April 25, 2024   12:46:17 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > "วิน"ดิ้นเฮือกสุดท้าย!ยื่นศาลฟื้นฟูSSI
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 05/10/2015 @ 08:40:31
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

"วิน วิริยประไพกิจ" สุดยื้อ ยื่นศาลขอฟื้นฟูกิจการ SSI หลังหมดปัญญาชำระหนี้ SSI UK กว่า 2.39 หมื่นลบ. อาสาขอเป็นผู้บริหารแผนเอง ด้านเจ้าหนี้ยอมใส่เงินประคองชีวิตในระหว่างพลิกฟื้นบริษัท ขณะที่ ตลท.ยังไม่ห้ามซื้อขายหุ้น รอดูงบปี 58 ก่อนพิจารณาส่งเข้าหมวด NPG ส่วนก.ล.ต.ยันเข้าตรวจสอบงบการเงินตั้งแต่ SSI เข้าซื้อSSI UK ระบุไม่พบทุจริต

ท้ายที่สุด บริษัท สหวิริยาสตีลอิสดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI ได้ยื่นต่อศาลล้มละลายเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อขอฟื้นฟูกิจการ ภายหลังไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ จากการเป็นผู้ค้ำประกันให้กับ SSI UK มูลหนี้ 2.39 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีภาวะหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน พร้อมกับแจ้งหยุดการผลิตกิจการโรงถลุงเหล็กที่ประเทศอังกฤษ รวมถึงประกาศปลดพนักงาน 1,700 คน จาก 2,000 คน ภาพดังกล่าวเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ เพราะเป็นเส้นทางเดินเส้นทางเดียวที่เหลืออยู่ของSSI ในอันจะพลิกสถานการณ์ให้กลับสู่สภาวะปกติได้

**สาเหตุที่ต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ
นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSIเปิดเผยถึง สาเหตุต้องขอฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี ยูเค จำกัด (SSI UK) หรือ "เอสเอสไอ ยูเค" ได้ถูกกลุ่มธนาคารเจ้าหนี้เงินกู้ ซึ่งประกอบด้วยธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มูลหนี้ 11,450 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มูลหนี้ 11,450 ล้านบาท และธนาคาร ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) มูลหนี้ 1,000 ล้านบาท หรือมีมูลหนี้รวม 23,900 ล้านบาท เรียกให้ชำระหนี้ที่ค้างอยู่ตามเงื่อนไขการกู้ยืมเงิน และส่งผลให้หนี้เงินกู้ยืมจากกลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่ถึงกำหนดชำระทั้งหมดในทันที
กลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่ได้เรียกให้SSI เป็นผู้ชำระหนี้ของ เอสเอสไอ ยูเค ในฐานะผู้ค้ำประกัน ทำให้บริษัทต้องรับรู้หนี้เงินกู้ยืมทั้งจำนวนของ เอสเอสไอ ยูเค ด้วย ซึ่งบริษัทฯ ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ เนื่องจากบริษัทฯ อยู่ในภาวะที่มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน และกลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่จะใช้สิทธิในการเรียกภาระค้ำประกันจาก เอสเอสไอ ยูเค ในฐานะผู้ค้ำประกันของบริษัทฯ อีกด้วย
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาสิทธิของกลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่??อาศัยเหตุต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น และจากการหารือร่วมกันกลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่เพื่อหาแนวทางในการรักษาธุรกิจเหล็กแผ่นรีดร้อนของบริษัทฯ ให้สามารถดำเนินการได้ตามปกติ และรักษามูลค่าทางธุรกิจของบริษัทฯ ไว้รวมถึงคงไว้ซึ่งระดับความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของบริษัทฯ ให้มีอยู่ เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดต่อพนักงาน ลูกค้า และคู่ค้าของบริษัทฯ?? โดยคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มติเห็นชอบให้บริษัทฯปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินโดยยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลในวันที่ 1 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา

** "วิน"เสนอตัวเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ SSI
นายวิน กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติให้บริษัทฯ เป็นผู้ทำแผนการฟื้นฟูกิจการ โดยในกรณีนี้ อำนาจ หน้าที่ และความรับผิดในฐานะผู้ทำแผนการฟื้นฟูกิจการตกเป็นของกรรมการของบริษัทฯ ที่มีชื่อตามหนังสือรับรอง โดยอนุมัติมอบอำนาจให้ นายวิน วิริยประไพกิจ หรือ นายณรงค์ฤทธิ์ โชตินุชิตตระกูล ในฐานะผู้บริหารของลูกหนี้ (บริษัทฯ) เป็นผู้ทำแผนในการนี้ กลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่จะสนับสนุนให้บริษัทฯ บริหารงานต่อไป โดยจะพิจารณาให้การสนับสนุนวงเงินหมุนเวียนเพิ่มเติมตามสมควรเพื่อให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ โดยให้ที่ปรึกษาทางการเงินทำหน้าที่ควบคุมเงินสด (Cash Monitoring) ของบริษัทฯ และกลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่จะให้ความร่วมมือสร้างความเชื่อมั่นกับคู่ค้าของบริษัทฯในการดำเนินธุรกิจต่อไป??
กลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่และบริษัทฯ ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่าการเข้าสู่ศาลฟื้นฟูกิจการ จะทำให้บริษัทฯ ได้รับการปรับปรุงเเก้ไขสภาพคล่องทางการเงินให้ดีขึ้น เพียงพอต่อการสนับสนุนให้ธุรกิจเหล็กแผ่นรีดร้อนในประเทศไทย ดำเนินต่อไปได้อย่างมีเสถียรภาพ เนื่องจากราคาเหล็กแท่งแบนที่ลดลงมามาก ทำให้ธุรกิจเหล็กแผ่นรีดร้อนมีความสามารถในการแข่งขันสูง และสามารถทำกำไรได้ดีโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มพิเศษ (Premium Value Products) ที่มีส่วนต่างราคาสูง
รวมทั้งโอกาสในการขยายตลาดเพิ่มมากขึ้นจากการเจริญเติบโตของภูมิภาคอาเซียนที่มีปริมาณการบริโภคเหล็ก 60 ล้านตันต่อปีในปัจจุบัน และจะเติบโตไปเป็น 80 ล้านตันต่อปีภายในสามปีข้างหน้า ปริมาณความต้องการใช้เหล็กในประเทศที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันปริมาณการบริโภคเหล็กเฉลี่ยในไทยยังสูงอยู่ที่ 17 ล้านตันต่อปี รวมทั้งโครงการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ และโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ริเริ่มโดยรัฐบาล การใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ขยายตัวสูงขึ้น และการขยายตัวของหัวเมืองใหญ่ในประเทศ

**SSI UKหยุดผลิตไม่สะเทือนถึงแม่
นายวิน กล่าวว่า บริษัทขอแจ้งการหยุดผลิตเหล็กแท่งแบนชั่วคราวที่โรงงานเอสเอสไอทีไซด์ของธุรกิจโรงถลุงเหล็ก ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี ยูเค จำกัด โดยเอสเอสไอ ยูเค เป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นทั้งหมด 100% ระหว่างรอผลการหารือกับผู้มีส่วนได้เสีย เช่น รัฐบาลอังกฤษ คู่ค้า และสหภาพแรงงาน ในการให้ความร่วมมือลดต้นทุนการผลิตและหยุดผลขาดทุนของธุรกิจโรงถลุงเหล็ก ??จากการประเมินสถานการณ์การหารือล่าสุด เอสเอสไอ ยูเค มีความจำเป็นต้องหยุดการผลิตในส่วนของโรงถลุงเหล็ก (Iron and Steel Making Operation) ซึ่งจะส่งผลให้ต้องมีการลดจำนวนพนักงานลงประมาณ 1,700 คน จากทั้งหมดประมาณ 2,000 คน
ทั้งนี้ การประกาศหยุดผลิตเหล็กแท่งแบนชั่วคราวของSSI UK ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนของSSI เนื่องจากยังมีวัตถุดิบเหล็กแท่งแบนสำรองอยู่ และสามารถจัดซื้อวัตถุดิบเหล็กแท่งแบนราคาถูกในตลาดได้

**ก.ล.ต.ไม่ติดใจงบ SSI กรณีเข้าซื้อSSI UK
นายธวัชชัย เกียรติกวานกุล ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับบัญชีตลาดทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า สำนักงานก.ล.ต.ได้เข้าไปตรวจสอบการซื้อ SSI UK ของ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI ตั้งแต่แรก แต่ไม่พบข้อทุจริตในงบการเงิน แม้ว่าการเข้าซื้อ SSI UK จะมีการจ่ายค่าความนิยม (Goodwil) สูงกว่าราคายุติธรรม แต่ถือว่าเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยทาง SSI ยอมจ่ายในราคาที่สูงกว่ามูลค่ายุติธรรม เนื่องจากมองว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจในอนาคต แต่สาเหตุที่ทำให้ต้องประสบภาวะขาดทุนจนเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการนั้น น่าจะเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจโดยรวมไม่เอื้ออำนวย รวมถึงภาพรวมอุตสาหกรรมเหล็กไม่ดีจากราคาเหล็กที่ปรับตัวลดลง

**นลท.ยังเก็งกำไร SSI ได้อยู่- ตลท.ยังไม่ขึ้น SP
แหล่งข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า ตลท.จะยังไม่ขึ้นเครื่องหมาย SP หุ้น SSI แม้บริษัทฯจะยื่นศาลขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากตลท.จะพิจารณางบการเงินงวดสิ้นปี 2558 ของ SSI เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ว่าจะเข้าข่ายต้องถูกย้ายเข้าไปอยู่ในหมวดฟื้นฟูกิจการ (NPG)หรือไม่
ล่าสุด ส่วนผู้ถือหุ้น ของSSI ณ สิ้นงวด มิ.ย. 2558 ติดลบ 1,776 ลบ.??ดังนั้น ขณะนี้ยังเปิดให้ซื้อขายตามปกติ และระหว่างนี้ หากบริษัทมีพัฒนาการที่ดี สามารถแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนกิจการได้ อาจไม่จำเป็นต้องถูกจัดเข้าไปอยู่ในหมวด NPG

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com