April 26, 2024   6:04:48 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > EFORL กู่ไม่กลับ ขยะใต้พรมเริ่มโผล่ ส่อปิดฉากหุ้นคลินิคความงาม
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 16/01/2017 @ 08:47:31
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

EFORL เช้านี้ลงแรงกว่าตลาด หลังมีข่าวเบี้ยวจ่ายตั๋ว B/E แถมให้เจ้าหนี้จัดการรีไฟแนนซ์ให้ กดราคาดิ่งต่ำสุด 0.26 บาท จ่อทำนิวโลว์ จากเคยสูงสุดเกือบ 2 บาท!ส่องอนาคตหมด สตอรี่ กำไรสะสมทรุด-นำลูกเข้าตลาดไม่คืบ เข้าข่ายสวยแต่รูปจูบแล้วเจ็บ!
ราคาหุ้น บมจ.อี ฟอร์ แอล เอม (EFORL) เปิดตลาดเช้านี้ร่วงทันทีเกือบ 13% และเป็นหุ้นที่ Underperform ตลาดมากสุดอันดับ 1 โดยเปิดที่ 0.27 บาท ก่อนจะลงไปต่ำสุด 0.26 บาท วอลุ่มซื้อขายหนาแน่น ก่อนจะปิดภาคเช้าที่ 0.28 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท หรือ 9.68% ปริมาณการซื้อขายมากกว่าปกติเกือบ 400% เทียบค่าเฉลี่ย 5 วันก่อนตามโปรแกรม efin StockPickUp
EFORL ทำธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และให้บริการด้านเสริมความงาม นับได้ว่าเป็นหุ้นขวัญใจมหาชน ด้วยผู้ถือหุ้นรายย่อย19,000 ราย คิดเป็นฟรีโฟลท 92.87% ปิดสมุดทะเบียน ณ วันที่ 1 เม.ย.59
เมื่อ 2-3 ปีก่อน EFORL ถูกวาดฝันจะเป็นหุ้น Turnaround หลังหันมาจับธุรกิจเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และซื้อหุ้นวุฒิศักดิ์คลินิคในปี 57 และยังมีแผนที่จะดันเข้าตลาดหุ้นอีกด้วย ส่งผลให้โครงสร้างรายได้มาจากธุรกิจเครื่องมือแพทย์ ธุรกิจคลินิกความงาม และธุรกิจคอสเมติก
สำรวจราคาหุ้นเคยพุ่งไปทำไฮเกือบ 2 บาท เมื่อเดือน ต.ค. ปี 57 สตอรี่ในช่วงนั้นผู้บริหารโปรยยาหอมรายได้-กำไรโตสุดติ่งกระดิ่งแมว โดยเฉพาะปี 58 เคยให้ข่าวคาดการณ์กำไรราว 600 ล้านบาท แต่ทำได้เพียง 200 ล้านบาทเท่านั้น!
เมื่อ "ความจริง" ไม่เป็นดัง "ความหวัง" ราคาหุ้นจึงพลิกเป็นขาลงอย่างชัดเจน ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 0.30 บาท ! เพราะติด "กับดัก" กำไรไม่เป็นตามคาด ส่วนแผนการนำบริษัท ดับบลิว ซีไอ โฮลดิ้ง (WCIH)ซึ่งถือหุ้นใหญ่ใน "วุฒิศักดิ์ คลินิค" เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นยังไม่คืบ!
ที่เซอไพร์สเสียยิ่งกว่า..คือเมื่อปี 59 บริษัทฯ ประเดิมขาดทุน 3 ไตรมาสรวด! รวมแล้ว 9 เดือนแรก พลิกขาดทุนสุทธิ 128 ล้านบาท จากที่เคยมีกำไรสุทธิ 155 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 58
สอดคล้องกับผลตอบแทนจากราคาหุ้นในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา (4 ม.ค.59-12 ม.ค.60) ที่สุดสะพรึง?!! EFORL เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนต่ำสุดในตลาด mai รองจาก TAKUNI โดยอัตราผลตอบแทนติดลบ 59.74%
ขณะที่สัญญาณราคาหุ้นปรับลงเช้านี้จนเข้าใกล้โลว์เดิมเมื่อปีก่อน 0.21 บาท...หลังมีสอตรี่ใหม่ที่เขย่าหัวใจแฟนพันธุ์แท้อีกครั้ง จากข่าว "ผิดนัดชำระหนี้" ตั๋ว B/Eจำนวน 200 ล้านบาทเมื่อ 12 ม.ค.60 ซึ่งเป็นการโหนกระแสข่าวลบ (แบบไม่ได้ตั้งใจ)..หลังก่อนหน้ามีบริษัทจดทะเบียนอีกรายที่ยังง่วนแก้ไขปัญหานี้อยู่เช่นกัน
EFORL แจงว่าไม่ได้ตั้งใจจะผิดนัด กับ บลจ.โซลาริส และถือเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค โดยบ่ายนี้จะมีการเจรจากัน แต่ที่น่าคิด มันผิดปกติ??! ...ที่อยู่ๆเจ้าหนี้อย่าง บลจ.โซลาริส ในฐานะผู้ซื้อตั๋ว B/E ต้องรับภาระหาแหล่งเงินเพื่อรีไฟแนนซ์ตั๋ว B/E ฉบับดังกล่าวให้ EFORL..#แบบนี้ก็ได้เหรอ??
ประเด็นนี้อาจสะท้อนภาพชัดขึ้นได้ถึง "ความอ่อนแอ" ทางด้านการเงินของบริษัทชัดเจน ตรวจสอบล่าสุดงวด 9 เดือนแรกปี 59 พบมีกระแสเงินสดในมือราว 35 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 347 ล้านบาท
ขณะที่กำไรสะสมลดเหลือ 53 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ราว 300 ล้านบาท..วงจรเงินสดอยู่ที่ 100 วัน จากปกติที่เคยทำได้ราว 50 วัน สะท้อนการเก็บเงินจากลูกหนี้ยากขึ้นใช้เวลาในการขายสินค้านานขึ้น
จากนี้คงต้องลุ้นว่า อนาคต EFORL จะเป็นเช่นไร วัดฝีมือผู้บริหารที่จะ"ผ่าตัด"บริษัทเพื่อพลิกฟื้นความเชื่อมั่นผู้ถือหุ้น 19,000 ราย ล่าสุดที่เห็นคือ การหันมารุกตลาดคอสเมติกมากขึ้น ขายเครื่องสำอางแบรนด์ "วุฒิศักดิ์" หลังยอมรับว่าตลาดคลินิกเสริมความงามเริ่มอ่อนตัว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แผนนำ WCIH เข้าตลาดล่าช้า จนกว่างบจะสวยเสียก่อน
จากนี้ไปยังไร้สตอรี่บวกหนุนราคา อีกทั้งยังโดนพายุตั๋ว B/E ถล่ม! ทำให้ราคาหุ้นกู่ไม่กลับ ที่ผ่านมาล้วนเป็นประสบการณ์บอกเราว่า "อะไรก็เกิดขึ้นได้" กับบริษัทที่นักลงทุนเคยมี "ความเชื่อ" และ "ความหวัง" ว่าเป็นหุ้นที่น่าจะมีอนาคต สภาพการณ์ที่เราเห็นเกิดขึ้นกับหุ้นตัวนี้จึงอาจเรียกได้ว่าเข้าข่าย "สวยแต่รูปจูบแล้วเจ็บ"

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com