บอร์ดกสทช.ผ่านร่างประมูล 4G ความถี่ 1800 MHz พร้อมเคาะราคาเริ่มต้นที่ 1.59 หมื่นลบ. ต่อ 1 ใบอนุญาต พร้อมเดินหน้าจัดประมูล 11 พ.ย.นี้ ส่วนคลื่น 900MHz ยังอยู่ในช่วงเดินสายฟังความคิดเห็น ด้านโบรกฯ มั่นใจ ADVANC ได้เปรียบสุด เหตุฐานทุนแกร่ง แม้ราคาประมูลจะสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ แถมแบรนด์น่าเชื่อถือที่สุด ดึงดูดผู้ใช้เข้ามามากขึ้น ฝั่ง DTAC คาดสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดแน่นอน ขณะที่ TRUE ต้องเหนื่อยมากขึ้นหลังคู่แข่งมี 4G เท่าเทียมกัน ส่วน JAS ขอแจม ตั้ง "แจสโมบาย บรอดแบนด์" ร่วมวงประมูล

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ประกาศเคาะราคาเริ่มต้นประมูล 4G คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) จะไม่น้อยกว่าใบอนุญาตละ 15,912 ล้านบาท สูงกว่าเดิมที่เคยมีข่าวออกมาว่า ว่าราคาประมูลเริ่มต้นที่ 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะจัดประมูลคลื่นดังกล่าวในวันที่ 11 พ.ย.นี้ และประกาศผลการประมูลไม่เกินวันที่ 18 พ.ย.58
ขณะที่ทางผู้ประกอบการอย่าง บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส หรือ ADVANC และบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น DTAC ต่างยืนยันว่าจะเดินหน้าประมูล 4G คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) อย่างแน่นอน ขณะที่คลื่น 900 MHz ยังอยู่ในช่วงทำประชาพิจารณ์ จะเสร็จสิ้น 6 ก.ย.นี้
ทั้งนี้ราคาหุ้นของ 3 ผุ้ประกอบการมือถือรายใหญ่ของไทย ปิดการซื้อขายในวันที่ 21 ส.ค.58 ดังนี้
ADVANC ปิดการซื้อขายที่ระดับ 237 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท หรือ 1.72% มูลค่าการซื้อขาย 1,301.25ล้านบาท
DTAC ปิดการซื้อขายที่ระดับ 67.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 1.89% มูลค่าการซื้อขาย 146.92 ล้านบาท
TRUE ปิดการซื้อขายที่ระดับ 9.90 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ -1.00% มูลค่าการซื้อขาย 1,097.87ล้านบาท

*** กสทช.เคาะราคาประมูล 4G คลื่น 1800 MHz ที่ 1.59 หมื่นลบ. เตรียมจัดการประมูล 11 พ.ย.นี้
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) และรองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดเผยว่า ราคาเริ่มต้นประมูล 4G คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) จะไม่น้อยกว่าใบอนุญาตละ 15,912 ล้านบาท ทั้งนี้ ร่างประกาศการประมูลความถี่ 1800 MHz ผ่านมติคณะกรรมการเป็นที่เรียบร้อย ในเบื้องต้นร่างประกาศฯดังกล่าว มีการจัดสรรใบอนุญาต 2 ใบ ขนาด 15x2 MHz เป็นระยะเวลา 18 ปี(ก.ค.2576) ผู้เข้าประมูลจะเสนอราคาสำหรับชุดคลื่นความถี่ได้หนึ่งชุดเท่านั้น และคาดว่าจะจัดประมูลคลื่นดังกล่าวในวันที่ 11 พ.ย.นี้ และประกาศผลการประมูลไม่เกินวันที่ 18 พ.ย.58
ทั้งนี้ตามร่างประกาศการประมูลความถี่ 1800 MHz ที่ผ่านมติคณะกรรมการ เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ในเบื้องต้นร่างประกาศดังกล่าว ให้มีการจัดสรรใบอนุญาต 2 ใบ ขนาด 15x2 เมกะเฮิรตซ์ เป็นระยะเวลา 18 ปี(ก.ย.2576) ซึ่งผู้เข้า ประมูลจะเสนอราคาสำหรับชุดคลื่นความถี่ได้หนึ่งชุดเท่านั้น
โดยราคาเริ่มต้นการประมูล จะมีมูลค่าไม่น้อยกว่าใบละ 15,912 ล้านบาทต่อ 1 ใบอนุญาต และในกรณีมีผู้เข้าร่วมประมูลมากกว่า 2 รายขึ้นไป ราคาประมูลใน แต่ละรอบ จะเพิ่มขึ้นรอบละ 796 ล้านบาท หากมีผู้เข้าร่วมประมูลน้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 ราย ราคาเริ่มต้นการประมูล จะไม่น้อยกว่า 19,890 ล้านบาท ต่อ 1 ใบอนุญาต โดยราคาประมูลในแต่ละรอบ จะเพิ่มขึ้นรอบละ 398 ล้านบาท

*** เจาะรายละเอียดร่างประกาศฯ 4 G คลื่น 1,800 MHz
ในเบื้องต้นร่างประกาศฯ ดังกล่าว มีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้
1.มีการจัดสรรใบอนุญาต 2 ใบ ขนาด 15x2 MHz เป็นระยะเวลา 18ปี (ก.ย. 76)
2.ผู้เข้าประมูลจะสามารถเสนอราคาสำหรับชุดคลื่นความถี่ ได้หนึ่งชุดเท่านั้น
3.ราคาเริ่มต้นการประมูลจะมีมูลค่าไม่น้อยกว่าใบละ 15,912 ล้านบาทต่อ 1 ใบอนุญาต ในกรณีมีผู้เข้าร่วมประมูลมากกว่า 2 รายขึ้นไป ราคาประมูลในแต่ละรอบจะเพิ่มขึ้นรอบละ 796 ล้านบาท แต่หากมีผู้เข้าร่วมประมูลน้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 ราย ราคาเริ่มต้นการประมูลจะไม่น้อยกว่า 19,890 ล้านบาทต่อ 1 ใบอนุญาต โดยราคาประมูลในแต่ละรอบจะเพิ่มขึ้นรอบละ 398 ล้านบาท ซึ่งการประมูลรอบแรกผู้ประมูลไม่สามารถใช้สิทธิการไม่เสนอราคาได้
4.ค่าพิจารณาคำขอ 5 แสนบาท เงินประกันการประมูลรายละ 696 ล้านบาท
5.ผู้เข้าร่วมประมูลต้องมีการส่งแผน CSR ให้ กทค.เห็นชอบ

*** ลุ้นบทสรุปคลื่น 900 MHz ต่อเดือนหน้า
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า การประมูล คลื่นความถี่ 900 MHz ยังไม่ได้สรุปอย่างชัดเจนว่าจะประมูลในวันเดียวกันหรือไม่ โดยจะรอให้การ ประชาพิจารณ์คลื่น 900 MHz เสร็จสิ้นก่อน ซึ่งกรอบเวลาเดิมกำหนดให้มีการประมูลคลื่นดังกล่าวใน วันที่ 15 ธ.ค.58ที่ผ่านมา กสทช.ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นแล้วในคลื่นความถี่ 1
โดยก่อนหน้านี้สำนักงาน กสทช.ได้เปิดเวทีเพื่อจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นร่างหลักเกณฑ์ประมูลคลื่น ความถี่ 900 MHz ใน ส่วoกลางกรุงเทพฯ โดยมีประเด็นที่จะทำการรับฟังความคิดเห็น คือ 1.ขนาดของคลื่นความถี่ที่จะนำ มาประมูล 2.วิธีการอนุญาต ความเหมาะสมของการใช้วิธีการประมูล ความเหมาะสมของกฎการ ประมูล ความเหมาะสมของเงื่อนไขกรณีที่มีผู้เข้าร่วมการประมูลจำนวนน้อยกว่าหรือเท่า กับจำนวน ชุดคลื่นความถี่ที่จะนำมาอนุญาตให้ใช้ 3.ราคาขั้นต่ำของการอนุญาต และราคา 16,080 ล้านบาท กรณีที่ผู้เข้าร่วมการประมูลน้อยกว่าหรือ เท่ากับจำนวนใบอนุญาต 4.กระบวนการอนุญาต 5.สิทธิ หน้าที่ และเงื่อนไขในการอนุญาตให้ใช้คลื่น ความถี่ย่าน 900 MHz 6.มาตรการจำกัดพฤติกรรมสมยอมในการเสนอราคาประมูล และ 7. ประเด็นอื่นๆ
ทั้งนี้กสทช.กำหนดจัดเวทีขึ้นอีกครั้งในวันที่ 31 ส.ค.58 ในส่วนภูมิภาค จ.ขอนแก่น หรือด้วยวิธีการส่ง เอกสารโดยตรง หรือผ่านช่องทางจดหมาย, จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงโทรสาร ต่อสำนักงาน กสทช. ซึ่งสามารถแสดงความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 6 ก.ย.58

*** ADVANC - DTAC โชว์พลัง พร้อมร่วมวงประมูล
นางสาวนัฐิยา พัวพงศกร ผู้อำนวยการสำนัก นักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส หรือ ADVANC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังมีความมั่นใจในการเข้าร่วมประมูลสัญญาณ 4G คลื่นความถี่ 1,800 MHz และ 900 MHz ในวันที่ 11 พ.ย. 58 โดยบริษัทมีเงินทุนเพียงพอ ซึ่งหากชนะประมูลคาดว่าจะใช้ระยะเวลา 3-4 เดือนที่จะขยายโครงข่าย และเปิดให้บริการ โดยจะเริ่มที่กรุงเทพ เป็นอันดับแรก และ จะขยายให้ครอบคลุมจังหวัดหลักๆ ต่อไป
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น DTAC กล่าวว่า DTAC มุ่งการเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ทั้ง 1800 และ 900 MHz เพื่อปลดล็อคศักยภาพทางด้านโทรคมนาคมของประเทศ ที่จะนำทรัพยากรคลื่น ความถี่ และโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมมาพัฒนาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่โดยการให้เข้าถึง เชื่อมต่อ และทำให้เกิดการส่งเสริมสู่มาตรฐานการบริหาร สอดคล้องกับการกำหนดเป้าหมายให้คนไทย 80% มีการใช้อินเทอร์เน็ตใน ชีวิตประจำวัน ภายในปี 2560 และที่สำคัญยังเป็นการตอบสนองนโยบาย เศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล

*** โบรกฯ เชื่อ ADVANC พร้อมทุ่มเงินประมูล 4G คลื่น 1800 MHz แม้ราคาเริ่มต้นสูงถึง 1.59 หมื่นลบ.
นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ประเมินว่า ราคาเริ่มต้นประมูล 4G คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) ที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำหนดที่ 15,912 ล้านบาท ซึ่งจะจัดประมูลวันที่ 11 พ.ย.58 นี้ จะไม่ส่งผลกระทบที่มีนัยสำคัญต่อผู้ประกอบการ เนื่องจากต้องเข้าร่วมประมูลอย่างแน่นอนเพื่อขยายขีดจำกัดในการให้บริหาร แม้อาจจะทำให้ต้นทุนการประมูลสูงขึ้นบ้างโดยเฉพาะ ADVANC ที่ต้องประมูลทั้งคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ เพราะสัปทานเดิมจะหมดอายุปลายปีนี้ แต่ก็จะส่งผลดีในทันทีเพราะเป็นผู้ให้บริการที่มีลูกค้ามากที่สุด ทำให้หลังจากได้ใบอนุญาตใหม่การให้บริการจะทำได้เต็มศักยภาพมากยิ่งขึ้น และยังคงเลือกเป็น Top pick แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 270 บาท
ขณะที่มองว่า DTAC จะเข้าประมูลเพียงคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์เพียงใบเดียว เพราะคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ที่มีอยู่ใช้ได้ถึงปี 2561 ส่วน TRUE ก็น่าจะประมูลเพียงคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ เพราะมี 850 เมกะเฮิรตซ์ อยู่ในมือแล้ว อย่างไรก็ตามต้องรอประเมินอีกครั้งหลังการประกาศราคาประมูลใบอนุญาติครบทั้ง 2 คลื่น

*** บล.โกลเบล็ก ชี้แบรนด์ ADVANC แกร่งสุด จะยิ่งดึงดูดผู้ใช้เข้ามามากขึ้น
ด้านนายบุญฤทธิ์ เบญจธนารักษ์ นักวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ADVANC มีศักยภาพที่สุดที่จะชนะการประมูล ซึ่งขึ้นอยู่กับทางบริษัทต้องการคลื่นไหน จากที่ ADVANC มีการตั้งงบประมูลไว้ที่สูงมากตั้งแต่ต้นปี และเป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่ยังไม่มีการให้บริการ 4G ทำให้ยิ่งต้องทุ่มเงินเพื่อที่จะให้ได้ใบอนุญาต จากที่ทาง DTAC และ TRUE มีการให้บริกา ร4G แล้ว ทั้งนี้หาก ADVANC ไม่ได้ใบอนุญาตจะทำให้ลูกค้ามีการยกเลิกและหันไปใช้บริการของ DTAC และ TRUE มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีการไหลออกไปแล้วบางส่วน แต่หาก ADVANCได้ใบอนุญาตและให้บริการ 4G เชื่อว่าจะทำให้ลูกค้า 4G ของทาง DTAC และTRUE หันมาใช้บริการ 4G ของ ADVANC จากที่ การให้บริการ 4G ของ 2 ค่ายดังกล่าวนั้น ยังช้าอยู่ และเป็นเรื่องความเชื่อมั่นในแบรนด์
ดังนั้นบริษัทจึงมองว่าหุ้น ADVANC มีความน่าสนใจลงทุนมากสุดในกลุ่มสื่อสาร จากที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมีผลการดำเนินงานเติบโตได้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แม้จะเติบโตไม่มากก็ตาม โดยคาดว่ารายได้ปีนี้จะอยู่ที่ 1.54 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4 %จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน เนื่องจาก บริษัททมีการเติบโตทางด้านการให้บริการอินเตอร์เน็ต และบริษัทได้เปรียบเรื่องการขายมือถือ 3G ราคาที่ถูก ที่มาร์จิ้นไม่ติดลบ ขณะผู้ให้บริการรายอื่นนั้นมีการลดราคาจนมาร์จิ้นติดลบ
ทั้งนี้บริษัทแนะนำซื้อหุ้น ADVANC ประเมินราคาหุ้นเหมาะสมปีนี้อยู่ที่ 285 บาทต่อหุ้น แต่การเข้าลงทุนจะเป็นลักษณะทยอยเข้าลงทุน จากที่ภาวะตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลง
"การประมูล 4G นั้นคาดว่าADVANC จะต้องมีการทุ่มเงินประมูลเพื่อที่จะให้ได้ใบอนุญาตมา เพราะ ปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่ยังไม่ให้บริการ 4G เพราะหากไม่ได้จะทำให้ลูกค้าไหลไปใช้บริการของ TRUE และ DTAC และหากได้ใบอนุญาต จะทำให้ลูกค้าของ 2 ค่ายดังกล่าวกันมาใช้บริการ ของ ADVANC แทน จากคนยังให้ความสนใจเรื่องแบรนด์ และ4G ของ 2 ค่ายนั้น ยังช้าอยู่ โดยส่วนตัวเชื่อว่า ADVANC จะประมูล คลื่น 900 MHZ เพราะคลื่น 900 MHZ ของADVANC จะหมดสัญญา ในปลายปีนี้ "นายบุญฤทธิ์ กล่าว

*** TRUE เหนื่อยสุด หลังคู่แข่งจ่อคอหอย - DTAC เสียส่วนแบ่งการตลาด
ส่วนนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุว่า หลังกสทช.มีกำหนดที่แน่นอนในการประมูล 4G ออกมาแล้ว TRUE จะเสียประโยชน์มากที่สุดเนื่องจากมี 3G และ 4G ทีรองรับมากกว่าผู้ประกอบการรายอื่น แต่การประมูลครั้งนี้จะทำให้รายอื่นๆ ตามทัน โดยเฉพาะ ADVANC ซึ่งเป็นเจ้าตลาดในแง่ของจำนวนลูกค้า ขณะที่ด้านกลยุทธ์การลงทุน ADVANC กับ TRUE ยังสามารถซื้อได้ ส่วน DTAC แนะหลีกเลี่ยงเนื่องจากสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดต่อเนื่อง

*** JAS ขอแจม ตั้ง "แจสโมบาย บรอดแบนด์" ร่วมวงประมูล 4G พร้อมใส่เงินเพิ่มทุน 350 ลบ.
บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)หรือ JAS แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 6/2558 เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2558 มีมติให้สัตยาบันเกี่ยวกับการดำเนินการจัดตั้งบริษัท แจสโมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ("JAS MOBILE BROADBAND CO.,LTD.") ด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 1,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในอัตราส่วนร้อยละ 99.997 การจัดตั้งบริษัทนี้เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
นอกจากนี้ เนื่องจากบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ได้จดทะเบียน 1,000,000 บาท และต่อมาได้เพิ่มทุนจดทะเบียนรวมเป็นจำนวนเงิน 350,000,000 บาท ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทจึงมีมติอนุมัติเรื่องการซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ตามสัดส่วนการถือหุ้นคิดเป็นจำนวน 34,898,953 หุ้น ราคาหุ้นละ 10 บาท รวมมูลค่าการลงทุนของทั้งสองครั้งคิดเป็นเงินทั้งสิ้น 349,989,500 บาท บริษัทฯ จะใช้เงินสดภายในบริษัทฯเพื่อการทำรายการดังกล่าว โดยคาดว่าจะชำระเงินลงทุนภายในไตรมาส 3 ของปี 2558
สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการทำรายการดังกล่าวคือ การขยายการลงทุนในธุรกิจดังกล่าวจะช่วยให้กลุ่มบริษัทมีบริการโทรคมนาคมที่หลากหลาย ครอบคลุมการติดต่อสื่อสารที่มากขึ้น ทั้งยังเป็นการประสานประโยชน์กับธุรกิจปัจจุบันของกลุ่มบริษัท ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มบริษัทมีการเติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต