March 29, 2024   6:49:45 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > SELICมั่นใจหุ้นยืนเหนือจอง
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 18/10/2016 @ 08:35:25
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

"ซีลิค คอร์พ"(SELIC)ไม่หวั่นภาวะตลาดผันผวน เตรียมเข้าเทรดใน mai วันแรก 18 ต.ค.นี้ ผู้บริหารมั่นใจนักลงทุนตอบรับดี เหตุพื้นฐานแกร่ง-จำนวนหุ้นมีน้อย แถมเป็นหุ้นกาวอุตสาหกรรมตัวแรกของไทย ล่าสุดโชว์งบ 6 เดือนแรกปีนี้กำไรโต 15% อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 7% หลังเน้นขายสินค้ามาร์จิ้นสูง ด้านอันเดอร์ไรท์เผยราคาไอพีโอที่ 2.90 บาท คิดบนพี/อี 19 เท่า ต่ำกว่าพี/อี mai ที่ 60 เท่า และพี/อี SET อยู่ที่ 20 เท่า


*** mai รับหุ้น SELIC เข้าเทรดวันแรก
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. ซีลิค คอร์พ (SELIC) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ในวันที่ 18 ตุลาคม 2559 โดย SELIC ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย รวมทั้งวิจัยและพัฒนากาวอุตสาหกรรม แบ่งสินค้าของบริษัทเป็น 4 กลุ่มคือ กาว Solvent, กาวน้ำ, กาว Hot Melt, และสารเคมีภัณฑ์อื่นๆ เพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศกว่า 27 ประเทศ ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท ได้แก่ VEGAMELT, INTENSITY, MINERVA, TORA, ICETECH, DELTABOND, WORLD, ZICCO, RHINO, TUFF KIT เป็นต้น
SELIC มีทุนชำระแล้ว 140 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 200 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 80 ล้านหุ้น เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 10-12 ตุลาคม 2559 ในราคาหุ้นละ 2.90 บาท มูลค่าการระดมทุนรวม 232 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 812 ล้านบาท มีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจท์เม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
SELIC มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มสุวัฒนพิมพ์ ถือหุ้น 67.50% กลุ่มว่องกุศลกิจ ถือหุ้น 2.00% และนายศุภวัตร ลิขิตธนวงศ์ ถือหุ้น 1.22%

*** ผู้บริหารมั่นใจเทรดวันแรกนักลงทุนตอบรับดี
นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) หรือ SELIC เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวไม่มีความกังวลกับภาวะตลาดหุ้น โดยเชื่อมั่นว่าเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นวันแรกในวันที่ 18 ต.ค. นี้ นักลงทุนจะให้การตอบรับที่ดี เพราะหุ้นของบริษัทฯ ถือเป็นหุ้นพื้นฐานดี และนับตั้งแต่เริ่มโรดโชว์ให้นักลงทุน 12 จังหวัด เห็นว่านักลงทุนให้ความสนใจในหุ้นค่อนข้างมาก รวมถึงกระบวนการจองซื้อที่ผ่านมาผ่านไปได้ด้วยดี โดยมีจำนวนหุ้นที่เสนอขายไม่เพียงพอต่อความต้องการมากพอสมควร
นอกจากนี้ ธุรกิจของบริษัทฯ อยู่ในอุตสาหกรรมกาว ถือว่ามีความสำคัญ โดยใช้เป็นตัวเชื่อมที่อยู่ในอุตสาหกรรมทุกขนาด โดยส่วนใหญ่ลูกค้าอยู่ในธุรกิจอาหาร เครื่องดื่มมากที่สุด 20% รองลงมาเป็นธุรกิจรองเท้า เครื่องนุ่งห่ม บรรจุภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งมีการกระจายกลุ่มลูกค้าค่อนข้างมากและมีโอกาสการขยายฐานลูกค้าเพิ่มในทุกอุตสาหกรรม ลูกค้าที่หลากหลายจะช่วยลดความเสี่ยงความผันผวนในแต่ละอุตสาหกรรมด้วย
ปัจจุบันอุตสาหกรรมกาวมีแนวโน้มที่ดี เพราะมีความต้องการใช้กาวในอุตสาหกรรมมากขึ้น ตามการเปลี่ยนแปลงดีไซน์และวัสดุของแต่ละธุรกิจ และผู้ผลิตหลายรายไม่มีการพัฒนาสินค้าที่หลากหลายเหมือนของบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทฯมีทีมวิจัยและพัฒนา และมีแล็บ ซึ่งจะขยายการลงทุนวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องขึ้นเป็นแล็บชั้นนำเอเชียแปซิฟิก รวมถึงเครื่องจักรในการผลิตมีคุณภาพสูง ทำให้บริษัทฯ ผลิตสินค้าได้อย่างมีคุณภาพ
สำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ แบ่งสัดส่วน 50% เป็นกาวยาง และ 25-26% คือ กาวเม็ดในอุตสาหกรรม (Hot Melt Adhesive)
ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างการขายสินค้า โดยพยายามลดสินค้าประเภทที่มีมาร์จิ้นต่ำให้ลดน้อยลง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 30% จากเดิมที่ 20% และอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 6% จากระดับต่ำเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งในอนาคตอัตรากำไรขั้นต้นมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามการปรับโครงสร้างการขายทำให้ยอดขายของบริษัทฯ ลดลง แต่ในด้านกำไรสุทธิถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ ธุรกิจของบริษัทฯจะมีการขยายตัวไปต่างประเทศอย่างต่อเนื่องโดยขณะนี้มีสัดส่วนการขายในประเทศ 70% และส่งออกคิดเป็น 30% โดยเป็นการส่งออกในแถบภูมิภาคอาเซียน ตะวันออกกลาง และขณะนี้สนใจตลาดประเทศออสเตรเลีย

*** ระดมทุนพัฒนาศูนย์วิจัยและพัฒนา สร้างการเติบโตระยะยาว
นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SELIC กล่าวว่า สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จำนวน 232 ล้านบาท ส่วนหนึ่งจะนำไปซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ในการวิจัยและพัฒนา (R&D)จำนวน 40 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนในการต่อเติมอาคาร ปรับปรุงระบบการผลิต 40 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัทฯในระยะยาว
" การระดมทุนในครั้งนี้ช่วยให้กิจการของ SELIC เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนหนึ่งจะไปซื้อเครื่งอมือในการวิจัยและพัฒนา ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของบริษัท ทำให้สามารถทำการวิจัยและพัฒนาเกิดนวัตกรรมใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่จะตอบสนองความต้องการลูกค้าได้มากขึ้น" นายเอก กล่าว
นายเสกสรรค์ ธโนจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า SELIC มีจุดเด่นในด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม และบริษัทดำเนินธุรกิจมากว่า 30 ปีจนเป็นผู้นำกาวอุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งการันตีความสามารถของผู้บริหารในการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งเพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับความเชื่อถือและไว้ใจจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยมีลูกค้ามากกว่า 27 ประเทศทั่วโลก
โดย SELIC ถือเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายกาวอุตสาหกรรมรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาด mai และธุรกิจมีความน่าสนใจจากการคิดค้นและวิจัยของบริษัทที่ยากต่อการเลียนแบบ รวมถึงความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์กาวที่มีอยู่ในทุกอุตสาหกรรมทำให้มีการเติบโตต่อเนื่อง

*** ราคาไอพีโอที่ 2.90 บาท คิดเป็นพี/อี 19 เท่า
นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์(บล.)โนมูระ พัฒนสิน ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น กล่าวว่า ราคาไอพีโอของ SELIC ที่ 2.90 บาท คิดบนค่า P/E อยู่ที่ 19 เท่า เทียบกับค่า P/E ตลาด mai อยู่ที่ 60 เท่า และ P/E SET อยู่ที่ 20 เท่า โดยการกำหนดราคาหุ้นตั้งอยู่บนพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถเติบโตตามอุตสาหกรรมการผลิต และบริษัทมีความโดดเด่นด้านการวิจัยและพัฒนา มีนวัตกรรมและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เชื่อว่าหุ้นของ SELIC เข้าซื้อขายวันแรกในตลาด mai จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เห็นได้จากการไปโรดโชว์ในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ประกอบกับจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ 80 ล้านหุ้น ถือว่ามีปริมาณที่น้อยจึงเชื่อว่าจะได้รับความสนใจ
"ที่ผ่านมา SELIC โรดโชว์ 12 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน และทำให้นักลงทุนมีความเข้าใจธุรกิจกาวอุตสาหกรรมมากขึ้น และเห็นโอกาสการเติบโตทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคต รวมถึงวิสัยทัศน์ผู้บริหารที่มุ่งมั่นพัฒนาสินค้า ยิ่งทำให้นักลงทุนมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัท และน่าจะทำให้นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นในครั้งนี้"นายนิมิต กล่าว

*** โชว์งบ 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไร 21.85 ลบ. โต 15%
บริษัท ซีลิค คอร์พ(SELIC) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 มีกำไรสุทธิ 11.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.66 ล้านบาท
ส่วนงวด 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 21.85 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.11 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 18.94 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.09 บาท
ทั้งนี้ กำไรสุทธิงวด 6 เดือนเพิ่มขึ้น 15.09% และคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวมเท่ากับ 7.62% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 58 ที่เท่ากับ 6.17% เป็นผลมาจากบริษัทลดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรต่ำ และราคาวัตถุดิบในตลาดโลกมีการปรับตัวลดลง

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com