March 29, 2024   7:12:30 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > CPNมั่นใจรายได้โต15%-ลงทุน6หมื่นลบ.
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 26/08/2016 @ 08:30:32
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

"เซ็นทรัลพัฒนา" โชว์แผนธุรกิจ 3 ปี (59-61) ทุ่ม 6 หมื่นลบ. ผุด 5 ห้างสรรพสินค้าใหม่ - ยกเครื่องสาขาเก่าอีก 5 สาขา ดันปี 61 มีศูนย์การค้า 34 แห่ง พร้อมเล็งลุยตลาดต่างประเทศอย่างเวียดนาม - อินโดฯ ระบุอยู่ระหว่างศึกษาข้อกฎหมาย หลังห้างในมาเลย์ประสบความสำเร็จ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15% ฟากโบรกฯ มองครึ่งปีหลังแรงช้อปยังโตตามศก.ฟื้น อาจหนุนกำไรปีนี้โตถึง 17.5% พร้อมเชียร์ซื้อ ให้กรอบราคา 63.50-70 บ.

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)หรือ CPN เปิดแผนธุรกิจ 3 ปี (2559 - 2561) ประกาศใช้งบลงทุน 6 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้างศูนย์การค้าแห่งใหม่ 5 แห่ง พร้อมปรับโฉมโครงการเดิมอีก 5 โครงการ และเตรียมเปิดตลาดอาเซียนเพิ่มด้วยการหาช่องทางเปิดห้างสรรพสินค้าในเวียดนามและอินโดนีเซีย

*** ทุ่ม 6 หมื่นลบ. สร้างศูนย์การค้าใหม่ 5 แห่ง
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)หรือ CPN เปิดเผยว่า แผนธุรกิจของบริษัทในช่วง 3 ปี (59-61) จะใช้งบลงทุน 6 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้างศูนย์การค้าแห่งใหม่ 5 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล พลาซ่า นครศรีธรรมราช ที่เปิดให้บริการไปแล้วเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เซ็นทรัล พลาซ่า นครราชสีมา ที่เตรียมเปิดให้บริการปลายปี 60 เซ็นทรัล พลาซ่า มหาชัย เตรียมเปิดให้บริการปี 60 เซ็นทรัล พลาซ่า ภูเก็ต จะเปิดให้บริการปลายปี 60 และเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าต่างประเทศแห่งแรกของบริษัท ตั้งอยู่ในโครงการไอ-ซีตี้ อัลตราโพลิส ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะเตรียมเปิดให้บริการภายในปี 61
ทั้งนี้โครงการใหม่ เซ็นทรัล พลาซ่า มหาชัย ซึ่งบริษัทฯ ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรก โดยจะพัฒนาห้างสรรพสินค้า และโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ ยูส ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาประเภทอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าการลงทุนรวม 4,750 ล้านบาท บนพื้นที่ 1,700 ตารางเมตร เพื่อช่วยรองรับการใช้บริการต่อจากเซ็นทรัล พระราม 2 โดยมหาชัย ถือเป็นพื้นที่สำคัญและเป็นแหล่งอุตสาหกรรมและเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางท่องเที่ยวลงสู่ภาคใต้
โดยการลงทุนในจังหวัดสมุทรสาคร มีมูลค่าสูงถึง 281,000 ล้านบาท ทำให้คาดว่าการเปิดศูนย์การค้าครั้งนี้จะมีกำลังซื้อจากทั้งบุคคลในพื้นที่และนักท่องเที่ยวอีกจำนวนมาก ทั้งนี้จะเปิดให้บริการไตรมาส 3/60

*** ยกเครื่อง 5 สาขาเก่า - ดันปี 61 มีศูนย์การค้า 34 แห่ง
นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนปรับโฉมโครงการเดิมอีก 5 โครงการ ได้แก่ เซ็นทรัล พลาซ่า ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล พลาซ่า บางนา เซ็นทรัล พลาซ่า พัทยา, เซ็นทรัล พลาซ่า พระราม 3 และเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อปรับบรรยากาศภายในศูนย์การค้าให้มีความทันสมัยในลักษณะการนำนวัตกรรมออกแบบและเทคโนโลยี และสร้างความสนใจให้กับผู้บริโภค
ส่วนภายในปี 61 บริษัทฯจะมีศูนย์การค้ามากกว่า 34 แห่ง มีพื้นที่รวมกว่า 8 ล้านตารางเมตร โดยแผนการพัฒนาโครงการบริษัทฯคาดหวังจะให้เกิดการกระจายรายได้ สร้างงานสร้างอาชีพ และผลักดันเศรษศฐกิจในระดับท้องถิ่นรวมถึงระดับประเทศ ที่จะส่งเสริมให้ไทยเป็นไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุดของภูมิภาค เซ็นทรัล พลาซ่า

*** ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15% รับศก.ฟื้น
นายปรีชา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ปีนี้คงเป้ารายได้ปีนี้โต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 26,000 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจในประเทศเริ่มมีอัตราการฟื้นตัวที่เด่นชัด หลังจากรัฐบาลประกาศตัวเลขจีดีพีครึ่งปีแรกออกมาดีกว่าที่คาด
ขณะนี้ศูนย์การค้าของบริษัทฯ มีผู้ใช้บริการมากขึ้นประมาณ 6% รวมถึงหลายจังหวัดมีผู้ใช้บริการมากขึ้นถึง 10% สะท้อนภาวะเศรษฐกิจปรับตัวได้ดีขึ้น ทำให้ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯ จะทำการตลาดเพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายต่อเนื่อง

*** เล็งเปิดห้างฯ ในเวียดนาม - อินโดฯ ต่อจากมาเลย์
สำหรับการขยายการเปิดห้างสรรพสินค้าต่างประเทศหลังจากที่ได้เริ่มลงทุนที่มาเลเซียแล้วเป็นแห่งแรก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา 2-3 ประเทศ โดยเน้นในเวียดนามและอินโดนีเซีย เป็นหลัก เนื่องจากมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่น ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษากฎระเบียบและหาทำเลที่เหมาะสม โดยลักษณะการลงทุนยังต้องการหาพันธมิตรท้องถิ่นเข้ามาร่วม
แผนการแปลงสภาพกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN Retail Growth (CPNRF) คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้หรือไม่

*** โบรกฯ มองครึ่งปีหลัง ภาวะตลาด เอื้อสำหรับนักช้อป
บล.เคจีไอ ประเมินว่า แม้เหตุระเบิดในภาคใต้ จะทำให้ผู้บริหาร CPN กังวลว่าจำนวนลูกค้าเข้าห้างจะชะลอลง ซึ่งอาจจะฉุดให้ same store sales growth (SSSG) ปีนี้ พลาดเป้าที่ 3.0% แต่เราคาดมู้ดของการช้อปปิ้งน่าจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง สังเกตุได้จากจำนวนลูกค้าที่เข้าห้างของ CPN ในพื้นที่ภาคใต้ในขณะนี้ ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ ภาระหนี้ครัวเรือน/GDP ที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี เหลือ 81.1% จากเฉลี่ยที่ 81.6% ในปีที่ผ่านมา น่าจะช่วยหนุนสภาพคล่องของผู้บริโภคให้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น การเข้าสู่ช่วง high season ตอนปลายปี จะช่วยดึงลูกค้ากลับเข้าห้างได้มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะในย่านแหล่งท่องเที่ยวซึ่งมีห้างของ CPN ตั้งอยู่ 7-8 แห่ง อย่างเช่น สาขาเซ็นทรัลเวิล์ด, เชียงใหม่, พัทยา และภูเก็ต เป็นต้น

*** แนวโน้มกำไรปีนี้ยังแข็งแกร่ง คาดโตถึง 17.5% YoY
บล.เคจีไอยังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ เอาไว้ที่ 9.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.5% YoY จาก 7.8 พันล้านบาทในปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตจะมาจาก แนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และการดำเนินกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยดึงมู้ดการช้อปปิ้งกลับคืนมา และหนุนจำนวนลูกค้าเข้าห้างของ CPN ทุกสาขาไปจนถึงสิ้นปี รวมถึงการเปิดสาขาใหม่อีกหนึ่งแห่งและการเปิดห้างที่ผ่านการปรับปรุงแล้วอย่างเต็มรูปแบบที่สาขาบางนา และพัทยา รวมถึงการที่ occupancy rate ของห้างที่เปิดใหม่อย่างเช่น เซ็นทรับ Eastville ที่เพิ่มขึ้น จะช่วยหนุนให้ยอดขายในปีนี้เติบโตได้ถึง 14.5% YoY เป็น 2.78 หมื่นล้านบาท ในขณะเดียวกัน การปรับปรุงห้างสม่ำเสมอ บวกกับ การใช้ประโยชน์จากพื้นที่ห้างได้ดีขึ้น และแนวโน้มการขึ้นค่าเช่าพื้นที่ จะช่วยหนุนให้ GPM เพิ่มขึ้นอีก 100bps เป็น 49.0%

*** คาดต้นปี 60 แปลงกองทุน CPNRF เป็น REIT
บล.บัวหลวงเปิดเผยว่า CPN จะแปลง กองทุน CPNRF เป็น REIT ในต้นปี 2560 หากรัฐบาลขยายเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงเป็น REIT จากที่กำหนดในปัจจุบันถึงสิ้นปี 2559 ทั้งนี้หลังจากการแปลงเป็น REIT แล้ว REIT ดังกล่าวจะเพิ่มทุนเพื่อใช้ในการปรับปรุงเซ็นทรัลพระราม 2 และอาจใช้ในการเข้าซื้อพื้นที่ในห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้าส่วนที่เหลือจาก CPN
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่การทำธุรกรรมนี้อาจไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหน่วยลงทุน REIT เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีอายุเหลืออยู่เพียงแค่ 10 ปี
ด้านบล.คันทรี่กรุ๊ป เปิดเผยว่า สำหรับแผนการที่จะเปลี่ยนกองทุนจาก CPNRF ไปเป็นกอง REITs คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในช่วงไตรมาส 3 นี้ โดยระยะเวลาในการเปลี่ยนผ่านคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6-8 เดือน
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ประเมินว่าแม้จะมีประเด็นเรื่องภาษีเงินปันผลของกอง REIT แต่ CPN เชื่อว่าการที่กองทุนกู้ยืมได้เพิ่ม ทำให้มีการเติบโตที่ดีและช่วยเพิ่ม Yield มาชดเชยกับอัตราภาษี 20% ที่บริษัทจะต้องจ่ายได้ (กอง REIT สามารถกู้ยืมได้ 35% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ และกู้ได้สูงถึง 60% ถ้าเป็น REIT ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิต (Investment rating) ขณะที่กองทุนอสังหาริมทรัพย์กู้ได้ไม่เกิน 10% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ส่วน CPNCG ไม่มีแผนที่จะแปลงเป็น REIT ซึ่งกองทุนนี้มีสินทรัพย์โครงการเดียว คือ อาคารสำนักงานเซ็นทรัลเวิลด์) บริษัทอาจขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ในปี 60 โดยกำลังศึกษาอยู่

*** โบรกฯ เชียร์ซื้อเป็นส่วนใหญ่ ให้กรอบราคา 63.50-70 บ.
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์รวบรวมราคาเป้าหมาของนักวิเคราะห์ 4 บริษัท ต่อหุ้น CPN ไว้ดังนี้
บล. เคจีไอ แนะนำ“ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 70.00 บาท , บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส แนะนำ "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 70 บาท บล.คันทรี่ กรุ๊ปแนะนำ“ซื้อลงทุน” ประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 66 บาท ส่วนบล.บัวหลวง แนะนำ ถือ เป้าหมายพื้นฐาน 63.50 บาท

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com