April 20, 2024   1:10:58 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > BDMS ฮุบ"ปาร์คนายเลิศ"คุ้มทุนใน2ปี
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 30/09/2016 @ 08:33:55
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

BDMS ทุ่ม 1.28 หมื่นลบ. ฮุบโรงแรม"ปาร์คนายเลิศ" พัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพครบวงจรแห่งแรกในเอเชีย โดยใช้เงินจากกระแสเงินสด - ออกหุ้นกู้ ฟากผู้บริหารเผยหลังประชุมนักวิเคราะห์ ชี้ IRR อยู่ที่ 14.5% และใช้เวลา 2 ปี จะคุ้มทุนในแง่ EBITDA - 3 ปี เริ่มมีกำไร และ 7-8 ปี จะคืนทุนในลักษณะ payback payment ให้ราคาพื้นฐานปีหน้า 27 บ.

เป็นดีลใหญ่ที่ถูกพูดถึงอยู่ในขณะนี้ หลังจาก บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ทุ่มทุนครั้งใหญ่ถึง 1.28 หมื่นล้านบาท ซื้อที่ดินและสิ่งปลูก สร้างโครงการปาร์คนายเลิศ พัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพครบวงจรแห่งแรกในเอเชีย พร้อมทั้งเชิญนักวิเคราะห์มาประชุม ส่งผลให้นักวิเคราะห์เริ่มประเมินว่าดีลนี้จะถึงจุดคุ้มทุนประมาณ 2 ปี

*** ทุ่ม 1.28 หมื่นลบ. ซื้อ `ปาร์คนายเลิศ` พัฒนาศูนย์สุขภาพครบวงจร
นางนฤมล น้อยอ่ำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2559 คณะกรรมการอนุมัติใช้เงินลงทุนรวม 1.28 หมื่นล้านบาท ซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโครงการปาร์คนายเลิศ พัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพครบวงจรแห่งแรกในเอเชีย คาดรับโอน Q2/60 โดยจะใช้กระแสเงินสด - กู้ยืม - ออกหุ้นกู้
โดยเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินบริเวณโครงการปาร์คนายเลิศประมาณ 15 ไร่ และสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินรวมมูลค่าประมาณ 10,800 ล้านบาท ประกอบไปด้วยโรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ และอาคารสำนักงาน Promenade คาดว่าจะรับโอนได้ในไตรมาส 2/60
หลังรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะใช้งบประมาณลงทุนและปรับปรุงทรัพย์สินเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจสุขภาพแบบครบวงจร BDMS Wellness Clinic ประมาณ 2,000 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อรวมกับค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 10,800 ล้านบาท คิดเป็นเงินลงทุนรวม 12,800 ล้านบาท
โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสด การกู้ยืม และ/หรือการออกหุ้นกู้ และ/หรือหุ้นกู้แปลงสภาพ

*** ชูเวชศาสตร์ชะลอวัย เป็นจุดเด่นของศูนย์
บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS มั่นใจว่าศูนย์สุขภาพครบวงจร BDMS Wellness Clinic จะประสบความสำเร็จเนื่องจาก
1.แนวคิดด้านการดูแลรักษาสุขภาพและความเป็นอยู่ได้รับความสนใจมากขึ้นทั่วโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
2.มีผู้ประกอบการน้อยรายในโลกที่ให้บริการศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร สถาบันที่มีชื่อเสียงล้วนอยู่ในยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา โครงการนี้ของบริษัทฯ จึงเป็นโครงการแรกที่เกิดขึ้นในเอเชีย
3.ที่ดินผืนดังกล่าวเป็นพื้นที่สีเขียวที่โดดเด่นท่ามกลางศูนย์รวมความเจริญสมัยใหม่ในย่านธุรกิจของกรุงเทพ และมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะนำมาพัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพครบวงจร
ในโครงการนี้ จะมีบริการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ รวมถึงบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทฯ จะขยายศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัยซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ มาให้บริการเพิ่มเติมที่ BDMS Wellness Clinic , บริการทางด้านสุขภาพระบบประสาทและสมอง โดยจะเปิดเป็นคลินิกด้านระบบประสาทและสมอง โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาคลินิกดังกล่าวให้เป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศในด้านระบบประสาทและสมอง, ขยายคลินิกบางส่วนของโรงพยาบาลในเครือ BDMS ไปยัง BDMS Wellness Clinic

*** เปิดบัญชี BDMS พบมีกำไรสะสม 2.7 หมื่นลบ.
ทีมข่าวสำนักข่าว อีไฟแนนซ์ไทย ได้ตรวจสอบจากงบการเงินล่าสุดของ BDMS พบว่ามีกำไรสะสมถึง 2.7 หมื่นล้านบาท และเงินสดรวมเงินลงทุนระยะสั้นราว 4,000 ล้านบาท ขณะที่มีหนี้สินต่อทุน (D/E) ไม่รวมเจ้าหนี้การค้าที่ราว 0.75 เท่า
ส่วนผลการดำเนินงานของ BDMS กำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยมีกำไรปี 56-58 ที่ 6,261 ล้านบาท, 7,393 ล้านบาท และ 7,917 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนครึ่งแรกปี 59 มีกำไรสุทธิ 4,075 ล้านบาท

*** ชี้กระทบงบการเงินปี 60 แค่ 3 ไตรมาส - ประเมิน 2 ปีคุ้มทุน
นายกวี มานิตสุภวงษ์ นักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า เปิดเผยหลังจากประชุมนักวิเคราะห์ว่า ข้อมูลจากทีมผู้บริหาร BDMS เปิดเผยว่า โครงสร้างการเงินการซื้อโครงการปาร์คนายเลิศ มูลค่าทั้งหมด 1.08 หมื่นล้านบาท ได้จ่ายมัดจำไปแล้ว 1,080 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกเกือบ 1 หมื่นล้านบาท ที่จะต้องจ่ายอีก 8 เดือนข้างหน้า คาดว่ามาจาก 2 ส่วนหลัก คือ 1) กระแสเงินสดจากการดำเนินงานในธุรกิจปัจจุบันไม่เกิน 2 พันล้านบาท 2) หุ้นกู้ (ที่จะต้องดำเนินการภายใน Q1/60) และกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน
ทั้งนี้ประเมินว่าภาระดอกเบี้ยจ่ายจะกระทบงบการเงินปี 60 เพียง 3 ไตรมาส ขณะที่รายได้จากโครงการจะเริ่มมีเข้ามาตั้งแต่ต้นปีหน้าตามลำดับการเปิดเฟสให้บริการ
นอกจากนี้ทีมผู้บริหารยังเปิดเผยว่า อัตราผลตอบแทนภายใน( IRR) อยู่ที่ 14.5% และใช้เวลา 2 ปี จะคุ้มทุนในแง่ EBITDA ใช้เวลา 3 ปี เริ่มมีกำไร และ 7-8 ปี จะคืนทุนในลักษณะ payback payment
โดยบล.เอเซียพลัส ยังคงคำแนะนำซื้อ ที่ราคาพื้นฐานปี 60 ที่ 27.00 บาท จากการคำนวณเบื้องต้นคาดว่าจะส่งผลกระทบการต่อราคาพื้นฐานราว 1.00-1.50 บาท (เหลือ 25.50-26.00 บาท) ซึ่งราคาที่ย่อตัวลงยังถือว่ามีอัพไซค์จากราคาพื้นฐานอยู่

*** มองเป็นปัจจัยบวกระยะยาว แนะซื้อ ให้พื้นฐานปี 60 ที่ 24.50 บ.
บล.เอีซี เปิดเผยว่า มองดีลข้างต้นจะเป็นประโยชน์ต่อผลกำไรในระยะยาว เพราะแนวโน้มกระแสรักษ์สุขภาพมีมากขึ้น อีกทั้งที่ดินที่ได้ยังเป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง ซึ่งสะดวกต่อการเดินทางและใกล้แหล่งธุรกิจ อีกทังยังใกล้ รพ. กรุงเทพ ซอยศูนย์วิจัยทำให้มีโอกาสส่งต่อผู้ป่วยมาใช้บริการ แต่คาดจะกดดันศักยภาพทำกำไรในช่วง 3-4 ปีนี้ เพราะ BDMS Wellness Clinic มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นคนต่างชาติและคนไทยระดับ Hi-end และเป็น Niche Market ทำให้ต้องใช้เวลาสร้างฐานลูกค้าและรายได้
ขณะที่บริษัทต้องเริ่มรับรู้ดอกเบี้ยจ่ายตั้งแต่ช่วง Q2/60 ซึ่งภายใต้สมมติฐานหากกู้ยืมเงินราว 1 หมื่น ลบ. ที่อัตราดอกเบี้ย 3.5% จะต้องจ่ายดอกเบี้ยปีละ 350 ลบ. (คาดปี 2560 Interest bearing Debt to equity อยู่ที่ 0.76x) และคาดต้องรับรู้ค่าเสื่อมอาคารที่ปรับปรุงและอุปกรณ์ใหม่ราวปีละ 200 ลบ. และค่าใช้จ่ายต่างๆ ของคลินิกใหม่ในช่วงเริ่มแรก
ดังนั้นเพื่อสะท้อนปัจจัยดังกล่าวจึงปรับลดประมาณการกำไรตั้งแต่ปี 2560 เฉลี่ยปีละ 7.6% โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาดปี 2559 BDMS มีกำไรปกติ 8,586 ล้านบาท เติบโต 11.4%YoY และโตต่อเฉลี่ยปีละ 12.3% ในปี 2560-2561 (ต่ำกว่าเดิมที่คาดโตเฉลี่ยปีละ 17.2%)
แม้ดีลดังกล่าวจะกระทบศักยภาพทำกำไรระยะสั้น และทำให้ได้มูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2560 (อิง DCF) ที่ 24.50 บาท แต่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 13.9% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับนักลงทุนระยะยาว





 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com