Money Channel (27 ก.ย. 60) -- แม้ภาพรวมจากต่างประเทศช่วงนี้ดูไม่ค่อยเอื้อต่อบรรยากาศตลาดหุ้นเท่าไหร่ หลังจากเฟดเตรียมปรับลดขนาดงบดุลและส่งซิกขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีนี้ หนุนแนวโน้มเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า ผสมโรงด้วยความตึงเครียดประเด็นเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ดี ด้วยความหวังที่มีต่อเศรษฐกิจไทย บวกกับราคาหุ้นในตลาดที่ดูยังขึ้นช้ากว่าภูมิภาค จึงทำให้แรงกดดันต่อการไหลออกของฟันด์โฟลว์ก็มีจำกัดเช่นกันหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว น่ากลับมาถูกไฮไลท์อีกครั้งในช่วงนี้ที่กำลังเข้าสู่ไตรมาสที่เป็น High season แถมโบนัสด้วยในสัปดาห์หน้า หรือช่วงระหว่างวันที่ 1-8 ตุลาคม จะเป็นวันหยุดยาวติดต่อกันของชาวจีนเนื่องในโอกาสวันสถาปนาชาติ ซึ่งเรียก Long weekend ช่วงนี้ว่า 'Golden week' กำลังเป็นอีกตัวแปรสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวกลับมาอยู่ในเรดาร์MINT หรือ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ล่าสุด trading sessions พุธ 27 ก.ย. บวกพร้อมวอลุ่มหนุนคึกคักกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าส่วนหนึ่งน่าจะเป็นการเก็งผลบวกจาก High season รวมทั้งกระแสการไหลเข้าของนักท่องเที่ยวชาวจีนข้อมูลจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ระบุจำนวนนักท่องเที่ยวเดือนส.ค.2560 อยู่ที่ 3.13 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.7% Y/Y โดยนักท่องเที่ยวจีนยังคงมีสัดส่วนสูงสุดราว 31.4% และในเดือนเดียวกันนี้ นักท่องเที่ยวจีนทำสถิติสูงสุดใหม่ เติบโต 10.3% Y/Y ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มตะวันออกกลางที่เติบโตโดดเด่น 19.4% Y/Y จากเทศกาลรายอฮัจญี ส่วนอินเดียยังเติบโตได้ต่อเนื่องที่ 14.8% Y/Y ส่วนภาพรวมเดือนม.ค.-ส.ค. 2560 จำนวนนักท่องเที่ยวรวมอยู่ที่ 23.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.0% Y/Y โดยนักท่องเที่ยวจีนมีสัดส่วนสูงสุด 28.2% แม้ว่าตัวเลขรวม 8 เดือน นักท่องเที่ยวจีนจะลดลง 0.3% Y/Y โดยมีนักท่องเที่ยวรัสเซียและอินเดียที่ยังเติบโตโดดเด่นที่ 27.2% และ 16.3% Y/Y ตามลำดับ บทวิเคราะห์ในสัปดาห์ที่แล้วของ บล.เคทีบี(ประเทศไทย) ระบุคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้โดดเด่นในช่วงที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากฐานที่ต่ำจากปีก่อนจากการปรามปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ดำเนินมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.ย.2559 ซึ่งคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาส 3 และ 4 อาจเติบโตได้ถึง 7.6% และสูงถึง 51.7% Y/Y ตามลำดับจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์จึงมองบวกหุ้นกลุ่มโรงแรม โดยให้น้ำหนักการลงทุนเป็น "Overweight" มีหุ้น MINT เป็น Top Pick ด้วยราคาเป้าหมายที่ 47 บาท เคทีบีฯ ระบุเป็นเพราะ MINT มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีน 12% ส่วน CENTEL (ราคาเป้าหมายที่ 47 บาท) นอกจากจะได้รับผลดีจากนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีปัจจัยบวกที่รออยู่จากการหาดีล M&A ในธุรกิจอาหาร ซึ่งคาดว่าจะประกาศภายในปีนี้ส่วน AOT (ราคาเป้าหมาย 64 บาท) นักวิเคราะห์เคทีบีฯ มองว่าได้ผลบวกโดยตรงจากนักท่องเที่ยวที่เติบโต ส่วนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในไตรมาส 4 ยังได้แก่ AAV (ราคาเป้าหมายที่ 7.40 บาท) เพราะมีฐานลูกค้าจีนราว 20% นอกจากนี้ ผลบวกรวมไปถึงหุ้น SPA และ BEAUTY ซึ่งโบรกเกอร์ค่ายนี้คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้นเช่นกันสอดคล้องกับทาง บล.กรุงศรี ที่ระบุว่าชอบหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว (MINT, ERW, SPA, BEAUTY) รับผลบวกนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นในช่วงวันชาติจีน 1-8 ต.ค.นี้ หุ้นกลุ่มสายการบิน ได้รับอานิสงส์โดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น แต่กำลังมีปัจจัยที่สร้างอัพไซด์กระตุ้นความเชื่อมั่นอีกครั้ง นั่นคือกรณีทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) คาดว่าจะทราบผลสรุปอย่างไม่เป็นทางการ ว่าไทยจะถูกปลดธงแดงจาก ICAO หรือไม่ หลังจากการที่หน่วยงานได้ส่งทีมเข้ามาตรวจสอบในช่วงระหว่างวันที่ 20-27 ก.ย.นี้ ส่วนผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ ต้องรอภายใน 30 วันหลังจากนี้ โดยปลัดกระทรวงการคลังระบุว่าไทยน่าจะได้รับข่าวดีโบรกเกอร์ค่ายเคทีบีฯ มองประเด็นนี้เป็นปัจจัยสำคัญต่อกลุ่มสายการบินที่ต้องจับตา เพราะหากมีการปลดธงแดงคาดว่าจะส่งผล sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มสายการบิน และจะช่วยปลดล็อกเส้นทางบินที่สำคัญได้ เช่น ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งเคทีบีฯ มองว่าจะเป็นบวกต่อ NOK มากสุด เพราะจะทำให้ "นกสกู๊ต" สามารถขยายเส้นทางบินตามแผนเดิมที่เคยวางไว้ รวมทั้งจะส่งผลบวกต่อ THAI ที่ถือหุ้นใน NOK ด้วย สำหรับหุ้น Top Pick ของเคทีบีฯ ในกลุ่มนี้ ได้แก่ AAV (ราคาเป้าหมาย 7.40 บาท) นักวิเคราะห์คาดว่าจะได้ผลบวกมากที่สุด จากการที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนกลับมาฟื้นตัว*********************************ทีม Business&Finance, Money Channel