March 29, 2024   3:05:46 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > "ประยุทธ์3" นับหนึ่งฟื้น ศก.
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 21/08/2015 @ 08:24:06
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

"ครม.ประยุทธ์3"เริ่มเดินหน้าเรียกความเชื่อมั่น ฟื้นเศรษฐกิจ โบรกฯคาดเริ่มขับเคลื่อนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ตั้งแต่เดือนก.ย.นี้ ชี้ หุ้นรับเหมาฯ-ค้าปลีก รับอานิสงส์ แนะซื้อ SCC- CK- STEC- KTB- KBANK- HMPRO- GLOBAL- CPALL- ROBINS ด้าน"เอเซียพลัส" แนะเน้นหุ้นทนเศรษฐกิจชะลอตัว-ปันผลเด่น ด้านนายกฯ ลั่น เดินหน้าเร่งลงทุนในประเทศ ส่วนเอกชน ชี้โฉมหน้าครม.ชุดใหม่แจ่ม มั่นใจ ช่วยดันเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปีโตตามเป้า

*โบรกฯ ประสานเสียง "ครม.ประยุทธ์3"เรียกความเชื่อมั่น ฟื้นศก.
บทวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า การปรับ ครม.ชุดใหม่ ซึ่งคาดได้ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่เข้ามาเร่งผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้ง ระยะสั้น- และยาว คาดว่าจะเน้นในส่วนของการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้น- ฐานต่างๆ ผ่านการใช้จ่ายจากภาครัฐ(GovernmentSpending) และนโยบายช่วยเหลือรากหญ้ากระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ (Consumption)เป็นหลัก ซึ่งจะหนุนเศรษฐกิจไทยค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วงถัดไป
บทวิเคราะห์ บล.ธนชาต ระบุว่า แม้ SET ยังดูผันผวน แต่การปรับ ครม.จะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่ม Consumption Plays และรับเหมาฯ จากความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และการเร่งเปิดประมูลโครงสร้างพื้นฐาน อย่าง CK -STEC -SEAFCO- GLOBAL -CPALL - HMPRO
ส่วนยังไม่ควรรีบซื้อคือ กลุ่มท่องเที่ยว ที่กระทบจากเหตุระเบิดโดยตรง อย่าง AOT AAV CENTEL MINT ERW ยังแนะนำ “Wait & See” ไปก่อน
ด้านบทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุว่า การปรับครม.หนุนกลุ่มรับเหมา วัสดุก่อสร้าง ชื่อของดร.สมคิดน่าจะเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้ในระดับหนึ่ง หนุนการเก็งกำไรระยะสั้นในกลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง แต่ต้องรอดูนโยบายของทีมเศรษฐกิจอีกที
บทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) มองว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาฯจะได้ sentiment บวกจากการปรับครม.โดยคาดว่าการประมูลงานก่อสร้างต่างๆ มีโอกาส จะเร็วขึ้น

* ขับเคลื่อนการลงทุนขนาดใหญ่ก.ย.นี้ ชี้ หุ้นรับเหมาฯ-ค้าปลีก รับอานิสงส์
บทวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง ระบุว่า แนวโน้มยังเป็นบวกในช่วง 2H58 พร้อมกับแรงเก็งกำไรต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังรายชื่อคณะรัฐมนตรี ประยุทธ์ 2 แต่กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและ PTT ยังคงมีแรงขายลดน้ำหนักการลงทุนหนาแน่นต่อเนื่อง
กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มวัสดุก่อสร้าง น่าจะมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่อง หลังการปรับครม. คาดว่าทีมเศรษฐกิจ ภายใต้การนำของ ดร. สมคิด จะเร่งเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการประมูลรถไฟรางคู่ 2 เส้นทาง / โครงการมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทาง 1.6 แสนล้านบาท / โครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย – จีน / โครงการโซล่าร์หน่วยงานราชการ – สหกรณ์ เราเชื่อว่าจะเห็นการเริ่มตั้งแต่เดือนก.ย. เป็นต้นไป

* แนะซื้อ SCC- CK- STEC- KTB- KBANK- HMPRO- GLOBAL- CPALL- ROBINS
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน กล่าวกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่เข้ามาเร่งผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เชื่อว่าทีมเศรษฐกิจชุดใหม่จะเน้นในเรื่องของการกระตุ้นการเบิกจ่ายทางภาครัฐ และการพักชำระหนี้ รวมถึงนโยบายช่วยเหลือรากหญ้ากระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งจะหนุนให้เศรษฐกิจไทยค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงถัดไป
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ เลือกหุ้นที่อิงกับการบริโภคภายในประเทศที่จะฟื้นตัว อาทิ SCC- CK- STEC- KTB- KBANK- HMPRO- GLOBAL- CPALL- ROBINS

* เอเซียพลัส แนะหุ้นทน ศก. ชะลอตัว ชูกลุ่มปันผลเด่น
บทวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส ระบุว่า กลยุทธ์การลงทุน สำหรับนักลงทุนที่ถือหุ้นเกิน 6 เดือน น่าจะเป็นจังหวะสะสมหุ้นพื้นฐาน ซึ่งปลอดภัยจากเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว โดยเน้นเลือกหุ้นที่มีคุณสมบัติดังนี้คือ Dividend Yield สูง ที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภคพื้นฐาน หรือหุ้นที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสูง อาทิ
หุ้นสาธารณูปโภค โรงไฟฟ้า ประปา เนื่องจากรายได้ค่อนข้างมั่นคง มีความผันผวนต่ำ ได้แก่ EASTW (FV@B14) betaต่ำเพียง 0.39 และ PER เพียง 14 เท่า คาดหวัง Div.Yield ราว 4%, TTW (FV@B12.6) beta ต่ำเพียง 0.50 และ PER 16เท่า คาดหวัง Div.Yield ถึง 5.6%, EGCO (FV@B184) beta ต่ำเพียง 0.43 และ PER เพียง 14 เท่า คาดหวัง Div.Yield ราว4.08%
หุ้นเติบโตแรงท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว ได้แก่ SCC (FV@B 580) EPS Growth ปีนี้กว่า 40% และปีหน้าเติบโต 8%,WORK (FV@B 45) EPS Growth ปีนี้เติบโตถึงกว่า 7 เท่า และปีหน้าเติบโต ถึง 73%, และ THCOM(FV@BCC) EPSGrowth ปีนี้เติบโต 30% และปีหน้าเติบโต 12%
หุ้น Dividend Yield สูง ได้แก่ INTUCH (FV@B113) Div.Yield 6.5%, ADVANC (FV@B 285) Div.Yield 6%, BTS (FV@B12) Div.Yield 6.9%

*นายกฯ ลั่น เดินหน้าเร่งลงทุนในประเทศ
พลเอก ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการปรับครม.ในครั้งใหม่นี้ ว่า หากปรับแล้วไม่ดีขึ้น สุดท้ายแล้วการปรับตนเองออกอาจเป็นวิธีการดีที่สุด
" อยากให้ประชาชนเข้าใจว่า ขณะนี้ไม่มีปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจที่ดีจากต่างประเทศ ส่วนด้านในประเทศนั้นรัฐบาลอยู่ระหว่างการเร่งรัดการลงทุน ทั้งในพื้นที่ต่างๆ เขตเศรษฐกิจพิเศษ การค้าชายแดน ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างกำลังเดินหน้าหมด
นายกฯ กล่าวด้วยว่า หากไทยสามารถปรับปรุงทั้งระบบ สร้างเศรษฐกิจ รัฐบาลเข้มแข็ง ไทยจะมีโอกาสอย่างมหาศาลในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจอาเซียน
"เราจะต้องเจริญเติบโตและเข้าแข็งไปด้วยกัน เพราะนี่คือประเทศของเรา บ้านของเรา" นายก กล่าว

* "ประวิตร" เชื่อปรับ รมต.ด้านศก.สร้างความเชื่อมั่นได้มากขึ้น
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เชื่อว่า การปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ใหม่ทั้งหมด จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น
"ความเชื่อมั่นของประชาชนมีความสำคัญอย่างยิ่งที่เราต้องทำให้เกิด ผมก็หวังว่าจะดีขึ้น ส่วนจะดีหรือไม่ดี ก็ฝากทุกคนช่วยดู แต่คิดว่าเมื่อปรับแล้ว ต้องดีกว่าเดิม" พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การปรับครม.ในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตัดสินใจ เพียงคนเดียว โดยไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น แต่นายกรัฐมนตรีจะดูใน รายละเอียดของทุกกระทรวง และทุกเรื่อง เพราะเป็นคนติดตามงานต่างๆ ด้วยตัวเอง

* SPALI ชี้ โฉมหน้าครม.ชุดใหม่แจ่ม มั่นใจ ช่วยเดินหน้าศก.ช่วงที่เหลือของปีให้โตตามเป้า
นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และกรรมการบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI กล่าวว่า ครม.ชุดใหม่มีประสบการณ์ในการทำงาน เชื่อว่าท่านเข้าใจปัญหา แต่ที่จะต้องทำงานหนักคือไม่ทำให้เศรษฐกิจแย่ไปมากกว่านี้ และจะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้ามาช่วยเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตาม ตนมองว่ารัฐมนตรีที่จะเข้ามามีการเตรียมการอยู่แล้ว เพื่อกระตุ้นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีในช่วงที่เหลือให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย
ส่วนแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง ยอดโอนกรรมสิทธิ์ยังเติบโตดี แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ ยอดขายใหม่ที่ชะลอตัวลง จากผลิตทางการเกษตรชะลอตัว และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แต่อย่างไรก็ตามมองว่ายอดขายในปีนี้จะเติบโตได้ 0-5%

* ผอ.ออมสินมั่น ครม.ชุดใหม่ศึกษาข้อมูลเศรษฐกิจมาดี มั่นใจช่วยบริหารงานได้ชัดเจนขึ้น
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า การปรับครม.ชุดที่ 3 ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เชื่อว่า ได้มีการศึกษาข้อมูลทางเศรษฐกิจมาดีในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเข้าช่วยต่อยอดการทำงานให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป และมั่นใจว่าจะมีการบริหารงานได้ชัดเจนมากขึ้น

*ศูนย์ข้อมูอสังหาฯ วอน ครม.ใหม่ หามาตรการช่วยผู้มีรายได้น้อยมีบ้านหลังแรก มั่นใจตลาดอสังหาฯปีนี้โต 4-5%
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงการปรับครม.ชุดใหม่ว่า การปรับครม.มีขึ้นเป็นระยะอยู่แล้ว เชื่อจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน แต่ในด้านของการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ยังคงต้องอาศัยปัจจัยอื่นสนับสนุน เช่น เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจโดยทั่วไป ความต้องการซื้อและขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลงเล็กน้อย
แต่ทั้งนี้ ยังมั่นใจว่าในปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์รวมจะเติบโตได้ 4-5% และมีโอกาสที่ยอดปล่อยสินเชื่อจะเติบโตได้ 5.7-5.9 แสนล้านบาท หากเศรษฐกิจสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ ซึ่งสูงกว่าปี 57 ที่มียอดสินเชื่อรวม 5.7 แสนล้านบาท สำหรับครึ่งปีแรกที่ผ่านมาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ขยาวตัว 5-6% มียอดปล่อยสินเชื่อ 275,000 ล้านบาท สูงกว่าปี 57 ที่อยู่ที่ 250,000 ล้านบาท

*โปรดเกล้าฯ ครม. ประยุทธ์ 3 "สมคิด"นำทีมคุมศก.
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีตามประกาศลงวันที่ ๒๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และแต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินตามประกาศลงวันที่ ๓๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และประกาศครั้งสุดท้ายลงวันที่ ๑๘ พฤศจิกายนพุทธศักราช ๒๕๕๗ นั้น
บัดนี้ นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลว่า สมควรปรับปรุงรัฐมนตรีบางตำ แหน่งเพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดินอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๙ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)พุทธศักราช ๒๕๕๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑) พุทธศักราช ๒๕๕๘ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้
๑. ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรีพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยาา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมพลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานพลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการนายกฤษณพงศ์ กีรติกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการนายรัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนายสมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขนายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
๒. ให้แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร เป็นรองนายกรัฐมนตรีพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง เป็นรองนายกรัฐมนตรีพลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย เป็นรองนายกรัฐมนตรีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนายดอน ปรมัตถ์วินัย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมพลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนายอุตตม สาวนายน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารพลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานนางอภิรดี ตันตราภรณ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานพลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการนายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการนายปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนางอรรชกา สีบุญเรือง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปประกาศ ณ วันที่ ๑๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ เป็นปีที่ ๗๐ ในรัชกาลปัจจุบันผู้รับสนองพระบรมราชโองการพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี


 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com