*ในที่สุดทฤษฎีฟันปลาก็ยังเป็นเรื่องที่พบเห็นได้เป็นประจำในยามที่ตลาดหุ้นผันผวน โดยแรงซื้อกับแรงขายยังผลัดกันออกมาเป็นระยะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังไม่มั่นใจในทิศทางของตลาดหุ้น จึงเลือกเล่นหุ้นแบบสั้นๆ มากกว่าซื้อลงทุนยาวๆ ภาพของดัชนีถึงเป็นแบบ เดี๋ยวดี..เดี๋ยวร้าย “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจแพตเทิร์นการเล่นเที่ยวนี้เป็นแค่การเล่นรอบพะยะค่ะ

*นอกจากนี้ อย่าลืมว่านี่เป็นช่วงเวลาของการหากำไรเข้ากระเป๋าอีกครั้งหนึ่ง ไม่ใช่เดินหน้าดุ่ยๆ ขึ้นไปบนดอยอีกรอบ เพราะการทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง จนทำท่าจะวิ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,850 จุดอย่างง่ายดาย มันกลายเป็นเพียงความฝันไปเสียแล้ว เพราะเอาเข้าจริงกลับทรุดตัวลงมายืนที่ระดับ 1,826.61 จุด ลบไป 10.88 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.20 หมื่นล้านบาท มันบอกอะไรให้รู้หลายอย่างอีกแล้วค่ะท่าน!

*ฉะนั้นอย่าได้วาดฝันอะไรที่ไกลเกินตัวเป็นอันขาด เพราะบรรยากาศการลงทุนยังอยู่ในช่วงแปรปรวน บางครั้งเรื่องไม่เป็นเรื่องก็โผล่ขึ้นมาให้รำคาญใจเสียอย่างนั้น “โมนิก้า” ถึงพยายามให้แฟนคลับหาจังหวะปล่อยหุ้นออกไปบางส่วน เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่น ภาพของการลงทุนถึงไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไหร่? และทำให้กฎการลงทุนเรื่อง swing trade ยังเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์กับผู้เล่นทุกฝ่ายนะคะ

*เหมือนกับในรายของ PTT หากใช้เรื่อง swing trade มาเป็นตัวกำกับรอบเล่นจะเห็นว่าฐานแนวรับ 480 บาทเป็นจุดที่มีการเล่นกันมาแล้วรอบหนึ่ง ต่อจากนั้นก็ขยับฐานมาอยู่ที่ 490 บาท ซึ่งมีกรอบด้านบนอยู่ที่ 500 บาท “โมนิก้า” ถึงอยากถามบรรดาแมงเม่าว่าการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 490 บาท ลบไป 8 บาท ด้วยวอลุ่มที่หนาแน่น มันเป็นจังหวะที่น่าเล่นขนาดไหนพะยะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ PTTEP หากดูตามท้องเรื่องในช่วง 1 สัปดาห์จะเห็นว่ากรอบด้านล่างอยู่ที่ 115.50 บาท กรอบด้านบนอยู่ที่ 120 บาท แถมทั้งสัปดาห์ก็เล่นกันแบบนี้เป็นประจำ จนแพตเทิร์นของหุ้นกลายเป็นฟันปลา “โมนิก้า” ถึงต้องการให้แฟนคลับพิจารณาราคาปิดที่ 118 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 2% ด้วยวอลุ่มที่หนาแน่น บวกกับราคาต่ำสุดของวันนี้อยู่ที่ 117 บาท มันเกี่ยวข้องกับแนวทางที่เม้าท์ไว้ขนาดไหนเจ้าค่ะ

*SCB เป็นอีกหนึ่งรายที่เข้าประเด็นที่จั่วหัวไว้อย่างจังหนับ หากนับตั้งแต่เดือน สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ม.ค.จนถึงเมื่อวานนี้ รวมเบ็ดเสร็จเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 20 วัน หุ้นตัวนี้ก็ขยับตัวไปมาในกรอบ 150-162 บาทมาแล้วหนึ่งรอบ ล่าสุดเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 155.50 บาท ลบไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่า 1.86 พันล้านบาท บอกตามตรงว่าหุ้นมีโอกาสวิ่งขึ้นไปหาเพดานเก่าค่อนข้างสูงนะจ๊ะ

*ส่วนรายที่มาแพตเทิร์นเดียวกัน แต่ราคาหุ้นเทกตัวขึ้นเยอะเกินไป “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่หุ้น TCMC เพื่อเตือนสตินักเล่นอย่าหลงไปเล่นเกมที่มีความเสี่ยงเยอะเกินไป หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.84 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 4.35% ด้วยมูลค่า 143 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขึ้นมาใกล้กับยอดเดิมที่บริเวณ 3.90 บาท เดี๊ยนถือเป็นจังหวะที่ก้ำกึ่งสุดๆ นะจะบอกให้

*อีกหนึ่งรายที่เข้าข่ายอันตรายสุดๆ กลายเป็น SKE ซึ่งได้รับสมญานามว่า ดาวรุ่งผีพุ่งใต้ เมื่อสัปดาห์ก่อนหุ้นพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง แต่หลังจากนั้นโดนเทขายอย่างหนัก จนเม้าท์ได้ว่า “ขึ้นเท่าไหร่..ลงเท่านั้น” แต่หุ้นก็ถีบตัวขึ้นได้อีกครั้ง ล่าสุดวานนี้มาทรงเดียวกันกับครั้งก่อนทุกกระเบียดนิ้ว จู่ๆ พุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ 1.79 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 5.30% ด้วยมูลค่า 99 ล้านบาท แถมเป็นการปิดเหนือเส้นแนวต้านแบบเฉียดฉิว..มันเสียวไส้ดีไหมจ๊ะ

*เหมือนกับในรายของ ILINK หลุดจากวงรอบของ swing trade ที่ระดับ 13.50 บาทลงมาอย่างง่ายดาย ทั้งที่ในรอบ 2 เดือนหุ้นวนเวียนอยู่ในกรอบนี้มาโดยตลอด “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่น่าคิดไม่ใช่น้อย เพราะหุ้นดันไหลลงหลุดกรอบดังกล่าวไปค่อนข้างลึก จนวานนี้ยืนปิดที่ 11.40 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 5% ด้วยมูลค่า 60 ล้านบาท ฟันธงได้ทันทีว่าน่ามีรายการแอ็กซิเดนต์บางอย่างเกิดขึ้น..เชื่อหัวน้องโมเถอะ!

*สำหรับในรายของหุ้น SSP น่าจะเกี่ยวข้องกับแพตเทิร์นดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองหันมามองยอดเก่าที่บริเวณ 9 บาท เพื่อใช้เป็นธงนำในการเคาะขวาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 8.30 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3.10% ด้วยมูลค่า 150 ล้านบาท มันเหมือนเป็นการเซ็ตเกมเล่นรอบใหม่แบบนี้..ใส่เต็มแม็กเลยดีกว่านะคะ