April 20, 2024   9:30:45 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ข่าวเศรษฐกิจ 24 ส.ค. 2559
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 24/08/2016 @ 08:52:28
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ชี้การศึกษาฉุดไทยลงเหว17ปีเสียโอกาส1.5ล้านล้าน
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ประธานกรรมการบริหาร สถาบันไทยอนาคตศึกษา เปิดเผยในงานเสวนาไทยแลนด์ สตราทิจิค กิฟวิง เรื่องบริบทการศึกษาและการพัฒนาประเทศไทย จัดโดยวิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า นับตั้งแต่ไทยมีการปฏิรูประบบการศึกษาครั้งใหญ่เมื่อปี 42 โดยปรับปรุงกฎหมายและเพิ่มงบประมาณพัฒนาการศึกษาจนปัจจุบันสูงกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี แต่พบว่าผลลัพธ์ของการปฏิรูปยังล้มเหลว สร้างความสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจต่อประเทศมหาศาล เพราะหากในช่วงเวลาดังกล่าวไทยปฏิรูปการศึกษาสำเร็จเหมือนโปแลนด์ ตั้งแต่ปี 42-59 ไทยจะมีรายได้ต่อ จีดีพีรวมเพิ่มถึง 1.5 ล้านล้านบาท คิดเป็น 11% ของจีดีพี หรือรายได้เพิ่มเฉลี่ยต่อปีเพิ่ม 1.1 แสนล้านบาท หรือโต 0.14% ของจีดีพี ขณะที่ภาคครัวเรือนมีรายได้เพิ่ม 200 บาทต่อเดือน

รัฐปฏิรูปก.ม.สรรพสามิต คิดภาษีจากฐานราคาขายปลีกคนไทยร้องจ๊ากราคาสินค้าพุ่ง
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบร่างกฎหมายภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ ซึ่งเป็นการนำกฎหมายภาษีสรรพสามิต และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาษีสรรพสามิตทั้ง 7 ฉบับ มารวมเหลือเพียงฉบับเดียว โดยปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ที่สำคัญยังเป็นการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิรูปภาษีสรรพสามิตครั้งใหญ่ของประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์และสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย เพราะหากอยู่ในเวลาปกติแล้ว ไม่สามารถที่จะแก้ไขปรับปรุงกฎหมายจำนวนมากเช่นนี้ได้

ธปท.ตีกรอบแนวทาง แบงก์รัฐเติบโตยั่งยืน
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้วางแนวทางปฏิรูปธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) อย่างยั่งยืน เพื่อไม่ให้สร้างภาระทางการคลังในระยะยาวผ่าน 4 ปัจจัยหลักคือ ฐานะการเงินที่มั่นคง, ความสามารถของฝ่ายจัดการในการหาพนักงานที่มีความรู้ ความสามารถ, ความเป็นเลิศในระบบปฏิบัติงาน โดยเฉพาะการบริหารความเสี่ยง ควบคุมภายใน และความมั่นใจ ความไว้วางใจจากประชาชนผ่านการดำเนินการที่โปร่งใสตรวจสอบได้

บี้หน่วยงานเบิกจ่ายทิ้งทวนปี60 เข็นงบกลางลงทุน2.5หมื่นล้าน
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการเบิกจ่ายภาครัฐในไตรมาสที่ 4 ปี 59 โดยแบ่งเป็น 3 มาตรการหลัก คือ การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ 60 ซึ่งให้ทุกหน่วยงานเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณตั้งแต่ไตรมาสแรก ทั้งรายจ่ายประจำ และต้องไม่น้อยกว่า 33% ของวงเงินงบประมาณ โดยให้งบฝึกอบรมและสัมมนา ต้องไม่น้อยกว่า 50% ส่วนรายจ่ายลงทุน พร้อมกันนี้ ให้เตรียมกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และเริ่มกระบวนการได้เมื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 60 พิจารณาเสร็จ ซึ่งรายจ่ายลงทุนตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป ให้ก่อหนี้ และเริ่มการเบิกจ่ายภายในไตรมาสแรกปีงบประมาณ 60 เป็นต้นไป

ครม.แก้กฎหมาย4ฉบับ เพิ่มขีดสามารถประเทศ
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบร่างกฎหมาย 4 ฉบับ เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถใน การแข่งขันของประเทศ ด้วยการส่งเสริมอุตสาหกรรมในพื้นที่ และอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาล คือ ร่างพ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ ร่างพ.ร.บ.การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน และร่างพ.ร.บ.การเพิ่ม ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะในร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุนนั้น เป็นการเพิ่มอำนาจให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) อนุมัติการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้นักลงทุนได้สูงสุด 13 ปี สำหรับกิจการที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงเพื่อการวิจัยพัฒนา

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com