียนเหนือ 10 บาทเป็นประจำ แถมเที่ยวนี้มีวอลุ่มซัพพอร์ตเข้ามาให้เห็นตลอดเวลา มันน่าลุ้นดีแท้นะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ RSP พอถึงบทเล่นกันสุดๆ ก็ใส่กันแบบไม่มีผ่อนคันเร่งกันเลย วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 8.10 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 7.30% ด้วยมูลค่า 266 ล้านบาท จึงกลายเป็นอีกหนึ่งช็อตที่น้องโมให้ความสนใจไม่ใช่น้อย แต่เผอิญข้อมูลเก่าๆ บอกให้ระวังตัวไว้นิดหนึ่งว่า หลังจากไล่ราคากันแรงๆ ต่อจากนั้นมักย่อตัวเป็นประจำ อีกทั้งหุ้นขึ้นมาใกล้ราคาเป้า 8.50 บาท จึงต้องเผื่อใจไว้เล็กน้อยเจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องเผื่อใจขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องหันไปมองอดีตหุ้นสุดฮอต WORK สักนิดหนึ่ง! จู่ๆ โดนสาดอย่างหนักหน่วง จนหุ้นลงมากองอยู่ที่ 69 บาท ลบไป 8.75 บาท หรือลงไป 11.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 503 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่สร้างความงุนงงให้กับคนที่ปล่อยของไม่ทัน เพราะหุ้นไม่เคยมีทีท่าจะโดนเล่นหนัก แถมลักษณะการขายที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นการโละพอร์ต..ท่าทางจะจบไม่สวยนะคะ