April 20, 2024   4:45:33 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > SETต่ำสุดรอบ7เดือน-รูกูลั่นไม่หลุด1400จุด
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 22/07/2015 @ 08:32:56
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

2 วันหุ้นไทยทรุดเฉียด 40 จุด ปิดที่ระดับ 1447 จุด ทำนิวโลว์ปีนี้ นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจฟื้นชะลอตัว ภาครัฐลงทุนล่าช้า ไม่มีนโยบายกระตุ้น เป็นรูปธรรม แถมกำไรบจ.ต่ำกว่าคาด แต่นักวิเคราะห์ยังมั่นใจแนวรับบริเวณ 1410 - 1400 จุด ยังแข็งแกร่ง แนะทยอยสะสมลงทุนระยะยาว คาดช่วงที่เหลือ ของปีเคลื่อนไหวกรอบ 1400-1500 จุด ด้านผู้จัดการตลท.มองหุ้นไทยยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในภูมิภาคเหมาะถือยาวถึงปีหน้า

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ 21 ก.ค.2558 ปรับตัวลงอย่างรุนแรง ลบต่อเนื่องเป็นวันทำการที่ 6 ติดต่อกัน ระหว่างการซื้อขายได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ของปีนี้และนับเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่ระดับ 1,442.79 จุด ก่อนจะขยับขึ้นมาเล็กน้อยกระทั่งปิดที่ 1,447.44 จุด ลดลง -19.27 จุด หรือ -1.33% มีมูลค่าการซื้อขาย 40,249.44 ล้านบาท สรุปการซื้อขายสิ้นวันนักลงทุนต่างชาติขายออกมาสุทธิ 353.18 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,669.63 ส่วนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,952.32 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 70.49 ล้านบาท

**นลท.ผิดหวังศก.ไทย
นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์ บล.ธนชาต เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยวาน(21ก.ค.)นี้ เจอแรงขายกดดันตลอดการซื้อขาย จนดัชนีฯ หลุดแนวรับสำคัญที่เป็นจุดต่ำสุดเดิม 1,461 จุด ลงมา โดยสาเหตุหลัก จากความผิดหวังของนักลงทุนต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวอีกครั้ง จากภาคการส่งออกที่ชะลอตัว การลงทุนภาครัฐ หลาย ๆ โครงการก็ถูกเลื่อนออกไป ตลอดจนภาคการท่องเที่ยวก็เผชิญแรงกดดันจากกรณี ICAO และปัญหาภัยแล้งที่เข้ามากระทบเพิ่มเติม   
ขณะที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ทยอยประกาศออกมาเป็นกลุ่มแรก แม้จะไม่ได้แย่ไปกว่าคาดการณ์ และได้สะท้อนไปในราคาหุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงก่อนหน้า แต่ก็ยังไม่มีแรงซื้อกลับเนื่องจากยังไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน   
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ หลังจากปัญหาหนี้กรีซคลายแรงกดดัน แต่ยังต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อทิศทางการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปลายปีนี้ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่า หากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจริงในภายในปีนี้ จะส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง แม้จะตอบรับข่าวดังกล่าวไปบางส่วน ที่สะท้อนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ส่งผลกระทบต่อสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะน้ำมัน และทองคำที่ร่วงหนักต่อเนื่อง

**ส่อ SET ร่วงต่อสร้างจุดต่ำสุดใหม่
นักวิเคราะห์ระบุเพิ่มเติมว่า คาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งลงต่อ หลังสัญญาณเทคนิคไม่ดีนัก ดัชนีฯ ลงสร้างจุดต่ำสุดใหม่ จึงมีโอกาสแกว่งลงต่อในลักษณะ Sideway down อาจจะลงลึกไปถึง 1,410 จุด อีกทั้งปัจจัยพื้นฐาน ภาพรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า และกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติที่ยังขายสุทธิต่อเนื่อง และถึงแม้ว่าผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่เริ่มทยอยประกาศออกมาไม่ได้ต่ำกว่าคาด แต่ยังไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุนให้มีแรงซื้อกลับอย่างมีนัยสำคัญ   
ด้านกลยุทธ์ แนะทยอยซื้อหุ้นในกลุ่มสื่อสาร ที่ได้รับประโยชน์จากการประมูล 4G และหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่จะได้ประโยชน์จากงานก่อสร้างของภาครัฐ โดยให้น้ำหนักกับหุ้นในกลุ่มสื่อสารมากกว่า พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,446-1,430 จุด แนวต้าน 1,462 จุด

**มอง Q3 ผันผวน และจะดีขึ้นปลายปี
นายพรเทพ ชูพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ ที่กล่าวว่า มองดัชนีฯไตรมาส 3/58 จะผันผวนยิ่งขึ้น จากปัจจัยต่างประเทศ ทั้งธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ที่มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. นี้ และเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง  
ขณะที่ยังคงมองว่าในไตรมาส 4/58 ดัชนีฯจะดีดกลับขึ้นได้ จากการลงทุนของภาครัฐ ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่น โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มธนาคาร รวมถึงนักลงทุนต่างชาติที่จะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยยังคงเป้าหมายดัชนีฯปีนี้ไว้ที่ 1,800 จุด

** ในช่วงที่เหลือของปีคาดเคลื่อนไหว 1,400-1,500 จุด
นายสุวัฒน์ สินสาฏก รองหัวหน้าวิเคราะห์กลุ่มสถาบัน นักวิเคราะห์อาวุโส ฝ่ายพลังงานและปิโตรเคมี บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี ซิเคียวริตี้ส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,400-1,500 จุด โดยประเมินว่าตลาดหุ้นยังเป็นช่วงขาลง เนื่องจากได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากการลงทุนของภาครัฐที่มีความล่าช้า ซึ่งคาดว่าจะเห็นการเบิกจ่ายภาครัฐเพียง 70% ขณะที่คาดว่ามูลค่าการซื้อขายในปีนี้ น่าจะอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาทต่อวัน 
"เรามองว่าระดับดัชนีจากนี้ถึงสิ้นปีอาจจะเป็นช่วงขาลงเคลื่อนไหวในกรอบ 1,400-1,500 จุด และมีโอกาสลงแตะ 1,400 จุด จากเดิมมองที่ 1,500-1,600 จุด เพราะว่าได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำ การลงทุนของรัฐล่าช้า ซึ่งมองว่าล่าช้ามาก คิดว่าจะมีการเบิกจ่ายเพียง 70% ของงบรวม ที่เหลือคงไปเร่งปีหน้า เราจึงอยากให้นักลงทุนปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงบ้าง "นายสุวัศน์ กล่าว
  นอกจากนี้ ได้ปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนลงเหลือเติบโต 13-14 % ในปีนี้ จากเดิมมองว่าจะเติบโตได้ 45% เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศษฐกิจที่ชะลอลงทั้งเศรษฐกิจไทย และ เศรษฐกิจโลก  
อย่างไรก็ตาม ยังแนะนำลงทุนในหุ้น IVL,IRPC,PTTGC ที่ได้รับประโยชน์จากต้นทุนที่ถูกลงจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมัน โดยประเมินว่าราคาน้ำมันดิบปีนี้จะเฉลี่ยอยู่ที่ 50-60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายเจษฎา สุขทิศ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน อินฟินิติ จำกัด เปิดเผยด้วยมุมมองสอดคล้องกันว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการเบิกจ่ายภาครัฐ ที่คาดว่าจะล่าช้าออกไปเป็นปี 59 มากขึ้น  
โดยมองว่าช่วงที่เหลือดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,400- 1,500 จุด และ คาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้จะเติบโตได้ 10% และ อาจจะปรับลดลงได้อีก
  สำหรับหุ้นที่แนะนำให้ลงทุน คือ กลุ่ม สนามบินอย่าง AOT และ กลุ่มโรงแรม เช่น ERW ,MINT และ CENTEL ที่ยังถือว่ามีพื้นฐานมีความแข็งแกร่ง เพราะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งได้รับผลดีจากนักท่องเที่ยวจีนที่ยังนิยมเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย  

**เน้นถือเงินสด
นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้าดัชนีตลาดหุ้นไทย(SET Index)ในปี 58 ไว้ที่ 1,550 จุด มองการลงทุนของภาครัฐเป็นปัจจัยสนับสนุนหลัก แต่ยังต้องรอดูการอัดฉีดเม็ดเงินของรัฐบาลในรอบใหม่ว่าจะกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) ได้มากน้อยเพียงใด ขณะที่เศรษฐกิจไทยปีนี้ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงหลายเรื่อง โดยเฉพาะปัจจัยจากต่างประเทศ ทั้งเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และมาตรการรัดเข็มขัดของบางประเทศ 
ทั้งนี้ SET Index ช่วงครึ่งปีหลัง น่าจะยังไม่ไปไหนไกล ขณะที่ต่างชาติยังเป็นการขายสุทธิต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดว่าปริมาณการซื้อขายจะอยู่ที่ 4-4.5 หมื่นล้านบาทต่อวัน  อย่างไรก็ตามแนะนักลงทุนต้องสำรองทางเลือกอื่นๆ เช่น ถือครองเงินสดมากขึ้น หรือ เคลื่อนย้ายไปลงทุนในตราสารอนุพันธ์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องด้วยนักลงทุนสามารถซื้อประกันความเสี่ยงได้ ตามระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนพอใจ

**กลยุทธ์แนะเลือกหุ้นปันผลสูง
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงต่อเนื่องตามการปรับฐาน ตามตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และผลการดำเนินงานไตรมาส 2/58 ของบริษัทจดทะเบียนที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้นักวิเคราะห์หลักทรัพย์มีโอกาสปรับประมาณการปีนี้ลงได้  
อย่างไรก็ตามมองว่าหากจะปรับลงอีกก็คาดว่าจะไม่หลุด 1,400 จุด แนะนำทยอยลงทุนหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลสูงในระดับ 5% ขึ้นไป เช่น ASK, TVO, BTS, INTUCH เป็นต้น และบางส่วนอาจเข้าลงทุนในหุ้นที่ภูมิคุ้มกันจากความผันผวนของเศรษฐกิจเช่น กลุ่มก่อสร้าง อย่าง CK หรือกลุ่มปิโตรเคมีอย่างเช่น IRPC หรือกลุ่มที่มีรายได้ที่แน่นนอนอย่าง THCOM

**ผู้จัดการตลท.มองหุ้นไทยเหมาะถือยาวถึงปีหน้า
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ยอมรับว่า ขณะนี้คงยังไม่เห็นกระแสเงินทุนต่างชาติ(Fund Flow)ไหลเข้าในตลาดหุ้นไทยมากนัก เพราะการลงทุนในตลาดหุ้นอาเซียนระยะนี้ไม่ใช่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลก แต่หากเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค ถือว่าตลาดหุ้นไทยยังมีศักยภาพที่ดี ในลักษณะการลงทุนแบบถือยาวจนไปถึงปีหน้า เนื่องจากปัจจุบันราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปในระดับหนึ่ง จนมูลค่าเริ่มน่าสนใจในการเข้าลงทุน   
ทว่า ตลาดหุ้นยังมีปัจจัยเสี่ยงอยู่ โดยเฉพาะความชัดเจนการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในช่วงปลายปีนี้ หรืออย่างช้าต้นปี 59 ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนอีกครั้ง  
ผู้จัดการ ตลท.กล่าวด้วยว่า สำหรับการทยอยประกาศงบการเงินไตรมาส 2/58 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ไม่ได้แย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ ภาพรวมระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับ 2% ถือว่ายังสามารถบริหารจัดการได้ดี แม้ว่าไตรมาส 2/58 จะมีการตั้งสำรองสูง   
นอกจากนี้ จากการที่ ตลท.ออกไปนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน(โรดโชว์)ที่สิงคโปร์ ก็ได้รับผลตอบรับที่ดี โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้กังวลเรื่องใดเป็นพิเศษ แต่ส่วนใหญ่จะสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของไทย ซึ่งต่อจากนี้ ตลท.เตรียมเดินทางไปโรดโชว์ที่เมืองนิวยอร์กในช่วงเดือน ต.ค.นี้เพื่อให้มีความต่อเนื่อง


 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com