April 24, 2024   1:45:14 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เก็บ! 20 หุ้นดี-ราคาถูก
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 21/07/2016 @ 08:25:24
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

?ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์?ได้ ทำการสำรวจหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ SET ที่ปรับตัวลงแรงในรอบ 6 เดือน และมีอัตราส่วนราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) ณ วันที่ 15 ก.ค.59 ต่ำกว่า 10 เท่า และที่สำคัญค่า P/E ต่ำกว่าตลาดฯที่ระดับ 22.82 เท่า มานำเสนอ เนื่องจากช่วงนี้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นแรง และมีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง อีกทั้งการคัดเลือกหุ้นดังกล่าวน่าจะเป็นทางเลือกในการลงทุนที่ดีอีกทาง เนื่องจากหุ้นกลุ่มนี้ยังมีอัพไซด์สูงและพื้นฐานยังแข็งแกร่ง

สำหรับหุ้นที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวประกอบด้วย FNS, TIPCO, LPN, OGC, HFT, TIP, SF, PS, TC, ASIA, TASCO, TCAP, CCET, KTB, CFRESH, MODERN, SPCG และ GLAND


ทั้งนี้ หากสังเกตหุ้นที่เข้ามาติดในกลุ่มดังกล่าวมีหุ้น SET50 อยู่หลายตัว อาทิ PS, TASCO และ KTB อีกทั้งหุ้นส่วนใหญ่มีสภาพคล่องสูง แม้หุ้นบางตัวธุรกิจจะไม่สดใสส่งผลให้ราคาปรับตัวลงแรง แต่ยามใดที่ธุรกิจเริ่มฟื้นตัวหุ้นกลุ่มนี้มีแนวโน้มจะกลับมาสดใสเช่นกัน ดังนั้นการนำเสนอหุ้นครั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นโอกาสให้นักลงทุนได้สะสมหุ้นดี ราคาถูกอีกครั้ง

โดยเฉพาะในราย บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPCO มี ค่า P/E อยู่ที่ระดับ 5.11 เท่า โดยราคาหุ้นในช่วง 6 เดือนอ่อนตัวลงแรงถึง 26.29% จากระดับ 17.50 บาท (30 ธ.ค.58) มาอยู่ที่ระดับ 12.90 บาท

บล.ดีบีเอสฯ แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 16.92 บาท/หุ้นมอง เป็นหุ้นถูกสุดในกลุ่มอาหาร คาดกำไรหลักไตรมาส 2/59 ไม่นับกำไรตามส่วนได้เสียจาก TASCO เป็น 33 ล้านบาท โตกระโดด 92% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งกำลังได้รับผลดีจากปริมาณขาย-ราคาสับปะรดในตลาดโลกที่ได้สูงตามวัตถุ ดิบ ส่วนน้ำแร่ AURA เติบโตสดใส


ส่วน บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เป็น หุ้นที่มีค่า P/E อยู่ที่ระดับ 6.89 เท่า โดยราคาหุ้นในช่วง 6 เดือนอ่อนตัวลงแรงถึง 19.38% จากระดับ 16.00 บาท (30 ธ.ค.58) มาอยู่ที่ระดับ 12.90 บาท (30 มิ.ย.59)

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า LPN ระดับ P/E ที่ต่ำถึงถึง 6 เท่า และให้เงินปันผล 6% ด้านบล. เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะนำ "Neutral" ราคาเป้าหมาย 15.30 บาท จากยอดขายที่ชะลอตัวมากกว่าที่ คาดแนวโน้มกำไรที่อ่อนแอในไตรมาส 3/59 และแนวโน้มกำไรที่ต่ำในปี 60 อย่างไรก็ตามแม้จะยังไม่เห็นปัจจัยบวกใดที่จะมาช่วยขับเคลื่อนราคาหุ้นให้ วิ่งได้ในระยะสั้น แต่เชื่อว่า downside น่าจะจำกัดเช่นกัน เพราะราคาหุ้นได้สะท้อนถึงแนวโน้มกำไรที่อ่อนแอใน 60 ไปแล้ว


ด้าน บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เป็นหุ้นที่มีค่า P/E อยู่ที่ระดับ 7.34 เท่า โดยราคาหุ้นในช่วง 6 เดือนอ่อนตัวลงแรงถึง 4.72% จากระดับ 26.50 บาท (30 ธ.ค.58) มาอยู่ที่ระดับ 25.25 บาท (30 มิ.ย.59)

บล.เอเซีย พลัส แนะนำ "ซื้อ" PS ราคาเป้าหมาย 38 บาท การ บันทึกรายได้ขายอสังหาฯ งวดไตรมาส 2/59 ฝ่ายวิจัยคาดไว้ 1.4 หมื่นล้านบาท มีแรงหนุนจากโค้งสุดท้ายมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ยอดโอนฯ แนวราบมีสัดส่วน 66% และคอนโดฯ 34%

ด้านประสิทธิภาพการทำกำไรคาด Net Profit Margin อยู่ที่ 13.4% ทำให้กำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เทียบไตรมาสก่อน แต่ลดลง 12% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน คาด PS จะจ่ายเงินปันผล 1H59 หุ้นละ 0.70 บาท ขณะที่ราคาหุ้นยัง Laggard เมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่นในกลุ่มฯ โดยมี upside 43%


ส่วน บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO เป็นหุ้นที่มีค่า P/E อยู่ที่ระดับ 7.78 เท่า โดยราคาหุ้นในช่วง 6 เดือนอ่อนตัวลงแรงถึง 32.72% จากระดับ 40.50 บาท (30 ธ.ค.58) มาอยู่ที่ระดับ 27.25 บาท (30 มิ.ย.59)

บล.เอเซีย พลัส แนะนำ "ซื้อ" TASCO ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท ความ ต้องการใช้ยางมะตอยมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เบื้องต้นปี 2560 กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทจะได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 19.6% และ 1.1% ตามลำดับ

ขณะที่ตลาดต่างประเทศมองเห็นโอกาสเติบโตในอินโดนีเซียและเวียดนาม ที่เพิ่งไปซื้อกิจการมา ด้านการจัดหาวัตถุดิบ ล่าสุด TASCO ได้ต่อสัญญาซื้อน้ำมันดิบระยะยาวจากผู้ผลิตในเวเนซุเอล่า ออกไปอีก 2 ปี สิ้นสุดปี 2563 โดยคงเงื่อนไขเดียวกับสัญญาเดิมที่เคยทำไว้

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/59 ที่ไม่สดใส รวมถึง Effective Tax rate ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีสัดส่วนกำไรจากธุรกิจในประเทศมากขึ้น ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ลง 14% ส่งผลให้ Fair value ที่ประเมินอิง PER 13 เท่า ลดจาก 39 บาท เหลือ 33.50 บาท แต่ก็ยังให้ Upside สูงถึง 25% แนะนำ ซื้อ


ด้าน บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP เป็น หุ้นที่มีค่า P/E อยู่ที่ระดับ 8.38 เท่า โดยราคาหุ้นในช่วง 6 เดือนอ่อนตัวลงแรงถึง 32.72% จากระดับ 40.50 บาท (30 ธ.ค.58) มาอยู่ที่ระดับ 27.25 บาท (30 มิ.ย.59)

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 42 บาท โดย TCAP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/59 เท่ากับ 1.5 พันล้านบาท (+5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ +9% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) เป็นไปตามคาด โดยในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซาธนาคารไม่ได้เน้นเรื่องเติบโต แต่โฟกัสความแข็งแกร่งของงบดุล การเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนดำเนินงาน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเติบโตเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว ซึ่งโครงสร้างสินเชื่อก็มีความสมดุลดีขึ้นเรื่อยๆ ด้าน NPL ratio ลดลง และ Coverage ratio เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง



*ทั้งนี้ ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่า นั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน






ที่มา..ข่าวหุ้นออนไลน์



 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com