* “โมนิก้า” ไม่รู้สึกแปลกใจเกี่ยวกับความเป็นไปของดัชนีวานนี้แม้แต่น้อย หลังวันก่อนเพิ่งเม้าท์ให้ฟังไปหยกๆ ถึงการกลับมาเซ็ทเกมกันใหม่ของผู้เล่นแต่ละราย โดยเฉพาะรอบนี้ดันไปเกี่ยวข้องกับประเด็นเก่าเล่าใหม่แบบเต็มๆ ส่งผลให้ตัวเลขซื้อขายที่ออกมา กลายเป็นตัวสะท้อนถึงการสับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ของแต่ละคน เพื่อนักลงทุนรายย่อยที่รักจะได้เชยชมยังไงล่ะค่ะ

* ไม่ต้องไปคิดให้เสียเวลาหารับประทาน เพราะเรื่องเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยได้กลับมาเยี่ยมเยียนตลาดหุ้นไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้ง วานนี้จึงกลายเป็นตัวแปรสำคัญ ส่งผลให้ฝรั่งมังค่าสาดหุ้นออกมาแบบฉายเดี่ยวกว่า 5.57 พันล้านบาท ขณะที่กองทุนตัวแสบพับบทผู้ร้ายมาช่วยประคองหุ้นไว้ชั่วคราวด้วยการซื้อสุทธิ 1.36 พันล้านบาท...เป็นไง ฟังดูดีพอไหมเจ้าค่ะ?

* ส่วนที่สวมหัวใจสิงห์รอบนี้จนน่ายกย่องคือ เม่าพันธุ์ดุที่รักของ “โมนิก้า” เพราะภายใต้สถานการณ์ที่เริ่มจะไว้วางใจไม่ได้อีกครั้งหนึ่ง ยังอุตส่าห์กวาดหุ้นเข้าพอร์ตไปถึง 3.81 พันล้านบาท และโดยเฉพาะเมื่อเห็นปอบผีฝ้าซื้อไปแบบกระมิดกระเมี้ยนเพียง 395.83 ล้านบาท เดี๊ยนจึงกราบขออนุญาตเรียนเตือนมิตรรักแฟนเพลงทุกท่านว่า มีกำไรก็รีบโกยนะจ๊ะ...อิ อิ อิ

* เนื่องจากภายใต้สถานการณ์พรรค์นี้ “โมนิก้า” เรียนตามตรงว่า คลุมเครือมากทีเดียว จากก่อนหน้าเคยเห็นดัชนีปรับตัวขึ้นแรงด้วยเงินต่างชาติ แต่พอวันนี้นึกถึงหน้าคุณพี่เจเน็ต เยลเลนขึ้นมา กลับรู้สึกเสียวซ่านอย่างไรพิลึก มิหนำซ้ำเพื่อนชายคนสนิทของเดี๊ยนซึ่งเป็นอดีตทหารโซเวียตยังฝากกระซิบมาด้วยว่า “แม้สงครามยังไม่เกิด แต่ชักเหม็นขี้หน้าเต็มทีแล้ว!”

* ประเด็นดังกล่าวมีส่วนทำให้วานนี้หุ้นไทยลงมาปิดที่ 1,477.34 จุด ลดลง 0.27 จุด หรือ 0.02% ด้วยมูลค่า 6 หมื่นล้านบาท ถ้าถามว่า จะลงต่อหรือเปล่า? “โมนิก้า” บอกเลยเป็นเรื่องของกองทุนตัวแสบ ซึ่งงานนี้ต้องวัดใจว่ากล้าเข้ามารับของจากฝรั่งมังค่าแค่ไหน ส่วนแมงเม่าแฟนคลับของเดี๊ยนก็เตรียมกระสุน...อุ๊ย!...เงินสด ไว้ให้ดีเถอะค่ะ “มิดไนท์เซล” ของดีราคาถูกน่าจะใกล้เริ่มอีกแล้วนะเจ้าค่ะ

* พูดถึงเรื่องนี้ทั้งที รายของ KBANK ถือเป็นตัวอย่างที่ดีหลังโดนทุบจากข้างบนลงมาปิดที่ 179.50 บาท ลบไป 10 บาท หรือ 5.28% ด้วยมูลค่า 7.68 พันล้านบาท โดยเหตุผลที่ถูกเทขายครั้งนี้มาจากความผิดหวังเรื่องผลประกอบการรอบ 9 เดือน ซึ่งกำไรลดลงเหลือแค่ 2.99 หมื่นล้านบาท หดตัวลงราว 12% เมื่อเทียบกับปีก่อน แบบนี้พอจะเป็นโอกาสในวิกฤตได้ไหมล่ะค่ะ

* ตัวเลขดังกล่าว ประกอบกับสัดส่วนของหนี้เน่าที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติกระหน่ำขายออกอย่างไม่ยั้งมือ แต่หากจะมีใครซักคนบอกว่า NPLเจ้าปัญหาปรับตัวขึ้นมาสูงสุดแล้วในไตรมาส 3 ปีนี้ “โมนิก้า” ถามหน่อย “นักลงทุนระยะยาวคิดเห็นเช่นไรกันบ้าง?” แต่สำหรับเดี๊ยนถ้าเป็นเช่นนั้นจริง คงพูดได้คำเดียว ไม่ซื้อตอนนี้แล้วจะไปซื้อตอนไหนล่ะจ๊ะพ่อคุณ

* อีกรายที่น่าตามไปดูเป็นอย่างยิ่งคือรายของ SUPERหลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.53 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือ 9.29% ด้วยมูลค่า 815.15 ล้านบาท เพราะเมื่อวัดจากความสามารถในการบรรลุโครงการต่างๆ ตามแผนงาน ซึ่ง “เฮียจอม” การันตีปีนี้แตะ 1 พันเมกะวัตต์ชัวร์! แถมล่าสุดเตรียมลุยโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นต่อแบบนี้ “โมนิก้า” มองไฮเดิมที่ 2.08 บาท มีลุ้นสูงทีเดียวเลยแหละค่ะ

* ขอเม้าท์ต่ออีกนิดสำหรับรายของ AUCTหลังทะยานขึ้นมาปิดที่ 8.80 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือ 5.39% ด้วยมูลค่า 141.28 ล้านบาท เดี๊ยนมองเป็นจังหวะต้องตามไปดูอีกซักรอบ เพราะว่ากันว่าครึ่งปีหลังผลประกอบการจะโตแจ่มแจ๋วจากงานประมูลที่ล้นหลามจนเกือบทะลัก งานนี้มือไอทีอย่าง “เฮียสุวิทย์” ได้แต่ยิ้มและบอก Don’t Worry! เยอะแค่ไหนก็เอาอยู่!

* มาถึงรายของ MALEEเป็นอีกตัวที่มาเล่นรอบให้เห็นอยู่เสมอ โดยวานนี้พุ่งขึ้นมาทำสถิติ “ออลล์ไทม์ไฮ” หลังปิดที่ 91.75 บาท บวกไป 9 บาท หรือขึ้นไป 10.88% ด้วยมูลค่า 323.15 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการปรับตัวขึ้นรับการเข้ากลุ่ม Top Pick หุ้นเด่นครึ่งปีหลัง อีกทั้งกำไรไตรมาส 3 ยังมีลุ้นว่าจะโตมากกว่า 50%...แบบนี้ลองเข้าไปลุยดูอีกซักตั้งแบบสั้นๆ เป็นไงค่ะ?

* ปิดท้ายกันที่ SELICหุ้นน้องใหม่ป้ายแดงพร้อมจัดกระบวนทัพเข้าลุย First Day Trade วันนี้เป็นวันแรก “โมนิก้า” ถือเป็นหนึ่งทางเลือกทีเด็ดประจำวันสำหรับ “ขาฮาร์ดไร้หุ้นจอง” ส่วนใครเป็นผู้โชคดีมีหุ้น IPO ติดไม้ติดมือมาบ้าง “โมนิก้า” ขอตามไปช่วยลุ้นให้ร่ำให้รวยกันถ้วนหน้าแล้วกัน หากถามว่าจะเปิดเหนือจองกี่เปอร์เซ็นต์ เดี๊ยนคงตอบไม่ได้...แต่ที่แน่ๆ ไม่ต่ำกว่า 6 บาท...อุ๊ย!...หลุดปากนะคะ อิ อิ อิ





ขอบคุณที่มาข้อมูลจาก
ข่าวหุ้น