8 บริษัทจดทะเบียนพาเหรด ยื่นข้อเสนอขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมวันแรก จากทั้งหมด 26 ราย นำทีมโดย GENCO-SUPER-WHA-GLOW-SCC-BWG-PSTC-CWT ขณะที่กกพ.ประเมินจะมีมายื่นไม่เกิน 30 ราย จากที่เคยยื่นเอกสารไว้ 90 ราย ด้าน CWT มั่นใจได้ PPA แน่ เหตุมีความพร้อมทุกด้าน ส่วน PSTC จับมือพันธมิตรเข้าสู้ ชี้หากได้ต้องรอบอร์ดอนุมัติอีกครั้ง ด้าน โบรกฯ มองบวกเชื่อเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นทั้งกลุ่ม

วานนี้ (22 ก.ย.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(สกพ.) ได้เปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอขายไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม ในรูปแบบ Feed-in Tariff(FiT)จำนวน 50 เมกะวัตต์ (MW)เป็นวันแรก จากกำหนดเปิดให้ยื่นถึงวันที่ 28 ก.ย.2559 ก่อนประกาศรายชื่อในวันที่ 28 ต.ค.59 โดยสรุปวันแรกมีบริษัทเอกชนมายื่นจำนวน 26 ราย เป็นบริษทจดทะเบียนหรือ บจ. 8 ราย ซึ่งคาดว่าจนถึงวันปิดรับสมัครวันที่ 28 กันยายน 2559 จะมีผู้ยื่นคำขอฯ รวมไม่เกินประมาณ 30 ราย กำลังการผลิตรวมประมาณ 300 เมกะวัตต์

*** เปิดโผ 26 เอกชนยื่นขายไฟฟ้าวันแรก
โดยผู้ประกอบการลงทะเบียนยื่นคำร้องและข้อเสนอขายขอขายไฟฟ้าจากการรับซื้อไฟฟ้าพิเศษจากขยะอุตสาหกรรมในรูปแบบ Feed-in Tariff:FIT จากพลังงานหมุนเวียนปี 2558-2562 จำนวน 26 ราย ตามลำดับก่อน-หลัง ประกอบด้วย 1.บริษัท เจนโก้ รีนิวเอเบิ้ล จำกัด 2.บริษัท เอ็นเนอร์จี รีพลับบิค จำกัด 3.บริษัท ชัยวัฒนา กรีน พาวเวอร์1 จำกัด 4.บริษัท พีจี แอนด์ ซี 5714 จำกัด 5.บริษัท วี กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด 6.บริษัท สิริลาภา พาวเวอร์ จำกัด 7.บริษัท ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด
8.บริษัท ศแบง ยั่งยืนพิจิตร จำกัด 9.บริษัท โปรเกรส อินเตอร์เคม (ประเทศไทย) จำกัด 10.บริษัท เอ็น 15 เทคโนโลยี จำกัด 11.บริษัท เจนโก้ พลังงานสะอาด จำกัด 12.บริษัท โปรเกรส โพลีเคม (ประเทศไทย) จำกัด 13.บริษัท ไพร์ม โรด รีนิวเอเบิล จำกัด 14.บริษัท โกลว์ เหมราชวินด์ จำกัด 15.บริษัท เอวา แกรนด์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด 16.บริษัท ไทยเพาเวอร์เทค เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด 17.บริษัท รีคัฟเวอรี่ เฮ้าส์ จำกัด 18.บริษัท อนุรักษ์พลังงานซิเมนต์ไทย จำกัด
19.บริษัท ซุปเปอร์ เฮิร์ธ เอนเนอร์ยี่ 5 จำกัด 20.บริษัท พีจี แอนด์ ซี 5714 จำกัด 21.บริษัท ไทยอิสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด 22.บริษัท ประจุธารา จำกัด 23.บริษัท ระยอง คลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด 24.บริษัท โซลาร์ EPCF จำกัด 25.บริษัท โซลาร์ EPCF จำกัด และ26.บริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี 1 จำกัด

*** GENCO ยื่นมากสุด 2 โครงการ รวม 16 MW
โดยผลการจับสลากปรากฏว่า บมจ.บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (GENCO) ซึ่งยื่น 2 โครงการ ได้อันดับที่ 1 จากโครงการที่นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 3 และได้อันดับที่ 11 จากโครงการที่นิคมฯ มาบตาพุด ซึ่งจะเสนอขายไฟฟ้าโครงการละ 8 MW ลงทุนแห่งละประมาณ 1.2 พันล้านบาท
ขณะที่บมจ.ซุปเปอร์บล๊อก (SUPER)ยื่นในนามบริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี จํากัด หรือ SUPER EARTH จับสลากได้อันดับ 2 จากโครงการในนิคมฯ พิจิตร ซึ่งจะเสนอขายไฟฟ้า 4.8 MW, บริษัท ชัยวัฒนา กรีน เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป (CWT) ได้อันดับ 3 จากโครงการที่นิคมฯ บ้านหว้า จ.พระนครศรีอยุธยา
ส่วนกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ WHA ยื่น 3 โครงการ ภายใต้บริษัท ชลบุรีคลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด กำลังการผลิต 8.6 เมกะวัตต์ ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช บริษัท ระยองคลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และบริษัท โกลว์ เหมราชวินด์ จำกัด กำลังการผลิต 8.63 เมกะวัตต์ ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช
นอกจากนี้ยังพบว่ามีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ร่วมยื่นข้อเสนอ อีกไม่ว่าจะเป็น บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) บมจ.เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG) และพันธมิตรของ บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี (PSTC)

*** กกพ.คาดมายื่นไม่เกิน 30 ราย จาก 90 ราย
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีผู้มายื่นตรวจสอบจุดเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้า 90 ราย แต่คาดว่าจะมายื่นเสนอขายไฟฟ้า รวมไม่เกิน 30 ราย
ทั้งนี้ หากคิดว่าแต่ละรายยื่นที่กำลังการผลิต 10 MW ก็จะมีกำลังผลิตรวม 300 MW โดยจะเปิดรับยื่นถึงวันที่ 28 ก.ย. และประกาศรายชื่อในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่งผู้ได้รับการพิจารณา จะต้องลงนาสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA) ในวันที่ 25 ก.พ.60 และผลิตไฟฟ้าเข้าระบบ(COD) ภายในเดือนธ.ค.62 ส่วนจะมีการรับซื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐบาล
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชน คาดว่าจะประกาศรับซื้อไฟฟ้าได้ในต้นเดือนต.ค.นี้ ในปริมาณรวม 130 MW

*** CWT มั่นใจคว้า PPA โรงไฟฟ้าขยะอุตฯ 9.5 MW ชี้มีความพร้อมทุกด้าน
นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT เปิดเผยกับ"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า วันนี้บริษัทได้เข้ายื่นประมูลโครงการขายไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม ในรูปแบบ Feed-in Tariff(FiT) จำนวน 50 เมกะวัตต์ โดยมั่นใจคว้า PPA โรงไฟฟ้าขยะอุตฯ 9.5 MW ชี้มีความพร้อมทุกด้าน ตั้งเป้าปี 61 รายได้ธุรกิจพลังงานแตะ 50% - ดันบ.ย่อยเข้าตลาด โดยมีรายละเอียดดังนี้
ทั้งนี้ได้ให้บริษัท ชัยวัฒนา กรีน เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ดูแลด้านพลังงาน ยื่นในโครงการที่นิคมฯ บ้านหว้า จ.พระนครศรีอยุธยา กำลังการผลิต 9.5 เมกะวัตต์ และสัญญาซื้อขายไฟ 8 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุน 2,000 ล้านบาท โดยบริษัทมั่นใจว่าจะได้รับคัดเลือก เนื่องจากมีความพร้อมด้านที่ดิน และเงินทุน ซึ่งบริษัทจะใช้เงินลงทุนจากทุนในบริษัทประมาณ 700 ล้านบาท และวงเงินกู้จากธนาคารประมาณ 1,260 ล้านบาท
คาดว่าขณะนี้แบบคำขอเสนอขายไฟ(ไฟลิ่ง)ได้รับการอนุมัติแล้ว โดยกระบวนการคาดว่าจะมีการประเมินด้านเทคนิค และรู้ผลการคัดเลือกในวันที่ 22 ต.ค. นี้

*** PSTC จับมือพันธมิตรยื่นขอ PPA
นายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)หรือPSTC เปิดเผยกับ สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ว่า บริษัทได้เจรจากับพันธมิตรนอกตลาด เพื่อเข้าประมูลโครงการขายไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม 50 เมกะวัตต์ โดยพันธมิตรจะเป็นผู้เสนอชื่อเข้าประมูล และหากได้รับงานบริษัทนำเสนอคณะกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติการเข้าลงทุนอีกครั้ง
นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะเข้าประมูลโครงการพลังงานทดแทนของภาครัฐที่ตามแผนจะเปิดให้ประมูลรวมกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ซึ่งหลังจากโครงการขยะอุตสาหกรรมแล้ว บริษัทมีแผนจะเข้าประมูลโครงการขยะชุมชน 3 โครงการ โครงการละ 5-8 เมกะวัตต์ , โครงการโซลาร์สหกรณ์ 100 เมกะวัตต์ , โครงการไฟฟ้าชีวมวลและชีวภาพ 100 เมกะวัตต์ ซึ่งมีความมั่นใจว่าจะได้รับงานตามแผนการยื่นขอข้างต้น

*** โบรกฯ ชี้เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มฯ
บล.เคจีไอ ได้ยกหุ้น อย่าง BWG, GENCO เป็นหุ้นในกระแสที่น่าจับตา เพราะประเมินว่า กกพ.ที่เริ่มเปิดให้ยื่นเสนอขายไฟฟ้า (จากขยะอุตสาหกรรมฯ รวมกำลังการผลิต 50MW) ในวันที่ 22-28 ก.ย. 2559 คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มฯ แนะนำ เก็งกำไร
ขณะที่ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่าหุ้น BWG - AKP- GENCO- SUPER- PSTC จะเป็นหุ้น 5 บริษัทที่ได้รับประโยชน์จาก การเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะ ในครั้งนี้
ด้านบล.บัวหลวง เปิดเผยว่า BWG มีความพร้อมมากที่สุดสำหรับการยื่นขอร่วมโครงการขายไฟฟ้าในส่วนขยะอุตสาหกรรมที่จะเปิด 50MW ในรอบนี้ ซึ่งประเมินเบื้องต้นว่ามูลค่าเหมาะสมจะเพิ่มขึ้นราว 0.25-0.30 บาท/หุ้น ในทุกๆ 1 โรงไฟฟ้าขนาด 10MW ที่บริษัทจะได้รับเพิ่มขึ้น ในกรณีที่ได้ราคาค่าไฟฟ้า (FiT) ที่ 6.78 บาท/หน่วย