March 29, 2024   2:37:30 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กองทุน-ฝรั่งถล่มขาย1.9หมื่นลบ.
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 19/08/2015 @ 08:42:25
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นไทยร่วงแรงสุด 46 จุด แตะ 1,362 จุด ทำนิวโลว์รอบ 17 เดือน สถาบัน-ฝรั่งทิ้งเฉียด 1.9 หมื่นลบ. หลังผวาเหตุระเบิดกลางกรุง ด้านหน่วยงานตลาดทุน เตือนนักลงทุนมีสติ ลงทุนอย่างรอบคอบ ขณะที่โบรกเกอร์ลดน้ำหนักหุ้นกลุ่มขนส่ง-โรงแรม-สายการบิน-ค้าปลีกและแบงก์ เพราะได้รับผลกระทบโดยตรง มองแนวรับที่ 1,364-1,350 จุด ส่วนบลจ.ทิสโก้ ฉวยโอกาสหุ้นหลุด 1,400 จุด เปิดขายกองทริกเกอร์ฟันด์ หวังผลตอบแทน 8% ใน 8 เดือน ด้านนายกรัฐมนตรี เผยมีกลุ่มมุ่งร้ายประเทศ ลั่นเร่งหาคนผิดมารับโทษ วอนประชาชนให้ความร่วมมือดูแลความเรียบร้อย

**ทำนิวโลว์รอบ 17 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงาน ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (18 ส.ค. 2558) เปิดที่ 1,371.88 จุด ลดลงทันที -36.86 จุด หรือ -2.62% หลังจากเกิดเหตุร้ายระเบิดกลางแยกราชประสงค์จนเกิดความเสียหายรุนแรงต่อชีวิต ขณะที่ระหว่างการซื้อขายภาคเช้าดัชนีทำจุดต่ำสุดที่ 1,370.54 จุดก่อนจะฟื้นตัวขึ้นมาได้จนสร้างจุดสูงสุดของวันได้ที่ 1,388.12 จุด ก่อนที่จะมีข่าวการยื่นทูลเกล้าเสนอรายชื่อเพื่อปรับคณะรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตามก่อนช่วงเปิดตลาดภาคบ่าย 14.30 น. ก็มีรายงานเหตุระเบิดซ้ำที่บริเวณสะพานสาธร แม้ครั้งนี้จะไม่มีความสูญเสียเกิดขึ้นก็ตาม แต่ก็ทำให้เกิดความวิตกเพิ่มเติมต่อประชาชนทั่วไป อีกทั้งมีกระแสข่าวตื่นตระหนกเหตุระเบิดเกิดขึ้นอีกหลายที่ซึ่งสุดท้ายก็เป็นความเข้าใจผิด ทว่าในกระดานหุ้น ดัชนีตลอดภาคบ่ายก็ดิ่งลงชัดเจนอีกจนสร้างจุดต่ำสุดของวันและเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 17 เดือนด้วยที่ระดับ 1,362.69 จุด กระทั่งปิดตลาดก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาพยุงให้ปิดได้ที่ 1,372.61 จุด ลดลง -36.13 จุด หรือ -2.56% มีมูลค่าการซื้อขายมากถึง 78,348.55 ล้านบาท.

**ฝรั่ง-สถาบันเทกระจาด ฟากรายย่อยซื้อ 1.7 หมื่นล.
สรุปการซื้อขายแยกรายกลุ่มนักลงทุนประจำวันที่ 18 ส.ค. 2558 มีมูลค่าซื้อขายตลอดวันทั้งสิ้น 78,348.55 ล้านบาท แบ่งเป็นนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,908.89 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 12,030.74 ล้านบาท
ส่วนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,239.18 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 17,700.47 ล้านบาท

**ก.ล.ต.เตือนนักลงทุนอย่าตื่นตระหนก
รายงานข่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยวานนี้ช่วงเช้าว่า ก.ล.ต. ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) โดยยืนยันว่าระบบการซื้อขายหลักทรัพย์มีความพร้อมในการรับมือความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้น จากผลกระทบของเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ ซึ่งขอให้นักลงทุนอย่าตื่นตระหนก โดย ก.ล.ต. ยังคงเปิดทำการตามปกติ เช่นเดียวกับ ตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุงรวม (บลจ.) ทุกแห่ง

**ผู้จัดการ ตลท. ชี้เหตุระเบิดเป็นปัจจัยกระทบตลาดหุ้นระยะสั้น
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยผ่านสถานีโทรทัศฯ์ Money channel เช้านี้ถึงเหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์เมื่อวานนี้ ว่า จะกระทบต่อจิตใจของประชาชนในระยะสั้น โดยทุกคนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนผลกระทบต่อตลาดหุ้นหากมองพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนยังคงแข็งแกร่ง ดังนั้น ยังเชื่อว่าบริษัทจดทะเบียนไทยจะให้ผลตอบแทนระยะยาวในระดับที่ดี 
ส่วนผลกระทบต่อการไหลออกของเงินลงทุนต่างชาติจากตลาดหุ้น ไม่น่าจะมีมาก เพราะสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติที่ถือครองหุ้นไทยตอนนี้มีประมาณ 32% ซึ่งไม่มาก เมื่อเทียบกับที่ผ่านมาที่เคยสูงถึง 35% ดังนั้น สัดส่วนนักลงทุนต่างชาติที่ถือหุ้นไทยอยู่ในตอนนี้เป็น core holding ซึ่งนักลงทุนต่างชาติกลุ่มนี้ยังคงอยู่ เพียงแต่อาจจะเห็นต่างชาติมีซื้อสุทธิบ้าง หรือขายสุทธิบ้างถือว่าเป็นเรื่องปกติของตลาด   
" หลายๆ ครั้งที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศ หรือสถานการณ์ในต่างประเทศ อาจกระทบระยะสั้นกับตลาดหุ้นไทย แต่ในระยะยาวถึงปานกลาง ภาพรวมของตลาดหุ้นจะขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนเอง เราเชื่อมั่นเรื่องผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนปีนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจจะโตเล็กน้อย แต่ผลประกอบการ บจ.โตมากกว่าเศรษฐกิจ " นางเกศรา กล่าว 
ส่วนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจะเกิดขึ้นช้าหรือเร็วเพียงใดนั้น อย่างน้อยวันนี้ภาพของตลาดหุ้นที่เกิดขึ้นอาจเป็นช่วงของการตรึกตรองก่อน และรอฟังข่าวสารเพิ่มเติมจากทางรัฐบาล เพราะตอนนี้มีเพียงเรื่องของการแถลงข่าวจากแต่ละหน่วยงาน ดังนั้น อยากให้นักลงทุนรอฟังอย่างเป็นทางการจากภาครัฐ  
" นักลงทุนควรดูปัจจัยพื้นฐานของ บจ. และประเมินข้อเท็จจริงข่าวสารต่างๆ ที่ออกมาจากรัฐบาล" นางเกศรา กล่าว   ทั้งนี้ อยากให้นักลงทุนมองการลงทุนในระยะยาว และหากดู บจ.หลายแห่งจะพบว่า มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลมากกว่า 5% ซึ่งถือว่าเป็นการจ่ายปันผลในระดับที่ดี   ส่วนนักลงทุนระยะสั้น อาจตามข้อมูลจากบทวิเคราะห์ และเมื่อดู P/E ของตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันจะพบว่าอยู่ในระดับที่ไม่สูง ถือว่า เหมาะสมที่จะลงทุนหุ้นในระยะยาว

**ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนชี้ระยะยาวหุ้นไทยยังให้ผลตอบแทนดี
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง และในฐานะประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านตลาดทุน ทั้งตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ได้ติดต่อประสานงานกันอย่างใกล้ชิด หลังเกิดเหตุระเบิดที่ราชประสงค์
ทั้งนี้นักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนก และใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุน เนื่องจากหากประเมินจากความมั่นคงทางเศรษฐกิจและพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมไปถึงรัฐบาลยังได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาวซึ่งกำลังจะเห็นผลเป็นรูปธรรม ทำให้เศรษฐกิจของประเทศยังคงเดินหน้าต่อไปได้ จึงขอให้ผู้ลงทุนติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆ อย่างใกล้ชิดจากแหล่งที่เชื่อถือได้   
ส่วนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาตินั้น มีข้อสังเกตว่าสื่อต่างประเทศให้ความสนใจข่าวนี้ค่อนข้างมาก แต่นักลงทุนไทยต้องตั้งสติอย่าเพิ่งตระหนกตาม เพราะจะเกิดประโยชน์ต่อคนที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ  
นางวรวรรณ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนว่า สำหรับนักลงทุนระยะยาว ขอให้มั่นคง และเชื่อในสิ่งที่ตนเองตัดสินใจ โดยในระยะหลังเมื่อตลาดปรับลดลงมากๆ จะมีนักลงทุนส่วนหนึ่งเข้ามาซื้อกองทุน LTF
ส่วนนักลงทุนระยะสั้น ยอมรับว่าลงทุนลำบาก ต้องพิจารณาอย่างใกล้ชิด เพราะแม้ไม่มีเหตุการณ์ระเบิด ส่วนใหญ่ก็มองดัชนีฯซบเซาอยู่แล้วในช่วงระยะสั้น

**นายกสมาคม บล. ชี้ต้องมีสติ-มองเป็นโอกาสซื้อสะสม
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า สิ่งที่จะต้องทำคือการเร่งสร้างความมั่นใจคือประเมินสถานการณ์ และให้ข้อมูลที่ดีที่สุดแก่นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยแนะนำนักลงทุนควรมีสติ อย่าตกใจ ให้มองสถานการณ์ทั่วโลก โดยให้ทยอยสะสมซื้อ มองระยะยาวเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม งานไทยแลนด์โฟกัส ที่จะจัดขึ้นเร็วๆ นี้ มั่นใจว่าถ้าไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเพิ่มขึ้น เชื่อว่าทุกอย่างจะสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้
สำหรับผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ยาวนานเกินไป ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะยังคงผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆให้เกิดขึ้น และหากไม่มีความรุนแรงรัฐบาลก็ต้องหาจุดที่จะเป็นกลไกขับเคลื่อนให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปให้ได้ โดยสิ่งที่จะเข้ามาสร้างความเชื่อมั่นได้เป็นอย่างดี คือการปฎิรูปประเทศ ถ้าเกิดได้เร็วจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นอย่างมาก

**สมาคมธนาคารไทย คาดการท่องเที่ยว-ลงทุน ได้รับผลกระทบระยะสั้น
นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ ส่งผลกระทบต่อภาคการรท่องเที่ยวในระยะสั้น เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงและเกิดในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ นอกจากนี้ภาคการลงทุนของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศจะได้รับผลกระทบในระยะสั้นเช่นกัน เนื่องจากความไม่มั่นใจและกังวลในสถานการณ์ยังคงมีอยู่ ทำให้ในระยะสั้นอาจจะมีการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย และนักลงทุนจะมีการชะลอการลงทุน เพื่อรอดูสถานการณ์
ทั้งนี้มองว่ารัฐบาลจะมีการเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนไทยและนักท่องเที่ยวจากต่างชาติในทุกชุมชน ทุกแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว "ในระยะสั้นภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนกระทบแน่นอน เพราะคนไม่มั่นใจและยังกังวลอยู่ แต่ในระยะยาวตอนนี้ยังไม่ได้ประเมินแต่คาดว่าจะไม่กระทบมากนัก โดยเฉพาะการลงทุนเพราะโครง สร้างพื้นฐานต่างๆของเราก็ยังดีอยู่ แต่การท่องเที่ยวขอรอประเมินผลกระทบในระยะยาวก่อน จะกระทบจีดีพีไทยตอนนี้ก็ยังไม่ได้ประเมิน"นายกอบศักดิ์ กล่าว
ส่วนธนาคารพาณิชย์ยังมีการเปิดดำเนินการให้บริการธุรกรรมทางการเงินเป็นปกติในวันนี้ ซึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังคงประกาศให้สถาบันการเงินเปิดบริการตามปกติ แต่มาตรการรักษาความปลอดภัยนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละธนาคาร ซึ่งหากธนาคารใดได้รับผลกระทบจากเหตุการระเบิดดังกล่าวก็สามารถปิดทำการสาขาที่ได้รับผลกระทบ
ด้านผลกระทบต่อการเติบโตของสินเชื่อของระบบในปีนี้ยังไม่ได้มีการ ประเมิน แต่ในเร็วๆนี้จะมีการนำเรื่องเหตุการณ์การณ์ระเบิดเมื่อวานนี้เข้ามาไปเป็น ปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาผลกระทบที่มีต่อการเติบโตของสินเชื่อ รวมในระบบธนาคารไทยด้วย

**โบรกฯ คาดวันนี้ SET ยังผวาเหตุระเบิดกรุงเทพ แต่มีลุ้นครม.ใหม่ -4G ช่วยหนุน
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปรับลดลงอย่างหนัก เผชิญแรงกดดันจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดบริเวณศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก แม้ว่าช่วงเช้าดัชนีฯ จะตอบรับแรงกดดันดังกล่าวไปบ้าง แต่ช่วงบ่ายเกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดซ้ำเติมบริเวณท่าเรือสาทร สะพานตากสิน จึงทำให้ดัชนีฯ ร่วงหนักกว่า 46 จุด เหตุการณ์ลอบวางระเบิดนับเป็นปัจจัยใหม่เฉพาะตัวที่เข้ากระทบต่อบรรยากาศการลงทุน โดยเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามต่อไปว่า เจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีมากน้อยเพียงใด จะจับตัวคนร้ายได้โดยเร็วหรือไม่ และหากมีเหตุการณ์ลอบวางระเบิดเกิดขึ้นต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการลงทุน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวและกลุ่มขนส่ง ดังจะเห็นได้จากหุ้นในกลุ่มดังกล่าวต่างปรับร่วงหนัก
   นอกจากนี้ราคาน้ำมันโลกร่วงแรงอีกครั้ง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน ที่เป็นกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่จะส่งผลกระทบต่อดัชนีฯ รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยชะลอตัวอยู่แล้ว ยังมีแรงกดดันเพิ่มเติม จากเหตุการณ์ลอบวางระเบิด โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่เป็นหนึ่งความหวังของการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย  
สำหรับวันนี้ คาดหุ้นไทยยังผันผวนหนัก ในทางเทคนิค หากหลุดแนวรับ 1,364 จุด ซึ่งเป็นแนวรับที่เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน จะมีโอกาสลงต่อไปที่ 1,350 จุดได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ดัชนีฯ ก็พร้อมจะรีบาวน์ได้เช่นกัน  
ด้านกลยุทธ์ สำหรับนักลงทุน แนะทยอยซื้อหุ้นอิงการบริโภค อย่าง CPALL-SCC หุ้นปันผลสูง อาทิ ADVANC-INTUCH หุ้นส่งออก อย่าง SVI และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน อย่าง KTB พร้อมประเมินแนวรับ 1,364-1,350 จุด แนวต้าน 1,386-1,400 จุด
   นายยศพล แสงนิล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน เปิดเผยว่า คาดดัชนีฯ วันนี้จะยืนแดนลบต่อไป โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง   
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่คาดว่าโครงการขนาดใหญ่และนโยบายต่างๆของภาครัฐฯ จะสามารถขับเคลื่อนได้เร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมา-ก่อสร้างโดยตรง รวมถึงการประมูล 4Gที่จะคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วง เดือน พ.ย.58นี้ หนุนให้หุ้นกลุ่มสื่อสารได้รับผลประโยชน์ โดยบริษัทได้รับผลประโยชน์จากการประมูลมากสุดได้แก่ TRUE - ADVANC - DTAC
กลยุทธ์การลงทุน แนะ เล่นสั้น หรือเน้นหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลและให้อัตราปันผลสูง หุ้นเด่น BDMS ราคาเป้าหมาย 25.50บาท และ TVO ราคาเป้าหมาย 27 บาท ประเมินแนวรับ 1,350จุด แนวต้าน 1,390จุด

**ทิสโก้ คว้าจังหวะหุ้นไทยหลุด 1,400 จุด ขาย “ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์”
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยดิ่งลงแรงในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ SET Index ปรับฐานลงแรงสู่ระดับต่ำกว่า 1,400 จุดนั้น ล่าสุด เพื่อเป็นการแนะนำการลงทุนในจังหวะเวลาที่เหมาะสม บลจ. ทิสโก้ จึงเปิดเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% 21” (TISCO Thai Equity Trigger 8% Fund 21) โดยตั้งเป้าหมายเลิกโครงการที่ 8%ภายใน 8 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนซื้อขายสับเปลี่ยนได้ทุกวันทำการ เปิดเสนอขายครั้งแรก 19 -21 ส.ค. 58 นี้  
“สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรง สาเหตุหลักมาจากความกังวลของนักลงทุนจากเหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์ ซึ่งแม้อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นๆ แต่หากมองในระยะกลางถึงยาว ภาพเศรษฐกิจและปัจจัยพื้นฐานในประเทศคาดว่าจะเริ่มทยอยปรับตัวดีขึ้นในปีหน้า การที่ดัชนี SET ปรับฐานลงมาต่ำกว่า 1,400 จุด เราจึงมองว่าเป็นจังหวะในการเข้าลงทุน โดยเชื่อว่าการเบิกจ่ายรวมถึงการลงทุนจากภาครัฐ ประกอบกับมาตรการทางการเงินที่ผ่อนคลาย ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ จะยังเป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจที่สำคัญ และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน และจะส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยให้ปรับตัวขึ้นได้ในไม่ช้า แนะนำทยอยซื้อที่ระดับต่ำกว่า 1,400 จุด” นายสาห์รัช กล่าว  
ทั้งนี้ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% 21” เป็นกองทริกเกอร์ฟันด์เน้นลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)และ/หรือตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) โดยมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท

**นายกรัฐมนตรีวอนประชาชนให้ความร่วมมือดูแลความเรียบร้อย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงข่าวผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ว่า จากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 เวลาประมาณ 19.00 น. ได้เกิดการบาดเจ็บ และสูญเสียของประชาชน ผู้บริสุทธิ์ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเป็นจำนวนมากนั้น ผมและรัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสียทุกคน ตลอดจนจะใช้มาตรการเยียวยาตามกฎหมายแก่ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้ดีที่สุด
จากเหตุการณ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าประเทศของเรายังมีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มุ่งประสงค์ร้ายต่อประเทศชาติยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งอาจจะเป็นการหวังผลทางการเมือง เพื่อทำลายเศรษฐกิจ ทำลายการท่องเที่ยว หรือด้วยเหตุผลอื่นใดก็ตาม รัฐบาลจะเร่งดำเนินการสืบสวน หาตัวผู้กระทำความผิดและขบวนการที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
" ผมและรัฐบาล ขอยืนยันให้ประชาชนทุกคนทราบว่า เราจะยืนอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอ ไม่ว่าจะยามทุกข์ หรือสุข เมื่อใดที่ประชาชนมีความทุกข์ เราทุกข์ยิ่งกว่า ด้วยความสำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบที่เรามีต่อประเทศชาติและประชาชน ขอให้ประชาชนคนไทยทุกคน ทุกภาคส่วน รวมทั้งข้าราชการทุกหมู่เหล่าได้จับมือกันพร้อมก้าวเดินไปข้างหน้า ขจัดความเลวร้าย ภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวง ที่เรากำลังเผชิญอยู่ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นภัยที่มองเห็นและมองไม่เห็น หากเรารวมกันสามัคคีกัน เราจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างไปได้รวดเร็วขึ้น เพื่อให้ประเทศไทย กลับมาสู่สภาวะปกติได้ในไม่ช้า ผมขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนง โซเชียลมีเดียต่าง ๆ ช่วยเสนอข่าวในทางสร้างสรรค์ ไม่ขยายความรุนแรงออกไป ไม่ว่าจะด้วยภาพ เสียง คลิปวิดีโอ หรือคำวิพากษ์วิจารณ์ หรือการแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างที่การสืบสวนสอบสวนกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งอาจเป็นการชี้นำต่อรูปคดี และทำให้สังคมสับสนได้ " นายกฯกล่าว
สำหรับชาวต่างประเทศที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย รวมถึงสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล องค์กรระหว่างประเทศ รัฐบาลขอให้คำมั่นว่าจะดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนผลประโยชน์ของท่านอย่างเต็มขีดความสามารถ รวมทั้งจะแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ทราบอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงเวลานี้ขอให้ทุกคน ทุกภาคส่วน ร่วมแรงร่วมใจกัน ช่วยเหลือสนับสนุน สอดส่องดูแลสิ่งที่ผิดปกติ รวมทั้งช่วยประชาสัมพันธ์สิ่งที่ดีงามของเรา และสร้างความเข้าใจกับต่างประเทศให้ได้ในทุกมิติ เพื่อให้ประเทศชาติและสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของเรามีความมั่นคง
" ผมและรัฐบาล ขอขอบคุณและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ร่วมกันปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ในช่วงเวลาอันเลวร้ายที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ขอให้ทุกคนได้ช่วยกันทำให้ประเทศของเราเกิดความมั่นคง ปลอดภัย และติดตามผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com