*หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอิงกับแรงซื้อที่มีเข้ามาเป็นระลอก ?โมนิก้า? ขอบอกตามตรงว่า มันเป็นจังหวะที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยดีขึ้นแค่ประเดี๋ยวประด๋าว เพราะยังไม่มีข้อมูลในส่วนไหนที่ทำให้นักลงทุนมั่นใจว่า หุ้นจะทะยานขึ้นไป 1,550-1,600 จุดในเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ดัชนีเริ่มย่อตัวลงมา และสะบัดตัวขึ้นในบางวันนั้น เดี๊ยนถือเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องเริ่มอ่านจังหวะให้ขาดนะจะบอกให้

*เนื่องจากอาการดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมา 2 ครั้งด้วยกัน และตามตำราที่พูดถึงการเหวี่ยงตัวของดัชนีในลักษณะนี้ว่า เป็นการเลือกทางเดิน อีกครั้งหนึ่ง ส่วนจะเป็นน้ำหนักในทางไหนมากกว่ากัน อันนี้ต้องติดตามดูกันต่อไปอย่างใกล้ชิด แต่สำหรับความคิดของสาวมาดมั่นอย่าง ?โมนิก้า? กลับมองเรื่องนี้เป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ดัชนีเริ่มจะไปต่อไม่ไหวแล้วนะคะ

*ฉะนั้น การอ่อนตัวลงมายืนอยู่ที่ 1,504.81 จุด ลบไป 7.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.86 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นสถานการณ์ที่นักลงทุนต้องพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่หุ้นบลูชิพจะ ขึ้นต่อมีไหม? พร้อมกันนั้นก็ถึงเวลาที่จะต้องเหลียวหลังมามองหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับตัวเอง เพราะหุ้นเล็กหลายตัวมาแรงดีเหลือเกินในจังหวะนี้เจ้าค่ะ

*นำโด่งแซงทางโค้งมาแต่ไกล ต้องยกให้กับดาวรุ่งแห่งปีอย่าง TACC หลังจากไต่ระดับขึ้นมาอย่างช้าๆ มาสักระยะหนึ่ง สุดท้ายก็กระโจนขึ้นมาปิดที่ 7.15 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 12.60% ด้วยมูลค่า 532 ล้านบาท ?โมนิก้า? ถือเป็นช็อตเด็ดที่แนะนำให้แฟนคลับกระโจนใส่ทุกครั้งเมื่อเริ่มขยับ และพยายามหาโอกาสช้อนซื้อเมื่ออ่อนตัวลงมา เพราะของมันเห็นกันมาตั้งแต่ไก่โห่ว่า ?เฮียชนิตร? ลุยงานเต็มที่ ซึ่งจะทำให้ผลงานตั้งแต่ไตรมาส 2-3-4 ขยับตัวอย่างมีนัยสำคัญนะคะ

*เหมือนกับในรายของ BM หุ้นเล็กพริกขี้หนูแอบซุ่มโป่งทำธุรกิจแบบเงียบๆ มาระยะหนึ่ง จนเหยี่ยวข่าวสาวแอบไปเห็นโปรเจ็กต์ที่กำลังจะทำสุดแสนจะเลิศล้ำ จึงมั่นใจว่า ปีนี้จะลอยติดลมบนอย่าง แน่นอนและเหตุการณ์ดังกล่าวก็เป็นหนึ่งในประเด็นที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิด ที่ 4.14 บาท บวกไป 0.42 บาท หรือขึ้นไป 11.30% ด้วยมูลค่า 360 ล้านบาท มันแสดงถึงความต้องการสูง หุ้นมีโอกาสกระชากขึ้นไปอีกนะจ๊ะ

*ส่วนในรายของ JSP กระชากขึ้นมาปิดที่ 1.39 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 5.30% ด้วยมูลค่า 390 ล้านบาท ?โมนิก้า? ไม่แน่ใจว่า หุ้นขึ้นด้วยสาเหตุใด? เพราะไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหุ้นตัวนี้เลย จึงเกรงว่าจะเป็นรายการ คุณขอมา...เราจัดให้ ซึ่งในไม่ช้าก็จะลาโรงไปเหมือนที่แล้วมา! งานนี้ถึงต้องวัดใจกันเอาเองว่า หุ้นตัวนี้จะไปถึงยอดเก่าที่บริเวณ 1.65 บาทอ่ะป่าว...อิอิอิ

*อีกช็อตหนึ่งที่มาคล้ายๆ กันก็คือ TMC ก่อนหน้านี้ไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ จากระดับราคา 2 บาท จนสุดท้ายขึ้นไปยืนถึง 4 บาท ก่อนจะโดนทุบลงมายืนที่ 2.40 บาท ขณะที่วานนี้ช่วงเช้าพยายามดันกันสุดลิ่มทิ่มประตู จนหุ้นขึ้นไปถึง 2.64 บาท ซึ่งดูเหมือนว่า ทุกอย่างกำลังจะโอเค แต่สุดท้ายก็โดนทุบลงมาปิดที่ 2.44 บาท บวกไป 0.04 บาท ด้วยมูลค่า 70 ล้านบาท พร้อมกับแสดงอาการค้อนหัวกลับ เดี๊ยนบอกได้แค่ว่า มันจบแล้วค่ะนายขา!

*อีกหนึ่งตัวที่ขอให้เป็นของแถม ?โมนิก้า? ขอเบนเข็มไปยัง EIC หลังหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 0.92 บาท บวกไป 0.17 บาท หรือขึ้นไป 22.70% ด้วยมูลค่า 85 ล้านบาท พร้อมกับมีการเปิดตัวกลุ่มทุนใหม่เข้ามารับไม้ต่อ มันเป็นสถานการณ์ที่บิวด์อารมณ์ให้ทุกคนรู้สึกฮึกเหิม ส่วนเรื่องจริงๆ จะเป็นเช่นที่ทุกคนร่ำลือขนาดไหน คงต้องติดตามตอนต่อไปกันเอาเองนะคะ

*เหมือนกับในรายของน้องเบม BEM ราคาหุ้นกระชากขึ้นมายืนอยู่ที่ 7.75 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่า 3.60 พันล้านบาท ?โมนิก้า? ถือเป็นการสะท้อนความจริงให้ทุกคนได้เห็นว่า หุ้นตัวนี้มีของดีที่ยังไม่ได้โชว์อีกเยอะแยะ วันนี้ถึงมีคำแนะนำให้ซื้อสุดซอยเยอะแยะไปหมด จังหวะนี้ถึงเห็นคำว่า all time high เยอะแยะไปหมดนะตัวเอง

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้พาลทำให้ ?โมนิก้า? นึกถึงหุ้นน้องใหม่ EKH ซึ่งติดค้างไว้ว่า จะเม้าท์ถึงทีเด็ดของหุ้นตัวนี้ให้ฟัง จึงขอแชร์ข้อมูลย่อยๆ ให้ฟังว่า นี่เป็น 1 ใน 5 โรงพยาบาลที่มี growth ค่อนข้างโดดเด่นในไตรมาส 1 ปี 59 และเมื่อเทียบกับ P/E กลุ่มโรงพยาบาลที่เทรดกันบนระดับ 43 เท่า โดยบางตัวที่มีการเติบโตเรื่อยๆ เปื่อยๆ ก็เทรดกันเข้าไปตั้ง 60-70 เท่า เดี๊ยนถึงมอง IPO ที่ราคา 3.05 บาท ค่อนข้างถูก และมีลุ้นขึ้นไปยืน 7-8 บาท...งานนี้เชื่อกระบวนทางการคิดของเดี๊ยนได้เถอะว่า ไม่ผิดไปจากนี้แน่นอนเจ้าค่ะ

*ป.ล.การที่หุ้นย่อตัวลงมาอีกรอบ โดยฝรั่งยังซื้อหนักๆ และปอบผีฟ้ายังซื้อประคอง มันเป็นภาพที่ทำให้นักเล่นต้องกระโจนใส่หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่มี growth เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงนะจะบอกให้







ที่มา..ข่าวหุ้นออนไลน์