SET Index ยังย่ำอยู่กับที่ (พุธ 3 พ.ค.) กับหุ้นที่อยู่ฝั่งหนุนดัชนีฯ มาจากกลุ่มแบงก์และไอซีที แต่ถูกสกัดจากแรงขายหุ้นพลังงาน ปิโตรเคมี และพร็อพเพอร์ตี้ บรรยากาศซื้อขายโดยรวมจึงยังคงอยู่ในภาวะเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัว ก่อนทราบผลประชุมเฟดไร้ “เซอร์ไพรส์” หรือคงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75-1% ตามเดิม จึงไม่กระทบเซนติเมนต์การลงทุนตลาดหุ้นไทยในช่วงสั้น

TU หรือ “ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป” หุ้นบิ๊กแค็ปที่ราคากลับมาฟื้นโดดเด่น หลังแกว่งตัวในกรอบมาเกือบ 2 เดือน แม้ระยะสั้นจะมีสัญญาณเทคนิคคอยสนับสนุน แต่ผลประกอบการไตรมาส 1/60 อาจออกมาอ่อนตัว จนฉุดราคาหุ้นได้อีกครั้ง

โบรกเกอร์ “ทรีนีตี้” คาดกำไรปกติไตรมาส 1/60 อยู่ที่ 1,038 ล้านบาท ลดลง 27% Q/Q และลดลง 4% Y/Y ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น โดยผลประกอบการอ่อนแอมาจากยอดขายรวมยังไม่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่เป็น Low Season ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดอ่อนตัวลงเหลือ 13.5% จาก 14% ในไตรมาสก่อนหน้า แม้จะมีแรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรของ “Red Lobster” เข้ามาช่วย

ส่วนค่าย “ฟิลลิป” นักวิเคราะห์ยังคงให้ราคาพื้นฐานที่ชี้อัพไซด์จำกัด ที่ 22.70 บาท คาดกำไรปกติไตรมาสแรกจะอ่อนตัวลง ซึ่งเป็นผลจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นราว 2% รวมถึงค่าเงินยูโรและปอนด์ที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเพียง 3% Y/Y มาอยู่ที่ 32,117 ล้านบาท และนอกจากเงินบาทแข็งค่าแล้ว บริษัทฯ ยังได้รับผลจากราคากุ้งที่เพิ่มขึ้นจากน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มาร์จิ้นลดลงราว 1.8%

ด้าน “เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ” คาดผลประกอบการ TU จะฟื้นตัวขึ้นได้ในไตรมาส 2 และ 3 จากการเข้าสู่ไฮซีซั่น รวมทั้งการปรับราคาขายทูน่าเพื่อสะท้อนราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีผลตั้งแต่ไตรมาส 2/60 เป็นต้นไป ขณะที่ธุรกิจแซลมอนมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากเจรจากับลูกค้าทำให้สามารถทยอยปรับขึ้นราคาได้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ส่วนธุรกิจกุ้ง นักวิเคราะห์คาดว่าต้นทุนจะลดลงจากการที่ปริมาณกุ้งเพิ่มขึ้น หลังจากปัญหาน้ำท่วมคลี่คลาย อีกทั้งยังรับรู้รายได้เต็มปีจากกิจการ 4 แห่งที่ TU เข้าซื้อเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ “Red Lobster” ซึ่งคาดว่าจะฟื้นจากการขาดทุนมาเป็นคุ้มทุน หรืออาจมีกำไร นอกจากนั้น TU ยังได้ขายธุรกิจกองเรือซึ่งมีผลขาดทุนออกไป เมย์แบงก์ฯ ประเมินราคาพื้นฐาน TU ที่ 29 บาท

ส่วนมุมมอง “บัวหลวง” นักวิเคราะห์คาดว่าแรงกดดันของราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นดูเริ่มคลี่คลายลงในไตรมาส 2/60 และคาดว่าจะต่อเนื่องไปยังครึ่งหลังของปี 2560 เนื่องจากราคาปลาทูน่า แซลมอน และกุ้งเริ่มจะปรับตัวลดลงในเดือนมี.ค.-เม.ย. หนุนอัตรากำไรขั้นต้นของ TU

สำหรับทั้ง 3 ธุรกิจหลักน่าจะมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวแข็งแกร่งได้อีกครั้ง รวมถึงมีอัพไซด์จากตลาดใหม่ของ “Red Lobster” ในอนาคต บัวหลวงประเมินราคาพื้นฐาน TU ที่ 26 บาท

ปิดท้ายด้วยมุมมองเทคนิคโดยค่าย “ธนชาต” นักวิเคราะห์ระบุราคาหุ้นเริ่มทะลุกรอบสามเหลี่ยม Ascending พร้อมปริมาณการซื้อขายหนาแน่น ขณะที่เครื่องมือ DI+ ชี้ตัด DI- ขึ้น และ MACD ชี้ขึ้นเป็นบวกสนับสนุน ขณะระยะกลางกราฟทำรูปแบบกลับตัวแบบ “Inverse Head and Shoulder” จึงมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง โดยประเมินแนวต้านแรกอยู่ที่ 21.70 บาท และเป้าหมายถัดไปที่ 22.20 บาท

********************************
ทีม Business&Finance, Money Channel