April 25, 2024   7:01:31 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กองทุน-พอร์ตโบรกฯไร้มลทิน
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 20/10/2016 @ 08:40:55
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ก.ล.ต. ยืนยันไม่พบการซื้อขายหุ้นที่ผิดปกติของพอร์ตโบรกเกอร์ และกองทุน ในช่วงที่ดัชปรับตัวลงแรงต่อเนื่องกันหลายวันทำการ หลังเข้าไปตรวจสอบการซื้อขายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยอมรับมีปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้น ด้านนายกสมาคมโบรกเกอร์ ชี้ตลาดหุ้นไทยมีความหลากหลายของการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะมีการออก DW ที่กำลังได้รับความนิยม ทำให้โบรกเกอร์ต้องเข้ามาซื้อหุ้นรองรับ ไม่ใช่เกิดจากการเก็งกำไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นไทยได้กลับเข้าสู่การซื้อขายที่เป็นปกติหลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยสูงถึง 95,800 ล้านบาทต่อวัน โดยช่วงวันที่ 12-14 ต.ค.59 พบการซื้อขายสูงในระดับมากกว่า 1 แสนล้านบาทต่อวัน ขณะที่ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (19 ต.ค.59) ปิดตลาดที่ 1,486.28 จุด เพิ่มขึ้น 8.74 จุด หรือ 0.59% มูลค่าการซื้อขาย 58,909.13 ล้านบาท


อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลการซื้อขายหุ้น ตั้งแต่วันที่ 1-18 ต.ค.59 พบว่า สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 15,717 ล้านบาท บัญชีโบรกเกอร์ ขายสุทธิ 2,800 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 9,738 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป ขายสุทธิ 3,178 ล้านบาท

*** ก.ล.ต.ไม่พบความผิดปกติ โบรกฯ-บลจ.เทรดคึกคัก
นางจารุพรรณ อินทรรุ่ง ฝ่ายนโยบายและพัฒนาธุรกิจตัวกลาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้ติดตามตรวจสอบการซื้อขายพอร์ตโบรกเกอร์อย่างใกล้ชิดในช่วงที่ผ่านมา ไม่พบว่ามีการซื้อขายผิดปกติ แม้จะมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นตามมูลค่าซื้อขายรวมทั้งตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยสัดส่วนการซื้อขายยังคงเท่าเดิมประมาณกว่า10% สำหรับการซื้อขายของกองทุนในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นไม่พบความผิดปกติเช่นกัน
"เราติดตามการซื้อขายพอร์ตโบรกเกอร์อย่างใกล้ชิด ซึ่งพอร์ตโบรกฯมีหลายลักษณะ เช่นลักษณะเชิงกลยุทธ์ เพราะโบรกเกอร์จะมีการออกสินค้า เช่น DW จะมีการลงทุนใน TFEX ด้วย เพื่อป้องกันความเสี่ยง และลักษณะ เดย์เทรด ที่ผ่านมาการซื้อขายของพอร์ตโบรกเกอร์ปกติดี แม้จะมีปริมาณซื้อขายที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นไปตามภาวะตลาดที่เพิ่มขึ้น"นางจารุพรรณ กล่าว
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต.กล่าวถึงกรณีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้ก.ล.ต.ตรวจสอบหาผู้ปล่อยข่าวที่กระทบดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงในช่วงที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการตรวจ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้

***สมาคมโบรกฯ ยันไม่พบพอร์ตโบรกฯเก็งกำไร
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า ในอดีตการซื้อขายของบัญชีบริษัทหลักทรัพย์จะเป็นการลงทุนส่วนตัวของบริษัทหลักทรัพย์ แต่ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมีประเภทการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) ที่ผ่านมาได้รับความนิยมค่อนข้างมาก ซึ่งทุกครั้งที่ มีการออก DW ใหม่ บริษัทหลักทรัพย์ต้องเข้าซื้อหุ้นเพื่อมารองรับจำนวนมาก ขณะเดียวกันตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(TFEX) เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยการซื้อขาย Single Stock Futures บริษัทหลักทรัพย์ต้องใช้วิธีการซื้อขายแบบ Block Trade คือ เข้าเป็นคู่สัญญาฝั่งตรงข้ามให้กับลูกค้าตามที่ลูกค้าต้องการ ทำให้มีธุรกรรมจากการลงทุนทั้ง 2 ประเภทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
“การเพิ่มขึ้นของมูลค่าการซื้อขายในกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ เบื้องต้นพบว่ามีธุรกรรมที่รองรับจากการเติบโตของประเภทการลงทุนที่หลากหลาย และจากการพูดคุยยังไม่พบว่ามีบริษัทหลักทรัพย์ทำการซื้อขายเพื่อเก็งกำไรจนน่ากังวล โดยส่วนตัวประเมินว่ามูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นสัดส่วนกว่า 50% มาจากธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ DW ซึ่งหาก ก.ล.ต. มีการตรวจสอบข้อมูล และบริษัทหลักทรัพย์มีหลักฐานทางธุรกรรมรองรับเชื่อมั่นว่าจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน" กล่าว

***บล.ทิสโก้ ชี้เริ่มเห็นสัญญาณทุนต่างชาติไหลออก
บล.ทิสโก้ มอง SET Index พ้นจุดต่ำที่ 1,343 จุดไปแล้ว หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว (10-14 ต.ค.) เหวี่ยงตัวรุนแรงมากจากปัจจัยกดดันทั้งในและต่างประเทศ ก่อนฟื้นตัวขึ้นมาแถวระดับ 1,470 จุดในปัจจุบัน โดยมองตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวสมเหตุสมผลมากขึ้นในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ แต่ยังอยู่ในแนวโน้มการแกว่งตัวซิกแซกลงภายใต้กรอบ 1,400-1,520 จุด
ถึงแม้ปัจจัยภายในประเทศมีความชัดเจนแล้ว และปัจจุบัน SET Index อยู่ในช่วงของการฟื้นตัวในระยะสั้น แต่ปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศยังเป็นภาพใหญ่ที่คาดว่าจะกดดันตลาดหุ้นไทยในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ นอกจากนี้เงินทุนต่างชาติเริ่มมีสัญญาณการไหลออก หลังจากเข้าตลาดหุ้นไทยตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาของปีนี้ เริ่มต้นพลิกเป็นไหลออกในไตรมาสนี้ ส่วนหนึ่งอาจมาจากนักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่นปัจจัยการเมืองภายในประเทศในช่วงนี้ และบางส่วนอาจมาจากแนวโน้มการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ จากโอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้ จากการตรวจสอบกระแสเงินทุนต่างประเทศนับตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. ถึงปัจจุบัน (QTD ณ วันที่ 18 ต.ค.) เป็นไหลออกจากตลาดหุ้นไทย 276 ล้านดอลลาร์ฯ และตลาดตราสารหนี้ 751 ล้านดอลลาร์ฯ ยุติการไหลเข้า 5 เดือนติดต่อกัน นอกจากนี้ยังเห็นสัญญาณเชิงลบในตลาดล่วงหน้า TFEX ด้วย โดยนักลงทุนต่างชาติมีสถาะสะสม Short S50 Futures -2.2 หมื่นสัญญาในช่วงเวลาเดียวกัน (QTD)
แม้ตลาดหุ้นไทยไตรมาส 4 มีแนวโน้มแกว่งซิกแซกลง แต่ปัจจุบันไม่คาดว่าจะลงลึกต่ำกว่าระดับ 1400 จุดมากนักแล้ว จาก 3 ปัจจัยที่น่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลง คือ (1) การประเมินมูลค่าหุ้นไทยอยู่ในระดับที่เหมาะสม (ไม่ถูก-ไม่แพง) (2) คาดว่าจะมีเม็ดเงินจากกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งมักจะทยอยไหลเข้ามากที่สุด และ (3) การทบทวนดัชนี MSCI รอบครึ่งปีในวันที่ 14 พ.ย. นี้ (มีผลบังคับใช้ 1 ธ.ค.) เบื้องต้นคาดว่าจะมีการเพิ่มจำนวนหุ้นไทยในการทบทวนรอบนี้ เนื่องจากตลาดหุ้นไทยติด 1 ใน 10 อันดับแรกที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปีนี้ โดยนับตั้งแต่ต้นปีนี้ (YTD)




 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com