April 24, 2024   8:16:44 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ลุย"ท่องเที่ยว-ค้าปลีก"Q4เข้าไฮซีซั่น
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 26/10/2016 @ 08:40:39
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

วงการแนะเก็บหุ้นงบไตรมาส 4/59 เด่น ชูท่องเที่ยวและโรงแรม-ค้าปลีก เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น มอง COM7-BJC ราคาค่อนข้างสูงให้ซื้อเมื่ออ่อนตัว ส่วน ERW-CENTEL กำไรดีแถมราคายังแลกการ์ด พร้อมแนะซื้อ WHA รับปลายปีขายสินทรัพย์เข้า REIT 2 กอง บวกรับสิทธิจองซื้อ บ.ย่อยผลิตไฟฟ้าซึ่งจะ เข้าตลาด Q1/60 กลยุทธ์ช่วงนี้แนะลงหุ้น 40% ที่เหลือถือเงินสด ด้าน SQ หุ้นน้องใหม่ทำเหมืองครบวงจร เข้าเทรด SET วันนี้ มั่นใจนักลงทุนตอบรับดี

*** มอง Q4 ท่องเที่ยวและโรงแรม-ค้าปลีก ผลงานแจ่มสุด
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เอเซียพลัส ได้คาดการณ์ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในงวดไตรมาส 4/59 ว่า เบื้องต้นคาด ว่าจะมีเพียง 2 กลุ่มที่เติบโตโดดเด่นคือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยวและโรงแรม และ ธุรกิจค้าปลีกซึ่งส่วนใหญ่มียอดขายโดดเด่นในช่วงปลายปีเนื่องจากใกล้เทศกาลปีใหม่ ( หลังจาก งวด3Q59 ชะลอตัวจาก low season ช่วงฤดูฝน) แต่เนื่องจากหุ้นค้าปลีกส่วนใหญ่ได้ปรับขึ้นมาเต็มมูลค่า เช่น COM7 และ BJC แต่ราคานี้ค่อนข้างสูง แนะนําให้ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
ส่วนกลุ่มท่องเที่ยวราคาหุ้นยังขยับขึ้นน้อยกว่าตลาด ขณะที่ยังมีประเด็นบวกเรื่องปริมาณ นักท่องเที่ยวที่ยังมีแนวโน้มที่ดี ทั้งจากจีน และรัสเซีย หลังราคานํ้ามันฟื้นหนุนเศรษฐกิจดีขึ้นประกอบกับการจัดกิจกรรมของภาครัฐและเอกชนหนุนให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยตลอดปี 2559 ไม่ ตํ่ากว่า 33 ล้านคน เติบโต 10% YoY ซึ่งทําให้กําไรปกติของกลุ่มโรงแรมจะเติบโตถึง 21.5% YoYและเติบต่อเนื่อง 12% ในปี 2560 โดยงวด 1Q60 จะทำกําไรจุดสูง สุดใหม่ของปี เลือก ERW และ CENTEL เป็น Top picks
ส่วนช่วงนี้ บริษัทจดทะเบียนก็ทยอยประกาศงบไตรมาส 3 ซึ่งกลุ่มธนาคารประกาศเป็นกลุ่มแรกผลประกอบการไม่ค่อยสดใส โดยเฉพาะ
ธนาคารขนาดใหญ่ หลังจากนี้จะเป็น Real sector ทยอยประกาศงบ คาดว่ากําไรน่าจะหดตัวจากงวดก่อนหน้าโดยเฉพาะหุ้นที่มี Market cap ขนาดใหญ่เริ่มจาก กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี แต่ก็เป็นไปตามฤดูกาลตามด้วยกลุ่ม ICT คาดกําไรชะลอตัวจากต้นทุนใบอนุญาต 4G ของ ADVANC และ TRUE ส่วนDTAC รายงานกําไรลดลงถึง 46% YoY

*** ดัชนียังมีแนวโน้มผันผวนและ 1,500 จุดยังผ่านยาก
บล.เอเซียพลัส มองว่าดัชนียังมีแนวโน้มผันผวนและ 1,500 จุดยังผ่านยาก ปลายสัปดาห์ที่ผ่านดัชนี SET Index พยายามยืนเหนือ 1,500 จุด (ทําให้ Expected P/E ณ สิ้นปี 2559 ขึ้นไปสูงถึง 16.6 เท่า) ซึ่งถือว่าไม่ถูกเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน ประกอบกับ Fund Flow ที่มีแนวโน้มซื้อสลับขาย หรือ ขายมากกว่าซื้อในช่วงที่เหลือในไตรมาสสุดท้ายของปี จึงกลยุทธ์ยังคงเน้นลงทุนถือหุ้น 40% ที่เหลือเป็นเงินสด หรือ ลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น หุ้นต่างประเทศ ทองคํา หรือ ตราสารหนี้ เป็นต้น
สำหรับการลงทุนในหุ้น สำหรับหุ้นไทยให้ผสมระหว่างห้นุ Domestic และ Global Play เพราะหวังว่างวดผลประกอบการงวด 4Q59 มีแนวโน้ม กระเตื้องจากงวด 3Q59 ชัดเจน โดยหุ้นที่แนะนําให้มีการผสมผสานดังนี้
1.หุ้นที่มีความผันผวนน้อยกว่าตลาดและมีเงินปันผลสงู ASK, THANI, HANA, PS,KCAR, DRT, TTW, TCAP, SCCC, TK, TISCO RATCH
2.หุ้นที่มีผลประกอบการเด่นในงวด 4Q59 ได้แก่ WHA, ERW, CENTEL
3.หุ้นที่อิงตามทิศทางราคานํ้ามนั อิงการเติบโตจากภายนอก ได้แก่ PTT, PTTEP, IVL และ IRPC

*** WHA เป็นหุ้นเด่น-กำไรQ4 สูงสุดเป็นประวัติการณ์
กลยุทธ์การลงทุน คาด SETยังมีอุปสรรค 1,500 จุด จึงให้สะสมหุ้น global และdomestic ได้แก่ ASK-HANA-WHA และเลือก Top pick คือ WHA (FV@B4.34 ) คาดว่ากําไรงวดไตรมาส 4/59 โดดเด่น และเพื่อได้สิทธิจองซื้อหุ้น WHAUP ซึ่งผลิตไฟฟ้าที่กําลังจะเข้าตลาดไตรมาส 1/60
ทั้งนี้ เชื่อว่าการลงทุนภาครัฐยังคงเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะแผนการพัฒนาระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่ง
กระตุ้นการลงทุนใน 3 พื้นที่ภาคตะวันออก คือ ชลบุรี ระยอง และ ฉะเชิงเทรา ซึ่งถือเป็นพื้นที่มีความพร้อมทั้งสาธารณูปโภคครบ ทั้งระบบขนส่ง ทั้งสนามบิน ท่าเรือ แหลงฉบัง รวมถึงแผนพัฒนา Infrastructure ต่างๆ ของรัฐที่กําลังจะเกิดขึ้น ทั้งถนนมอเตอร์เวย์ รถไฟ รางคู่ รถไฟความเร็วสงู และแหลมฉบังเฟส 3 ซึ่งล้วนหนุนให้ดินที่พัฒนา และกําลังพัฒนารองรับ อุตสาหกรรมในอนาคต เป็นที่ต้องการของภาคธุรกิจ ซึ่งประเมินว่า จะมีเม็ดเงินลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนรวมกันที่คาดว่าจะสูงถึง 1.5 ล้านล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเท่ากับเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทที่การพัฒนาพื้นที่นิคมฯ อย่างกรณี WHA ซึ่งปัจจุบันมีที่พร้อมขายราว 1 หมื่นไร่ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี และระยอง และจะหนนุ Presales ระยะยาว
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการงวด 4Q59 คาดว่าจะทําจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากยอดขายจะเพิ่มขึ้นจากการนําสินทรัพย์เข้า REIT 2 กองมูลค่ารวม 1.2 หมื่นล้านบาท คือ 1) นําโรงงาน/คลังสินค้าสําเร็จรูปของ HEMRAJ เข้ากองทรัสต์ที่จัดตั้งขึ้นใหมคือ HREIT มูลค่าขาย 8 พันล้านบาท (ได้ยื่นต่อ ก.ล.ต. แล้วและจะเสนอขายหน่วยลงทุนในเดือน พ.ย. 59 ) 2) การนําคลังสินค้าของ WHA 2 แห่งที่ ชลหารพิจิตร และลาดกระบัง ขายเข้ากองทรัสต์ WHART ด้วยมูลค่าขาย 4.19 พันล้านบาท (ถือเป็นลักษณะปกติของ WHA ที่มักขายสินทรัพย์เข้า REIT ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของทุกปี)

*** SQ เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 26 ต.ค. นี้
ดร. สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ. สหกล อิควิปเมนท์ (SQ) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดบริการรับเหมาก่อสร้าง ในวันที่ 26 ตุลาคม 2559 นี้ โดย SQ ดำเนินธุรกิจให้บริการและดำเนินงาน ด้านการทำเหมืองอย่างครบวงจร โดยครอบคลุมถึงการวางแผน การให้คำปรึกษา การปฏิบัติงานเปิดหน้าเหมือง การรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาและระบบสาธารณูปโภคภายในเหมือง และการให้เช่าและซ่อมบำรุงเครื่องจักรขนาดใหญ่
ปัจจุบัน SQ ดำเนินงานให้บริการแก่โครงการทั้งสิ้น 3 โครงการ ได้แก่ โครงการเหมืองแม่เมาะ โครงการ 7 และ โครงการ 8 และโครงการ
เหมืองหงสา ในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งแต่ละโครงการมีอายุสัญญาไม่น้อยกว่า 10 ปี
SQ มีทุนชำระแล้ว 1,130 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 750 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 380 ล้านหุ้น โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อนักลงทุนสถาบัน ผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่าย และผู้มีอุปการคุณของ SQ ในราคาหุ้นละ 3.20 บาท เมื่อวันที่ 14, 17-18 ตุลาคม 2559 มีมูลค่าระดมทุนรวม 1,216 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,616 ล้านบาท โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด และบริษัทหลัก ทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการร่วมการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายศาศวัต ศิริสรรพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SQ เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วย
เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับบริษัทฯ โดยมีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ไปใช้ลงทุนในโครงการเหมืองแม่เมาะ โครงการ 8 จำนวนหนึ่ง และส่วนหนึ่งจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ
















 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com