ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 29 ม.ค.61 ปิดที่ 1,837.49 จุด เพิ่มขึ้น 8.61 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 54,294.13 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 358.89 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด นำโดย BANPU ปิด 22.50 บาท บวก 0.60 บาท, PTT ปิด 498 บาท บวก 8 บาท, KBANK ปิด 232 บาท บวก 3 บาท, AOT ปิด 70.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง และ PTTGC ปิด 97.50 บาท บวก 1 บาท

บล.ธนชาต ระบุว่า เป็นการจบรอบของการปรับฐานที่เร็วกว่าคาด และเป็นการยืนยันแนวโน้มขาขึ้นของตลาดเป็นผลจากมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสภาพคล่องในตลาดที่สูง ทั้งที่ธนาคารกลาง

สหรัฐฯจะปรับลดงบดุล ขณะที่แนวโน้มเงินบาทที่แข็งค่าอาจทำให้อัตราเงินเฟ้อขยายตัวน้อยกว่าที่คาด ส่งผลให้ กนง. มีแนวโน้มไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ประเมินตลาดระยะสั้น คาดหุ้นไทยขยับบวกต่อดัชนีมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้าน ถัดไปที่ 1,870 จุด ส่วนการเลื่อนการเลือกตั้ง มองว่าส่งผลกระทบแค่แง่ Sentiment เท่านั้น เพราะการเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ยังเดินได้ตามแผน แนะซื้อหุ้นเป้าหมายเข้าพอร์ต เลือก SPA-BEAUTY-RS-PTT-BANPU-KBANK

ปิดท้ายฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส ประเมินราคาน้ำมันขึ้น กระทบต้นทุนสายการบินเพราะเป็นต้นทุนหลักของธุรกิจการบิน ราว 20-30% โดย 3 สายการบินของไทยที่ศึกษาอยู่ มีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมันล่วงหน้าแตกต่างกันแต่ต่ำกว่าแผนปกติที่มักจะทำไว้ 50% โดย AAV ทำไว้เพียง 10%, THAI 30% และ BA 40%

จากการทำ sensitivity เพื่อประเมินผลกระทบพบว่า ต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มทุกๆ 5 เหรียญ จะกระทบทำให้ต้นทุนน้ำมันของ AAV เพิ่มขึ้นราว 4.5 เหรียญ, THAI 3.5 เหรียญ, BA 2.4 เหรียญ เมื่อประเมินผลกระทบต่อกำไรของ 3 สายการบิน พบว่าปี 61 AAV, THAI, BA จะกระทบ 30%, 82% และ 56% ตามลำดับ

ส่วนปี 62 กระทบ 18.2%, 73.5% และ 17.8% ตามลำดับ จึงมีแนวโน้มที่ฝ่ายวิจัย จะปรับลดประมาณการกำไรในระยะถัดไป แนะนำให้ switch สำหรับหุ้น AOT, AAV, THAI ยกเว้น BA ที่แนะนำซื้อ เพราะเชื่อว่าราคาหุ้นลงมาตอบรับกับต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมากกว่ารายอื่น!!