*ขอเรียนให้ทราบกันตรงๆ อีกสักครั้งว่า “โมนิก้า” เป็นหญิงสาวรุ่นใหม่ที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก แต่กลับต้องมาเสียอารมณ์ทุกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยเดินหน้าไม่สุดตัว แถมบางวันก็อ่อนเป็นมะเขือเผาสวนทางกับชาวบ้านชาวช่อง จนทำให้เดี๊ยนอารมณ์ค้างเป็นประจำทุกทีแบบนี้ เหมือนเป็นการสะท้อนภาพความรู้สึกหวาดกลัวยังอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจนักลงทุนพะยะค่ะ

*วานนี้ถึงเห็นดัชนีรูดลงมาปิดที่ 1,553.61 จุด ลบไป 12.59 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.87 หมื่นล้านบาทอย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นผลมาจากทุกคนเน้นกลยุทธ์ตั้งรับมากกว่าบุกลุย ลักษณะการเคลื่อนตัวของดัชนีถึงเปลี่ยนจาก “ไซด์เวย์อัพ” กลายเป็น “โค้งตัวลง” อย่างรวดเร็ว แถมเมื่อเจาะลึกลงไปในรายละเอียดการเทขายไม่ยั้งของฝรั่งตาน้ำข้าว กับการเข้ามาซื้อแบบกะปริดกะปรอยของกองทุนตัวแสบ บวกกับปอบผีฟ้าขายแบบกลัวเสียของ น้องโมบอกได้ทันทีว่า งานหนักเจ้าค่ะ

*เนื่องจากแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่บริเวณ 1,550 จุดกำลังจะถูกทดสอบอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นไกด์ไลน์ที่บอกให้นักเล่นได้รู้ว่า โพสิชั่นของตลาดหุ้นจะเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงหรือเปล่า? “โมนิก้า” ถึงอยากให้แมงเม่าตั้งตารอให้ดีเป็นพิเศษ เพราะนี่เป็นช็อตทำกำไรสั้นๆ ของการเด้งขึ้นรอบใหม่ เดี๊ยนถึงสนับสนุนให้เหล่านักเล่นผู้กล้าหาจังหวะช้อนหุ้นเก็บไว้ในพอร์ตนะซี

*โดยเฉพาะในรายของ IRPC ถูกเทขายตลอดเวลา จนสุดท้ายหุ้นหลุด 5 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 4.92 บาท ลบไป 0.08 บาท ด้วยมูลค่า 715 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของกองทุนที่ต้องการปรับพอร์ต จึงต้องเทขายหุ้นออกมาก่อน ต่อจากนั้นจะย้อนกลับเข้ามาเก็บอีกรอบ ไซเคิลของหุ้นถึงขยับขึ้นขยับลงเป็นแบบ w-shape ซึ่งเหมาะสำหรับนักเล่นรอบอย่างแท้จริงนะจ๊ะ

*เหมือนกับในรายของ AJD ถูกปัดฝุ่นขึ้นมาเล่นอีกครั้ง “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ได้รับความนิยมมากพอสมควรในช่วงหุ้นใหญ่โดนฝรั่งเล่นงานนั้น มันเป็นเหตุการณ์ที่ประจวบเหมาะกันพอดี จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ต้องหันมามองกันอย่างจริงจัง ยิ่งมีข่าวเกี่ยวกับตัวเลขปี 60 ยังเติบโตแบบก้าวกระโดด ยิ่งทำให้เห็นว่า การขึ้นมาปิดที่ 1.76 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่า 170 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้พวกโหนกระแสเล่นต่ออีกพักใหญ่ๆ นะคะ

*ส่วนรายที่น่าจะหมดรอบอย่างแน่นอน คงหนีไม่พ้นหุ้นสุดร้อนแรงของปี 59 อย่าง GL ซึ่งในช่วงต้นปีย่ำต๊อกแต๊กอยู่แค่ระดับ 20 บาท แต่หลังจากนั้นก็ขยับขึ้นเป็นว่าเล่น จนขึ้นไปทำ high เกือบระดับ 70 บาท ล่าสุดกลับลงมายืนอยู่ที่ 50 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 5.20% ด้วยมูลค่า 2 พันล้านบาท แถมแรงเทขายยังมีออกมาเป็นระยะแบบนี้..ถอยก่อนดีกว่าเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ BANPU เห็นกันทนโท่ว่า ไม่สามารถฝ่าแนวต้าน 20 บาทขึ้นไปได้สักที แถมในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาก็เล่นกันไม่เกินกรอบดังกล่าวเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เห็นราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 19.70 บาท บวกไป 0.40 บาท ด้วยมูลค่า 700 ล้านบาท เพราะพวกขาประจำเขารู้ดีว่า ไม่จำเป็นต้องไล่หุ้นขึ้นไปสูงๆ และการเคาะสั้นๆ ไปตามจังหวะของตลาดมันคุ้มกว่าเห็นๆ ก็เท่านั้นเองค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องหันไปมอง STPI เพื่อเสนอเป็นทางเลือกให้กับนักเล่นขาลุย หลังหุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 10.10 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 117 ล้านบาท แถมเป็นการกระชากขึ้นแรงวันแรกหลังจากผ่านการพักตัวมา 2 วัน จึงกลายเป็นหุ้นที่เหมาะต่อการ follow buy เพราะถือว่า คนที่เล่นวันนี้เป็นไม้ต้นๆ นะจะบอกให้

*อีกหนึ่งรายที่คล้ายคลึงกัน “โมนิก้า” คงต้องชำเลืองมองม้านอกสายตาอย่างหุ้น SPRC หลังพุ่งขึ้นมาปิดที่ 13.10 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.35% ด้วยมูลค่า 120 ล้านบาท มันเป็นเกมที่น่าตามไปดูไม่ใช่น้อย เพราะเป็นการเด้งขึ้นในระหว่างที่หุ้นซึมลงอย่างช้าๆ มันตีความได้ในทันทีว่า “เริ่มกลับทิศ” กับ “ขึ้นเพื่อลง” หากเป็นอย่างแรก ก็มองได้ถึง 13.50 บาท ต่อจากนั้นค่อยขยับเป้า 14 บาท ถ้าเป็นอย่างหลัง ก็มองฐานเก่า 12 บาทแล้วกันจ้า

*ส่วนรายที่มีเจ้ามือดีอย่างเช่นหุ้น KOOL พยายามดันแบบสุดลิ่มทิ่มประตู แต่สุดท้ายพ่อยกแม่ยกไม่ตามไปเชียร์ หุ้นถึงทรุดตัวลงมาปิดเสมอตัว 8.05 บาท ด้วยมูลค่า 200 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่เกี่ยวข้องกับกระแสธุรกิจกำลังเดินมาถึงจุดพีคอีกรอบ พวกม้าแก่ชำนาญทางถึงกรูเข้ามาเล่นกันอีกรอบ แต่ลืมดูไปว่า ค่า P/E ปาเข้าไปถึง 45 เท่า..แบบนี้มันเล่นได้เหรอค่ะ

*สำหรับในรายของ ATP30 โดนเทขายอย่างหนักหน่วง จนราคาหุ้นรูดลงมากองอยู่ที่ 1.93 บาท ลบไป 0.19 หรือลงไป 9% ด้วยมูลค่า 42 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ต้องตัดใจ..ก็ควรต้องตัดใจ ไม่จำเป็นต้องทนถือต่อไปเรื่อยๆ บวกกับวานนี้เป็นการปิดจุดต่ำสุดของวัน มันหมายความว่า หุ้นมีโอกาสอ่อนตัวลงไปหาเส้น 200 วันที่บริเวณ 1.76 บาท จริงหรือไม่..วันนี้รู้ผลเจ้าค่ะ