March 29, 2024   4:49:25 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ตลาดกระทิง อินเด็กส์51
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 17/01/2018 @ 08:53:38
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 16 ม.ค.61 ปิด 1,821.83 จุด ลบ 0.83 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 76,866.45 ล้านบาท

“ไพบูลย์ นลินทรางกูร” โพสต์ความเห็นใน FB ส่วนตัวระบุว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มต้นปีใหม่นี้ด้วยการปรับขึ้นเกือบทุกวัน ดัชนีหุ้นหลายตลาดรวมทั้งไทย ทำสถิติสูงสุดใหม่หลายครั้ง ปริมาณการซื้อขายเกือบทุกที่ก้าวกระโดด ในไทยเองปริมาณการซื้อขายต่อวันเพิ่มขึ้นกว่า 70% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

สาเหตุที่ทำให้หุ้นทั่วโลกปรับขึ้นเร็ว เกิดจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ที่สำคัญการฟื้นตัวรอบนี้ยังคงไม่ได้สร้างแรงกดดันกับเงินเฟ้อ ทำให้เชื่อว่าดอกเบี้ยโลกจะยังคงอยู่ในระดับ “ต่ำกว่าปกติ” ไปอีกระยะ และมองว่าไม่มีความจำเป็นที่ธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่น ต้องรีบร้อนลด QE ตามหลังสหรัฐฯ เงินจึงยังคงไหลเข้าหุ้นต่อเนื่อง

สำหรับหุ้นไทยทำสถิติสูงสุดใหม่ถึง 5 ครั้ง ใน 7 วัน หลังรอคอยมาถึง 24 ปี และมีแนวโน้มที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อไปอีก นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่า ดัชนีมีโอกาสขึ้นไปถึง 1,900-1,950 จุดภายในปีนี้ อาจดูสูงแต่ถ้าคำนวณเป็น % จากระดับปัจจุบัน จะอยู่แค่ 5-7% เท่านั้น และถ้าวัดด้วย Forward P/E จะอยู่ที่ 15-16 เท่า ถือว่าไม่แพงมากเมื่อเทียบกับ
P/E ของตลาดหุ้น ASEAN ด้วยกัน

“ไพบูลย์” ฉายภาพ “ตลาดกระทิง” รอบนี้ว่า เป็นการปรับขึ้นของ หุ้นทั่วโลกที่เกือบจะยาวนานที่สุดในรอบ 30 ปี เพราะได้ 2 ตัวช่วยพิเศษ คือ นโยบาย QE และ นโยบายดอกเบี้ย 0% ซึ่งทำให้เกิดสภาวะ “สภาพคล่องล้นระบบ” และตามมาด้วยการ “search for yields” แต่เชื่อว่าเราเริ่มเข้าใกล้จุดสูงสุดของตลาดกระทิงรอบนี้แล้ว เพราะเริ่มเข้าใกล้จุดจบของทั้ง 2 นโยบายนี้ แต่น่าจะยังเหลือเวลาอีก 2 ปี ก่อนที่หุ้นทั่วโลกจะไปแตะจุดสูงสุด

ปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้ตลาดกระทิงรอบนี้จบเร็วขึ้นคือ เงินเฟ้อถ้ามาเร็วและแรงกว่าคาด จะกดดันให้ธนาคารกลางทั่วโลกต้องขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วและแรงกว่าคาด และต้องเร่งดึงเม็ดเงิน QE ออกจากตลาดมากและเร็วกว่าเดิม ดังนั้น ต้องจับตาเงินเฟ้อโลกอย่างใกล้ชิด

สำหรับไทยมองว่าดัชนีจะยังอยู่ในขาขึ้นอีกอย่างน้อย 2 ปี ความเสี่ยงสำคัญนอกจากเงินเฟ้อคือการเมือง ถ้ากลางปียังไม่มีประกาศวันเลือกตั้งที่ชัดเจนเชื่อว่าตลาดหุ้นจะเกิดการปรับฐานที่ค่อนข้างแรง

สรุป หุ้น ยังคงเป็น asset class ที่น่าลงทุนที่สุดในปีนี้ ตลาดหุ้นไทยยังไปต่อได้อีก โอกาสจะปรับลงแรงๆไม่น่ามีมาก ยกเว้นในหุ้นบางบริษัทที่ซื้อขายกันที่ P/E สูงเกินพื้นฐานมากเกินไป!!

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com