April 23, 2024   9:16:28 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > บจ.กำไรQ3ทรุด87%-ห่วยสุดรอบ7ปี
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 23/11/2015 @ 08:28:11
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ตลท.เปิดตัวเลขกำไรบจ.ไตรมาส 3/58 เหลือ 2.7 หมื่นลบ.ลดฮวบ 87% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 7 ปี กดกำไรบจ. 9 เดือนแรกปี 58 เหลือ 4.6 แสนลบ. หดตัว 26% เหตุโดนธุรกิจพลังงาน-ปิโตรเคมีฉุด ดัน P/E หุ้นไทยพุ่ง 24.58 เท่า ด้านบล.ดีบีเอสฯ คาดกำไรทั้งปีหดตัว 20% มองหุ้นไทยแพงเกินลงทุนแล้ว

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน(บจ.) ไตรมาส 3/58 มีกำไรสุทธิรวม 27,041 ล้านบาท ลดลง 87% จากงวดเดียวกันปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้าส่ง นับเป็นว่าหดตัวต่ำสุดในรอบ 7 ปี หรือตั้งแต่มีวิกฤตเลย์แมนปี 2551 ส่งผลให้งวด 9 เดือนแรกของปี 2558 บจ.ทั้งตลาดมีกำไรสุทธิรวม 4.6 แสนลบ. ลดลง 26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลให้อัตราราคาหุ้นเทียบกับกำไรสุทธิต่อหุ้น(P/E)ของตลาดหุ้นไทย ณ วันที่ 20 พ.ย. 58 พุ่งขึ้นเป็น 24.58 เท่า เรียกได้ว่าแพงสุดในภูมิภาค
ทั้งนี้ ผลประกอบการที่ประกาศออกมาถือว่าต่ำกว่าโบรกเกอร์คาดการณ์ โดยบล.เอเซีย พลัส คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่า งวดไตรมาส 3/58 บจ.จะมีกำไรสุทธิ 1 แสนลบ. อย่างไรก็ตาม บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) คาดการณ์ได้ใกล้เคียง โดยประเมินไว้ว่ากำไรบจ.ในไตรมาส 3/58 จะมีเพียง 5.87 หมื่นล้านบาท หดตัว 70% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 9 เดือนแรกปีนี้จะอยู่ที่ 4.95 แสนล้านบาท หรือลดลง 20%

**กลุ่มพลังงานกดกำไรบจ.ดิ่งเหว
ดร. สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า บจ. ใน SET จำนวน 521 บริษัท หรือ94% จากทั้งหมด 553 บริษัท ซึ่งไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC และบริษัทที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด หรือ NPG ได้นำส่งผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2558 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 มียอดขายรวมเท่ากับ 7,633,173 ล้านบาท ลดลง 10% และมีกำไรสุทธิ 460,242 ล้านบาท ลดลง 26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในจำนวนบริษัทที่ส่งงบการเงินทั้งหมดมี 416 บริษัทที่มีกำไรสุทธิ คิดเป็น 80% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด
สำหรับงวดไตรมาส 3/2558 บจ. มียอดขาย 2,530,400 ล้านบาท ลดลง 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 2% จากไตรมาส 2/2558 โดยมีกำไรสุทธิ 27,041 ล้านบาท ลดลง 87% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและจากไตรมาสก่อนหน้า และหากพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน ณ สิ้นไตรมาส 3/2558 บจ. ยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (debt to equity ratio) (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ 1.29 เท่า
สาเหตุสำคัญทำให้ผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 2558 และงวดไตรมาส 3/2558 ปรับลดลงแรง มาจากรายการพิเศษของกลุ่มธุรกิจพลังงาน กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และกลุ่มธุรกิจเหล็กปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบและราคาเหล็กซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงเดียวกันในปีก่อน ในขณะที่ผลการดำเนินงานปกติอ่อนตัวลงเล็กน้อย

**ตลท.ปลอบใจหากไม่นับรวมหมวดพลังงาน ยอดขายยังดี กำไรสุทธิโต 5%
ดร. สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า หากไม่รวมหมวดธุรกิจดังกล่าว ผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 2558 ของ บจ. จะมียอดขายโตเพิ่มขึ้น 1% และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันในปีก่อนจากการบริหารต้นทุนได้ดี โดยบจ. มีความสามารถในการบริหารต้นทุนได้ดีในงวด 9 เดือนปี 2558 และงวดไตรมาส 3/2558 โดยพบว่ามีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 22% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ บจ. ยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ 1.29 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 3/2558
นอกจากนี้ หมวดธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานดีขึ้นในงวด 9 เดือนและในไตรมาส 3/2558 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ทั้งด้านยอดขายและกำไรสุทธิ มี 4 หมวดธุรกิจคือ หมวดพาณิชย์ หมวดการแพทย์ และหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารซึ่งเกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคในประเทศ รวมถึงหมวดยานยนต์ซึ่งฟื้นตัวจากการส่งออก

**PTTคาดการณ์ผลดำเนินงานQ4/58 ได้ยาก ขึ้นอยู่กับ PTTEP
นายพิจินต์ อภิวันทนาพร ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดว่ารายได้ของบริษัทในงวดไตรมาส 4/2558 จะปรับตัวลดลงจากไตรมาส 3/2558 ที่มีรายได้ 5.05 แสนล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงจากไตรมาส 3/2558 เฉลี่ยอยู่ที่ 49 เหรียญต่อบาร์เรล ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 45 เหรียญต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผลประกอบการในไตรมาส 4 จะมีผลขาดทุนต่อเนื่องจากไตรมาส 3 หรือไม่นั้นยังไม่สามารถตอบได้เพราะขึ้นอยู่กับ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP จะมีการตั้งด้อยค่าอีกหรือไม่ เพราะเป็นเหตุผลหลักทำให้บริษัทมีผลขาดทุน 2.6 หมื่นลบ.ในไตรมาส 3/58 จากการรับรู้ผลจากการตั้งด้อยค่าของ PTTEP จำนวน 3.2 หมื่นล้านบาท

**PTTยอมรับปีนี้ยังขาดทุน NGV อีก 1 หมื่นลบ.
นายพิจินต์ อภิวันทนาพร ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดว่าปีนี้จะมีผลขาดทุนจากธุรกิจ NGV ประมาณ 10,000 ล้านบาท แต่ถือว่าลดลงจากปี2557 ที่มีผลขาดทุน 20,000 ล้านบาท เนื่องจากรัฐบาลมีการปรับขึ้นราคาขาย NGV ทำให้ราคาเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 13.50 บาทต่อกิโลกรัม จากปีที่แล้ว 10.5 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนปริมาณการขายก๊าซปีนี้ก็คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 4-5% อยู่ที่ประมาณ 4.8 พันล้านลูกบาศก์จฟุต จากปีที่แล้ว 4.68 พันล้านลูกบาศก์ฟุต จากปริมาณความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น
สำหรับราคาน้ำมันปีหน้าบริษัทฯคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 53-56 เหรียญต่อบาร์เรล จากปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่่ย 50-51 เหรียญต่อบาร์เรล เนื่องจากปริมาณน้ำมันส่วนเกินจากความต้องการลดลงเหลือ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีนี้ที่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จึงทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวดีขึ้น ส่วนค่าการกลั่นปีหน้าคาดใกล้เคียงปีนี้ที่ 7-8 เหรียญต่อบาร์เรล

**PTTEPยันQ4/58ไม่มีบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์อีก
นางเพ็ญจันทร์ จริเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินและการบัญชี บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/58 ดีกว่า ไตรมาส 3/58 หลังไม่มีบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์
อย่างไรก็ตาม อัตราแลกเปลี่ยนนับเป็นอีกตัวแปรที่มีผลต่อผลประกอบการของบริษัท กรณีบาทอ่อนค่าทุก 1 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จะส่งผลให้บริษัทฯขาดทางบัญชีราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหากแนวโน้มของค่าเงินบาทยังอ่อนตัวลงอีก มีโอกาสทำให้กระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในทางกลับกันหากเงินบาทแข็งค่าขึ้นจะทำให้บริษัทฯมีกำไร 100 ล้านเหรียญสหรัฐต่อ 1 บาทต่อเหรียญสหรัฐที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายรักษาอัตรากำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมปีนี้ (EBITDA Margin) ไม่ให้ต่ำกว่า 65- 70% ตามแผนการควบคุมต้นทุนการผลิตเพื่อรองรับกับภาวะราคาน้ำมันผันผวน โดยส่วนของราคาน้ำมันได้มีการทำประกันความเสี่ยงแบบช่วงราคาที่กำหนดต่ำสุดไว้ที่กว่า 53 เหรียญ/บาร์เรล และสูงสุด 62 เหรียญ/บาร์เรล โดยไตรมาส 4/58 หากราคาน้ำมันต่ำกว่าระดับดังกล่าวบริษัทฯ จะไม่ได้รับผลกระทบและอาจจะมีกำไรจากการทำประกันความเสี่ยงตามมา
บริษัทฯ คาดว่าบริมาณขายปิโตรเลียมในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 3.3 แสนบาร์เรลต่อวัน เติบโตจากปีก่อนประมาณ 3% และมองว่าปริมาณการขายในไตรมาส 4/58 สูงกว่า 9 เดือนแรกปีนี้ที่เฉลี่ย 3.28 แสนบาร์เรลต่อวัน สำหรับในปี 59 คาดว่าปริมาณขายจะเพิ่มขึ้น 3% จากปีนี้ เนื่องจากรับรู้แหล่งผลิตจากแอลจีเรียเต็มปี ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการแอลจีเรีย 433 เอ และ 416 บี โดยได้เริ่มดำเนินการผลิตน้ำมันดิบแล้ว โดยปัจจุบันโครงการมีอัตราการผลิตประมาณ 20,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถจำหน่ายน้ำมันดิบครั้งแรกได้ภายในไตรมาส 4/58

**ดีบีเอสวิคเคอร์ส คาดกำไรทั้งปี 58 หดตัว 20% ดันP/Eแตะ 23 เท่า แพงเกินลงทุน
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส เปิดเผยว่า ผลประกอบการบจ.ในไตรมาส 4/58 ยังมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่องกระทบกำไรกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ขณะที่ค่าเงินบาทแนวโน้มอ่อนค่า ทำให้ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน และคาดกำไรบจ.ในปีนี้ลดลงกว่า 20% จากปีก่อน ดัน P/E ตลาดหุ้นไทย พุ่งแตะ 22-23 เท่า นับว่าแพง แนะนำนักลงทุนใช้ความระมัดระวัง เลือกซื้อลงทุนเป็นรายบริษัท ในหุ้นพื้นฐานดี



 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com