March 29, 2024   3:24:22 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > BANPUฮุบโซลาร์ฟาร์มจีน3พันลบ.
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 12/05/2016 @ 08:54:11
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

"บ้านปู"รุกหนักธุรกิจโรงไฟฟ้า เตรียมทุ่มงบกว่า 3 พันลบ. ซื้อโซลาร์ฟาร์มในจีน กำลังผลิต 78.5 MW เริ่มขายไฟเข้าระบบกลางปีนี้ โบรกฯคาดสร้างกำไรให้บริษัทปีละ 200 ล้านบาท แถมเป็นสตอรี่หนุน"บ้านปูพาวเวอร์"ที่ใกล้ขายไอพีโอ ล่าสุดโชว์งบ Q1/59 ขาดทุน 184 ลบ. เหตุปริมาณ-ราคาขายถ่านหินทรุดต่อเนื่อง ส่วนแนวโน้ม Q2/59 ยังคงอ่อนแอ นักวิเคราะห์เชื่อผลงานยังถูกกดดันอีก 1 ปี แนะแค่ถือ ให้ราคาเหมาะสม 11.65-14.20 บาท

*** จ่อทุ่มงบกว่า 3 พันลบ. ซื้อโซลาร์ฟาร์มในจีน 78.5 MW
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU แจ้งว่า บริษัท บ้านปู พาวเวอร์(BPP) ได้เข้าทำสัญญาเพื่อครอบครองสิทธิในการซื้อหุ้นในอนาคตในสัดส่วน 100% สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งการซื้อหุ้นภายใต้สัญญานี้จะกระทำบนเงื่อนไขที่โครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมดได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ และเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่เครือข่ายสายส่งเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงกลางปี 59
สำหรับสิทธิในการเข้าซื้อหุ้นภายใต้สัญญานี้ ครอบคลุมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 4 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมด 78.5 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งโครงการทั้งหมดจะใช้เงินลงทุนจำนวนประมาณ 604 ล้านหยวน เทียบเท่าประมาณ 93 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยหนี้สินและทุน
โครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในมณฑลซานตง ซึ่งเป็นมณฑลที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใหญ่เป็นอันดับ 3 และมีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมโจวผิง ที่ BPP ถือหุ้นในสัดส่วน 70% อยู่ด้วย โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้จะถูกจำหน่ายเข้าไปยังเครือข่ายสายส่งไฟฟ้าของมณฑล และอยู่บนโครงการสร้างรายได้ค่าไฟฟ้าและเงินอุดหนุนที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของ BPP ในการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าในตลาดที่มีความเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ดี และได้รับมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาล นอกจากนี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจีนนี้ ยังเปิดโอกาสให้ BPP ต่อยอดมูลค่าด้วยการใช้ทักษะความชำนาญในการบริหารโครงการและฐานความรู้เกี่ยวกับตลาดไฟฟ้าในประเทศ
เมื่อการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวสำเร็จแล้ว โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจีนนี้จะเป็นประเทศที่ 2 ที่ BPP มีการลงทุนในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนถัดจากประเทศญี่ปุ่น

*** โชว์งบ Q1/59 ขาดทุน 183.76 ลบ. หลังปริมาณ-ราคาขายถ่านหินลดลง
บริษัท บ้านปู รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ปี 2559 (สิ้นสุด 31 มี.ค.59) พลิกเป็นขาดทุน 183.76 ล้านบาท จากกำไร 69.25 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันปีก่อน หรือลดลง 365.35% คิดเป็นขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.071 บาท จากกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.027 บาท ในช่วงเดียวกันปีก่อน
ทั้งนี้ รายได้การขายรวมในไตรมาสแรก มีจำนวน 552 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 19,961 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน 137 ล้านเหรียญ หรือ 20% เกิดจากปริมาณการขายที่ลดลงและราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยบริษัทมีปริมาณขายถ่านหินในไตรมาสแรกปีนี้จำนวน 10.29 ล้านตัน ลดลง 0.48 ล้านตัน หรือ 4% จากการลดลงของปริมาณการขายของเหมืองประเทศออสเตรเลีย 0.25 ล้านตัน และเหมืองในสาธารณรัฐอินโดนิเซีย 0.23 ล้านตัน
ขณะที่ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยในไตรมาสนี้ อยู่ที่ 48.29 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากราคาขายในช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 58.56 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือลดลง 18%

*** โบรกฯคาดโซลาร์ฟาร์มสร้างกำไรปีละ 200 ลบ.
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ถึงกรณีที่บริษัท บ้านปู จะเข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ในจีน ขนาด 78.5MW ว่า ราคาขายไฟฟ้าของโซลาร์ฟาร์มในจีน จะได้ในราคาที่ใกล้เคียงกับโซลาร์ฟาร์มในประเทศไทย และน่าจะสร้างกำไรให้บริษัทอยู่ที่ประมาณ 180 - 200 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ในแง่ของความเสี่ยงด้านการก่อสร้างถือว่ามีค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าที่สามารถดำเนินการผลิตและจ่ายไฟฟ้าได้ทันที ??
ทั้งนี้ จากแผนการเข้าลงทุนดังกล่าว เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุนต่อบริษัท บ้านปู ในแง่ของผลตอบแทน และยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจในบริษัท บ้านปู พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ที่เตรียมจะขายหุ้นไอพีโอและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

*** เมย์แบงก์ฯมองผลประกอบการถูกกดดันอีก 1 ปี แนะถือ ให้เป้า 14.20 บาท
ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า เห็นด้วยที่ BANPU ปรับกลยุทธ์ไปมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งล่าสุดประกาศซื้อโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในประเทศจีนรวม 78.5 MW แต่ยังไม่ให้มูลค่าโครงการดังกล่าวจากข้อมูลที่จำกัด และเพิ่มลงทุนใน Shale gas ในสหรัฐ ที่มีโอกาสเติบโตในระยะยาวมากกว่าถ่านหิน อย่างไรก็ตามความเสี่ยงการลงทุนในธุรกิจและพื้นที่ใหม่ในช่วงเริ่มต้นมีสูง ธุรกิจถ่านหินที่ยังไม่ฟื้นตัวจะเป็นปัจจัยกดดันผลประกอบการในช่วง 1 ปีข้างหน้า ดังนั้นจึงยังคงแนะนำ "ถือ" ให้ราคาเป้าหมาย(SOTP) ที่ 14.20 บาท
ส่วนผลประกอบการ Q1/59 ที่ออกมาขาดทุน 183 ล้านบาท เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากธุรกิจถ่านหินที่ถูกกดดันจากภาวะอุปทานส่วนเกิน โรงไฟฟ้าหงสายังทำกำไรไม่ได้ตามแผน และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนและอนุพันธ์ทางการเงินรวม 21.4 ล้านเหรียญ (762 ล้านบาท) หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรจากการดำเนินงานเท่ากับ 18.5 ล้านเหรียญ หนุนโดยกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าที่มี EBITDA เพิ่มขึ้น 9.7% QoQ เป็น 42 ล้านเหรียญ

*** ทรีนีตี้-ดีบีเอสฯ ให้ราคาเป้าหมายแค่ 11.65 บาท และ 11.90 บาท ตามลำดับ
บทวิเคราะห์ บล.ทรีนิตี้ ระบุว่า แนะนำ "ถือ" BANPU ให้ราคาเป้าหมาย 11.65 บาท เนื่องจาก (1) แนวโน้มธุรกิจถ่านหินยังอ่อนแอในระยะ 1 ปี ข้างหน้า (2) คาดต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 1 ปี กว่าโรงไฟฟ้าหงสาสามารถเดินเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการฟื้นตัวราคาก๊าซตามราคาน้ำมันดิบของธุรกิจ Shale Gas (3)คาดกำไร 2Q59 ยังอ่อนแอ เนื่องจากปริมาณขายลดลงจากการย้ายเครื่องจักรที่เหมืองถ่านหินออสเตรเลีย
ด้านบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส มองว่า ราคาหุ้น BANPU เต็มมูลค่าแล้ว แนวโน้มธุรกิจถ่านหินยังไม่สดใส ขณะที่โรงไฟฟ้าหงสาจะเป็น Key growth ใน 2Q59 ด้าน Valuation ก็แพง ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปีนี้สูงถึง 43 เท่า จึงแนะนำ Fully Valued โดยให้ราคาพื้นฐาน 11.90 บาท อิงวิธี DCF



 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com