March 29, 2024   6:44:34 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ผลตอบแทนปันผลหุ้นไทยต่ำ 2%
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 08/02/2017 @ 08:50:29
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ยิลด์ปันผลหุ้นไทยต่ำ 2% "กลุ่มสื่อสาร” ลดนโยบาย สูญหมื่นล้าน



ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ของปี จะเป็นช่วงที่บรรดาบริษัทจดทะเบียนทำการประกาศผลประกอบการ ซึ่งจะมีการขึ้นเครื่องหมายสิทธิ์รับเงินปันผลช่วง มี.ค.-พ.ค.ของทุกปี



บล.กสิกรไทยให้ความเห็นว่า บริษัทที่ฝ่ายวิเคราะห์เผยแพร่บทวิเคราะห์จำนวน 99 บริษัท พบว่า จะมีการจ่ายปันผลประมาณ 1.82 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย 0.18% จากปีก่อน ทำให้ความน่าสนใจในการลงทุน เพื่อหวังเงินปันผลในปี 2560 มีน้อยลงเมื่อเทียบกับปี 2559 เนื่องจากระดับดัชนี ณ เดือน ม.ค. 2559 ยังอยู่ที่ระดับ 1,300 จุด ค่าพี/อี อยู่ในระดับต่ำเพียง 12.9 เท่า และระดับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี อยู่ที่ 2.34% ขณะที่เดือน ม.ค. 2560 ดัชนีหุ้นไทยขึ้นมาอยู่ที่ 1,577 จุด ค่าพี/อีขึ้นมาที่ 15.1 เท่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ขึ้นมาอยู่ที่ 2.79%



ภายใต้เงินปันผล 1.82 แสนล้านบาท คิดเป็นอัตราจ่ายปันผล 1.9% ลดลงค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 2.5% เป็นผลจากจำนวนเงินที่จ่ายเพิ่มขึ้นเพียง 0.18% ขณะที่ดัชนีเพิ่มขึ้นถึง 21.3%



ส่งผลให้อัตราการจ่ายปันผลปีนี้ น้อยลงกว่าเดิมเหลือ 1.9% แต่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยระยะยาวเป็นแนวโน้มขาขึ้นจนกลับมาใกล้ 2.8% ทำให้แรงจูงใจในการลงทุนเพื่อหวังเงินปันผลของตลาดทุนมีน้อยลงมาก และไม่น่าจะเป็นประเด็นบวกที่จะช่วยประคับประคองตลาดได้



เหตุผลของการที่อัตราการจ่ายปันผลที่แย่ลง เป็นผลมาจากการจ่ายปันผลของกลุ่มสื่อสารที่หายไปกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ลดลง 36.7% จากปีก่อน ซึ่งมีสาเหตุหลักจากผลประกอบการที่แย่ลงตามค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับใบอนุญาต การตัดค่าเสื่อม และการแข่งขันที่รุนแรง อย่าง แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) และอินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) เหลืออัตราการจ่ายในช่วง มี.ค.- พ.ค. 2560 เพียง 2.7% และ 2.72% เท่านั้น ผิดไปจากอดีตที่จ่ายปันผลค่อนข้างสูง



อย่างไรก็ตาม ภาพของผลประกอบการโดยรวมถูกชดเชยด้วยการจ่ายปันผลที่มากขึ้นของกลุ่มพลังงาน 2.13 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.13 พันล้านบาท หรือ 17.2% กลุ่มวัสดุก่อสร้างจ่ายเพิ่ม 2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.4% เป็น 1.51 หมื่นล้านบาท กลุ่มธนาคารจ่ายเพิ่ม 2.72 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% จากปีก่อน เป็น 4.61 หมื่นล้านบาท และกลุ่มค้าปลีก จ่ายปันผล 2.02 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.9%



ทั้งนี้ ส่วนที่จ่ายปันผลลดลงจะมีทั้ง นิคมอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง ส่วนที่จ่ายปันผลเพิ่มขึ้นอื่นๆ ได้แก่ สาธารณูปโภค เกษตร อาหาร ปิโตรเคมี การเงิน และขนส่ง



ด้าน บล.ทิสโก้ ระบุว่า ประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยเริ่มมีสัญญาณการปรับขึ้น จากการติดตามประมาณการกำไรปี 2560-2561 ของตลาดโดยรวม (Bloomberg Consensus) นับตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงปัจจุบันถูกปรับขึ้นมาแล้ว 0.3-1% ผสานกับการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลที่ตลาดหุ้นไทยมักเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้า มีโอกาสสูงถึง 90% ที่ดัชนี SET เดือน ก.พ. จะให้ผลตอบแทนเป็นบวก



โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.4% และหากพิจารณาต่อเนื่องในเดือน มี.ค.-เม.ย. มีโอกาสสูงถึง 80% ที่ดัชนีจะให้ผลตอบแทนโดยรวมในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นบวก โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5% จึงมองตลาดหุ้นไทยในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้านี้ยังมีแนวโน้มแกว่งซิกแซกขึ้น



เครดิต : กรุงเทพธุรกิจ

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com