ท่ามกลางปัจจัยท้าทายหลายด้านจากต่างประเทศ หันมาจับตาหุ้นที่มีกระแสลบในประเทศก่อนเปิดตลาดวันอังคาร (2 พ.ค.) เป้าหมายหลักที่น่าติดตามรวมถึงหุ้น ITD หรือ บริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด (มหาชน) หลังจากเหตุการณ์คืนวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา เกิดเหตุเครนของบริษัทฯ หล่นทับคนงานก่อสร้างในโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง บริเวณพื้นที่เขตดอนเมือง จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ปะทุความไม่เชื่อมั่นต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ

และก่อนหน้านี้ เมื่อกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ก็เพิ่งจะเกิดเหตุแท่งเหล็กก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) หล่นทับรถยนต์ บริเวณถนนพหลโยธินขาเข้า ช่วงก่อนถึงเมเจอร์รัชโยธิน ซึ่งในอยู่ความรับผิดชอบของ ITD เช่นเดียวกัน

“อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หลังจากรับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สั่งการให้หยุดก่อสร้าง เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจน พร้อมระบุ ITD ต้องรับผิดชอบความเสียหายและผู้เสียชีวิต

ผลกระทบจากเหตุดังกล่าวได้สร้างความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินโครงการก่อสร้างจากงานในมือที่มีอยู่หลายโครงการ ขณะบริษัทฯ ก่อนหน้านี้ถูกคาดหวังว่าผลประกอบการจะกลับมาพลิกฟื้นได้

ผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ออกมาปฏิเสธข่าวการขึ้นแบล็กลิสต์ ITD ขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ที่มีข่าวเกิดขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ที่ดอนเมือง

ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์ที่แล้ว “เปรมชัย กรรณสูต” กรรมการผู้จัดการ ITD ได้ให้ความเชื่อมั่นภายในงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นว่า มีความเป็นไปได้ปีนี้พลิกมีกำไรจากปี 2559 ที่ขาดทุน 109 ล้านบาท เนื่องจากเข้ารับงานต่างประเทศชดเชย และออกหุ้นกู้ชำระหนี้เดิมลดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้แตะ 5.2 หมื่นล้านบาท จากงานในมือ 4.79 แสนล้านบาท พร้อมกับมีแผนเข้าประมูลงานใหม่มูลค่ารวมกว่า 1.4 ล้านล้านบาท

ส่วนความคาดหวังในมุมมองของนักวิเคราะห์กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ได้คาดการณ์ถึงผลประกอบการในไตรมาส 1/60 มีโอกาสงบปกติจะพลิกเป็นกำไร

บล.โนมูระ พัฒนาสิน คาด Q1/60 มีแนวโน้มที่ ITD จะพลิกกลับมามีกําไรปกติทั้งเทียบ Y/Y และ Q/Q จากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง นอกจากนี้ ดอกเบี้ยจ่ายก็ลดลงด้วย ส่วนทั้งปี 2560 คาดจะพลิกมีกำไรสุทธิ 371 ล้านบาท พร้อมประเมินราคาเป้าหมาย 5.50 บาท พร้อมมุมมอง “NEUTRAL”

นักวิเคราะห์มองว่าแนวโน้มกําไรปกติของ ITD จะไม่ได้มากเท่ากับรายได้ที่เติบโต ตามการได้โครงการก่อสร้างเพิ่มต่อเนื่อง จากแรงกดดันของค่าใช้จ่าย SG&A ที่มีค่าเผื่อหนี้ฯ ต่อเนื่อง และดอกเบี้ยจ่ายที่อยู่ในระดับสูง จากโครงการลงทุนทวาย และเหมืองโปแตช ที่ยังไม่สร้างผลกําไรกลับมาในระยะ 2-3 ปี ข้างหน้า

ด้าน บล.ทิสโก้ ระบุว่า แม้ว่าในไตรมาส 4/59 ผลประกอบการ ITD จะมี Gross margin จะดีขึ้น แต่กำไรขั้นต้นก็ไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและต้นทุนทางการเงินที่สูงของบริษัทฯ แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแนวโน้มของทั้งบริษัทและอุตสาหกรรมในปีนี้จะเป็นบวก เนื่องจากคาดหวังว่าจะมีงานภาครัฐเปิดประมูลต่อเนื่องในต้นปีหน้า แต่ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังต่ำจากปัญหามาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและภาระดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทสูงมาก รวมถึง Gross margin ยังไม่เพิ่มขึ้น หรือยังไม่มีความคืบหน้าจากโครงการทวายและเหมืองโปแตช ทำให้จะยังไม่เห็นผลกำไรของบริษัทดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โบรกเกอร์รายนี้ประเมินราคาเป้าหมายที่ 5.20 บาท

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินราคาเหมาะสม ITD 7 บาท นักวิเคราะห์ระบุโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการที่ ITD ลงทุนได้สร้างภาระกระทบต่องบการเงินตลอดในรอบรายปีที่ผ่านมา เช่น โครงการทวายที่ได้ใช้เงินลงทุนไปแล้ว 7,558 ล้านบาท และ โครงการเหมืองแร่โปแตช ใช้เงินลงทุนไปแล้ว 3,244 ล้านบาท โดยปัจจุบันค่อยๆ มีความคืบหน้า แต่ยังมีความล่าช้า จึงยังสร้างภาระทั้งค่าใช้จ่าย และ ภาระดอกเบี้ยหนี้เงินกู้ ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของ ITD ยังไม่สดใส